កន្ទុំរុយ-แมลงปอ ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

image

ภาษาเขมร : កន្ទុំរុយ
อ่านว่า : ก็อน ตม รุย
แปลว่า : អានត-อ่านต่อ

ขอให้ชั้นดูหน้าลูกหน่อยได้ไหมคะ?

image

คุณแม่คนใหม่เอ่ยขึ้น เมื่อห่อผ้าน้อย ๆ อยู่ใน
อ้อมกอดเธอ เธอค่อย ๆ คลี่ผ้าที่ห่อออกเพื่อมอง
ใบหน้าเล็กๆ เธอกรีดร้อง หมอต้องอุ้มเด็กออกไป
อย่างรวดเร็ว เด็กทารกที่เกิดมาไม่มีใบหู!!
………
กาลเวลาพิสูจน์ว่าการได้ยินของเจ้าหนูไม่มีปัญหา
ปัญหามีเฉพาะสิ่งที่มองเห็นภายนอก คือ ใบหูที่หายไป
หลายครั้งที่เจ้าหนูกลับจากโรงเรียนแล้ววิ่งมาซบอกแม่
เธอรู้ว่าหัวใจลูกปวดร้าวแค่ไหน เจ้าหนูพูดโพล่งออกมา
อย่างน่าเศร้า “พวกเด็กตัวโต พวกมันล้อผมว่า ตัวประหลาด”
……..
เจ้าหนูเติบโตขึ้น หล่อเหลา เป็นที่รักของเพื่อน ๆ
เขามีพรสวรรค์ในด้านอักษรศาสตร์ วรรณคดี และดนตรี
เขาอาจได้เป็นหัวหน้าชั้น แต่เพราะเจ้าสิ่งนั้น…
“ลูกต้องพบปะกับผู้คนบ้างนะลูก” แม่กล่าวด้วยความสงสาร
………
พ่อของเด็กชายปรึกษากับหมอประจำครอบครัว
“ผมสามารถปลูกถ่ายใบหูได้ครับถ้ามีผู้บริจาค แต่
ใครล่ะจะเสียสละใบหูเพื่อเด็กน้อยคนนี้” คุณหมอกล่าว
……..
หนึ่งปีผ่านไป พ่อบอกกับลูกชาย…..
“ลูกเตรียมตัวไปโรงพยาบาลนะ พ่อกับแม่หาคน
บริจาคใบหูที่ลูกต้องการได้แล้ว แต่นี่เป็นความลับ”
………
การผ่าตัดสำเร็จ

ខ្យាដំរី-แมงป่อง ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

image

ภาษาเขมร : ខ្យាដំរី
อ่านว่า : คฺยา ด็อม แร็ย
แปลว่า : អានត-อ่านต่อ

សំណួរល្បងប្រាជ្ញា

  1. ស្លឹក​អ្វី​ដែល​មាន​តម្លៃ​ជាង​គេ?
  2. ត្រី​អ្វី​មាន​តម្លៃ​ជាង​គេ​?
  3. ដើម​ឈើ​អ្វី​ដែល​គ្មាន​ស្លឹក​?
  4. សមុទ្រ​ណា​ដែល​គ្មាន​រលក?
  5. ពីភ្នំពេញដល់ព្រះវិហារ​ មាន​ផ្លូវ​បត់​ប៉ុន្មាន?
  6. អ្នក​ណា​ដែល​ធ្វើ​ឲ្យគេ​ញញឹម​ច្រើន​ជាង​គេ​?
  7. ពេល​ទិញ​មក​ពណ៌​ខ្មៅ​ ពេល​ប្រើ​ពណ៌​ក្រហម​ ហើយ​ពេល​បោះ​ចោល​ពណ៌​ប្រផះ?
  8. នៅ​កន្លែង​ណា​ដែល​ “​យប់​” មាន​មុន​ “​ល្ងាច”​ ?
  9. ទាមួយ​ដើរ​មុខ​ទា​២ ទា​មួយ​ដើរ​ក្រោយ​ទា​២ ទាមួយ​ដើ​រ​កណ្តាល​ទា​២។ តើ​ទា​មាន​ប៉ុន្មាន?
  10. ឪពុក​វាយ​កូន​​ ហើយ​និង​ម្តាយ​វាយ​កូន​ តើ​មួយ​ណា​ឈឺ​ជាង​?
  11. អ្វី​ទៅ​ដែល​ជា​កម្ម​សិទ្ធិ​របស់​យើង​តែ​អ្នក​ដទៃ​ប្រើ​ប្រាស់​ច្រើន​ជាង​​?
  12. ស្អី​គេ​ដែល​មាន​តែ​ធ្មេញ​អត់​មាត់?
  13. ក្មេង​ៗ ​៦​នាក់ និង​ឆ្កែ​ធំ​២ក្បាល​ បាំង​ឆ័ត្រ​តូច​មួយ តែ​មិន​ទទឹក​ភ្លៀង​សោះ​។ ហេតុ​អ្វី​?
  14. ថ្ងៃ​មួយ​ទី​ក្រុង​ភ្នំ​ពេញ​ទាំង​មូល ដាច់​ភ្លើង​ លើ​មេឃ​គ្មាន​ពន្លឺព្រះ​ច័ន្រ្ទ គ្មាន​ពន្លឺ​តារា ផ្ទះ​សុទ្ធ​តែ​លាប​ពណ៌​ខ្មៅ​ ផ្លូវ​ក៏​ពណ៌​ខ្មៅ អ្វី​ៗ​ទាំង​អស់​សុទ្ធ​តែ​ពណ៌​ខ្មៅ។ អ្នក​ជិះ​កង់​ម្នាក់ ស្លៀក​ពាក់​ពណ៌​ខ្មៅ​ មួក​ខ្មៅ​ កង់​ខ្មៅ កំពុង​ធ្វើ​ដំណើរ​លើ​ផ្លូវ​មួយ​ ស្រាប់​តែ​មាន​ឆ្កែ​ខ្មៅ​មួយ​រត់​កាត់ គាត់​ក៏​ចាប់​ហ្វ្រាំង​ងក់!​ ហេតុ​អ្វី​បាន​ជា​គាត់​មើល​ឃើញ​?
  15. ចូរ​ប្រាប់​ឈ្មោះ​ថ្ងៃ​ទាំង​ប្រាំ​នៃ​សប្តាហ៍​ដោយ​មិន​និយាយ​ ថ្ងៃ​ ចន្ទ​ អង្គារ ពុធ​ ព្រហស្បតិ៍ និង​សុក្រ​។
  16. សេះ​មួយ​ក្បាលដើរ​ទៅ​ផឹក​ទឹក​នៅ​ស្ទឹង​មួយ។​ នៅ​តាម​ផ្លូវ​វា​បាន​ជួបនឹង​ពពែ​៦​ក្បាល។ នៅ​លើ​ខ្នង​ពពែ​នីមួយៗ​មាន​ស្វា​៣​ក្បាល។ នៅ​លើ​ស្វា​នីមួយៗ​​មាន​ចាប​២​ក្បាល​។ តើ​មាន​សត្វ​ប៉ុន្មាន​ក្បាលដើរ​​ទៅ​ផឹក​ទឹក?
  17. មាន​គ្រូប​ង្រៀន​ម្នាក់​និង​ក្មេង​ប្រុស​ម្នាក់​កំពុង​ងូត​ទឹក។ ក្មេង​ប្រុស​ជា​កូន​របស់​គ្រូ​បង្រៀន​នោះ​ តែ​គ្រូ​បង្រៀន​នោះ​មិន​មែន​ជា​ឪពុក​របស់​វា​ទេ​។ តើ​គាត់​ជា​នរណា?
  18. មាន​សំលាញ់​ពីរ​នាក់​ ម្នាក់​គ ម្នាក់​ទៀត​ខ្វាក់ នាំ​គ្នា​ទៅ​ផ្សារ។ អ្នក​គ ចង់​ទិញ​ក្រវិល​ ក៏​យក​ដៃ​ទាញ​ត្រចៀក​ធ្វើ​ជា​សញ្ញា​។ ចុះ​អ្នក​ខ្វាក់​ចង់​ទិញ​នាឡិកា ធ្វើ​យ៉ាង​ម៉េច​?
  19. តើ​សត្វ​ណា​ដែល​ដើរ​ជាង​៤​នៅ​ពេល​ព្រឹក ដើរ​ជើង​២​នៅពេលថ្ងៃ​ត្រង់ និង​ដើរ​ជើង​៣​នៅ​ពេល​រសៀល​?
  20. ក្រុម​កី​ឡាបាល់​ទាត់​​ពីរ​ក្រុម​ប្រកួត​គ្នា។ ពេល​នោះ​មាន​មួយ​ក្រុម​ប្រកួត​ឈ្នះ តែ​គេ​ពិនិត្យ​ទៅ​ឃើញ​ថា​ គ្មាន​កីឡាករ​ណា​ម្នាក់​បាន​ទាត់​បាល់​សោះ។​ ព្រោះ​អ្វី​?
  21. ឪពុក​២​នាក់​ និង​កូន​២​នាក់​ ទៅ​បរបាញ់​សត្វ​។ ពួក​គេ​បាញ់​បាន​សត្វ​ម្នាក់​មួយ​តែសត្វ​ដែល​បាញ់​បាន​ទាំង​អស់​មាន 3។ ហេតុអ្វី​?
  22. នៅ​ក្នុង​រថ​យន្ត​ក្រុង​មួយ​មាន​មនុស្ស​ដប់​នាក់។ ប្រុស​បី​ស្រី​ម្នាក់​ ចេញ​ទៅ។ តើ​នៅ​សល់​មនុស្ស​ប៉ុន្មាន​នាក់?

ចម្លើយ

  1. ស្លឹក​ត្រ​ចៀក
  2. ត្រីមាស
  3. ដើម​ឈើ​ងាប់
  4. សមុទ្រ​ទឹក​កក
  5. មាន​តែ​ពីរ​គត់​គឺ​បត់​ឆ្វេង​និង​បត់​ស្តាំ
  6. ជាង​​ថត​រូប
  7. ធ្យូង
  8. ក្នុង​វចនានុក្រម
  9. “​ទា​មាន​៣​” ដើរ​ជាជួរ
  10. កូន
  11. ឈ្មោះរបស់​យើង
  12. រណា
  13. ព្រោះ​មេឃ​អត់​ភ្លៀង
  14. ព្រោះ​វា​ជា​ពេល​ថ្ងៃ
  15. ម្សិលម្ងៃ ម្សិល​ម៉ិញ ថ្ងៃ​នេះ ថ្ងៃ​ស្អែក និង​ខាន់​ស្អែក
  16. មាន​តែ​សេះ​មួយ​ក្បាល​គត់ ព្រោះ​សត្វ​ផ្សេង​ទៀត​ទើប​តែ​ត្រឡប់​មក​វិញ
  17. ម្តាយ​របស់​ក្មេង​ប្រុស
  18. និយាយ​ប្រាប់​អ្នក​លក់
  19. “​មនុស្ស​” ដើរ​ជើង​៤​ពេល​កុមារ ដើរ​ជើង​២​ពេល​ដឹង​ក្តី​ និង​ដើ​រជើង​៣​ពេល​ជរា
  20. ព្រោះ​វា​ជាការ​ប្រកួត​រវាង​កីឡា​ការិនី!
  21. ព្រោះ​មនុស្ស​មាន​តែ​៣​នាក់ គឺ កូន​ ឪពុក​ និង​ជីតា
  22. “​៨​នាក់ គឺ​ប្រុស​ម្នាក់​បី​ស្រី​ម្នាក់​ចេញ”

 

ពោះវៀនធំ-ลำไส้ใหญ่ ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

image

ภาษาเขมร : ពោះវៀនធំ
อ่านว่า : โป๊ะฮ์ เวียน ธม
แปลว่า :  អានត-อ่านต่อ

อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ความหมาย

poorboy

ลูกชาย : พ่อครับ ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย ?
พ่อ : แน่นอนได้สิ, ลูกจะถามอะไร
ลูกชาย : พ่อครับ ใน 1ชั่วโมง พ่อหาเงินได้เท่าไหร่หรอคับ ?
พ่อ : มันไม่ใช่ธุระอะไรของลูก ทำไมถึงถามอะไรแบบนี้ ?
ลูกชาย : ผมแค่อยากรู้ ได้โปรดบอกผมเถอะคับ ใน 1 ชั่วโมงพ่อหาเงินได้เท่าไหร่ ?
พ่อ : ถ้าลูกต้องรู้ให้ได้ พ่อก็จะบอกให้ฟัง ใน 1 ชั่วโมง พ่อหาเงินได้ 100 บาท
ลูกชาย : โห !!! (ทำหน้าเศร้าพร้อมกับก้มหน้าลงลูกชาย : พ่อครับ ผมขอยืมเงินพ่อ 50 บาทได้ไหม ?

พ่อของเขาโมโหมาก
พ่อ : ถ้าด้วยเหตุผลที่ลูกถาม เพียงเพราะอยากยืมเงินพ่อ เพื่อไปซื้อของเล่นห่วยๆ หรือ สิ่งของไร้สาระพวกนั้น
ลูกควรจะนำตัวเองตรงกลับไปที่ห้อง และ เข้านอน พร้อมกับคิดว่าทำไมถึงเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างนี้ พ่อทำงานหนักทุกวัน เพื่อเลี้ยงลูกที่มีนิสัยอย่างนี้หรอ

เด็กชายตัวน้อยเงียบลง
และค่อยๆเดินขึ้นห้องของเขาและปิดประตูลง

พ่อนั่งลงด้วยความโมโห นึกย้อนกับไปถึงคำถามของลูกชาย
เขากล้าถามกัยเราอย่างนั้นได้อย่างไร
เพียงเพื่อแลกกับเงินบางส่วน
ผ่านไป 1 ชั่วโมง… อารมณ์ของพ่อก็เริ่มสงบลง และเริ่มคิดได้ว่า
บางทีอาจจะมีบางสิ่งที่มีราคา 50 บาท ซึ่งลูกอยากได้จริงๆ
และความจริงแล้ว เขาก็ไม่เคยถาม หรือ ขอเงินเราเลย
ดังนั้น พ่อจึงตัดสินใจเดินขึ้นไปหาลูกที่ห้องนอน

พ่อ : นังไม่นอนอีกหรอลูก ?
ลูก : ไม่คับพ่อ ผมยังไม่นอน
พ่อ : พ่อมาคิดดูแล้ว บางทีพ่อคงทำงานจนเหนื่อยเกินไป ถึงได้พูดกับลูกแรงขนาดนั้น
นี้เงิน 50 บาท ที่ลูกขอยืมพ่อ เอาไปซิ

หนุ่มน้อยฉีกยิ้มด้วยความดีใจ พร้อมกับลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเอง เขาก้อรีบดึงแบงค์ยับๆจำนวนหนึ่ง และ เศษเหรียญเล็กๆ น้อยๆ ออกมาจากใต้หมอนของเขา
เขานั่งบรรจงนับมันอย่างช้าๆ แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองพ่อ
ในขณะเดียวกันกับพ่อเริ่มจะโมโหขึ้นอีกรอบ เพราะเห็นลูกชายซ่อนเงินจำนวนหนึ่งไว้ใต้หมอน

พ่อ : ลูกจะเอาเงินเยอะแยะขนาดนี้ไปทำอะไร ในเมื่อลูกก็มีมันอยู่มากพอแล้ว (พ่อถามด้วยอารมณ์เริ่มโกรธ)

ลูกชาย : เพราะผมมีไม่พอครับ แต่ตอนนี้ผมมีครบแล้ว
พ่อครับ นี้เงิน 100 บาท ผมขอซื้อเวลาทำงานพ่อ 1 ชั่วโมงครับ
พรุ้งนี้ตอนเย็น พ่อช่วยกลับมาบ้านมาหาผมเร็วๆ นะครับ ผมเพียงแค่อยากกินข้าวเย็นกับพ่อครับ

พ่อหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เพราะความเจ็บปวดที่หน้าอก
รู้สึกเหมือนดวงใจของเขา มันจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
พ่อรีบคุกเข่าลง โผกอดลูกชายทั้งน้ำตา พร้อมกับขอให้ลูกชายสุดที่รักเขายกโทษให้ตัวเขา….!!!!

นี่เป็นเรื่องเล่าเพียงสั้นๆ ที่อยากเตือนให้คุณคิดว่า เราไม่ควรปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ความหมาย.

แก้โรคปวดหลังโดยน้ำมะพร้าวกับพริกไทย

image

image

บทความและรูปภาพจากกลุ่มไลน์ครับ
งั้น ลองดูตามความเหมาะสมนะค่ะ
แก้ปวดหลัง ดื่มแล้วหายโดยไม่ต้องผ่าตัด…
สมุนไพรเป็นยาขนานนี้ดื่มกันมานานจากการบอกกล่าวต่อกันมานานหลายสิบปีแล้ว ซึ่งได้ทราบจากคุณภิมุข รัตนอาภา ปัจจุบันอายุ 74 ปี โทรศัพท์บอกกล่าวให้ทราบตั้งแต่ปี 52 และส่งเป็นเอกสารที่ท่านเผยแพร่มาให้อีก สืบเนื่องจากท่านเผยแพร่ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยรายการทั่วทิศถิ่นไทยแล้วมีผู้ดื่มแล้วหายกันมากมายเป็นที่กล่าวขานว่าได้ผลจริง การเขียนบอกกล่าวเป็นบันทึกว่าจะเขียนหลายครั้งก็ไม่มีความมั่นใจว่ารักษาได้ผลจริงไหม แต่ก็เคยได้บอกบ้าง

ពោះវៀនតូច-ลำไส้เล็ก ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

image

ภาษาเขมร : ពោះវៀនតូច
อ่านว่า : โปะฮ์ เวียน โตกจ์ หรือ ปัวะฮ์ เวียน โต๊กจ์
แปลว่า : អានត-อ่านต่อ

6 ข้อคิดดีๆเอาไว้อ่านนะครับ

“จงบิน ! ให้สูงกว่า ที่คิด . . . . .
เพราะชีวิต มันสั้นกว่า ที่หวัง

จงพูด ให้น้อยกว่า ที่ฟัง . . . . .
และจงทำ ให้มากกว่า ที่พูด

จงหวัง! ให้น้อยกว่า ที่รัก . . . . .
เพราะอาจ อกหัก ใจสลาย

จงทำดีให้มากกว่า ที่ร้าย . . . . .
จงคิดอภัย ให้มากกว่าที่ชัง

จงกลัว! ให้น้อยกว่า ที่กล้า . . . .
และศรัทธา ให้มากกว่าที่เห็น

ปล่อยวาง ให้มากกว่า ที่เป็น . . .
แล้วจะเห็น ความสุขที่แท้จริง”

เข้มแข็งไว้น่ะที่รัก

“เข้มแข็งไว้น่ะที่รัก”

Robber
นักโทษคนหนึ่งหนีออกจากคุกซึ่งติดมาเป็น เวลา 15 ปี

เขาพกปืน และหนีเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งเพื่อจะหาเงิน แต่กลับพบกับสามี ภรรยาคู่หนึ่งอยู่บนเตียง
អានត-อ่านต่อ

ចង្រិត-จิ้งหรีด ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

image

ภาษาเขมร : ចង្រិត
อ่านว่า : จ็อง เหริด
แปลว่า :
អានត-อ่านต่อ

កន្ទេសឡង់-แมงตับเต่า ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

image

ภาษาเขมร : កន្ទេសឡង់
อ่านว่า : ก็อน เต๊ะฮ์ ล็อง
แปลว่า : អានត-อ่านต่อ

เพราะงานยุ่ง หรือเพราะว่าไม่เคยเอาใจวางไว้ที่บ้าน

หนุ่มหนึ่งกลับบ้านหลังดื่มจนตัวเบา พอเข้าบ้าน เปิดไฟ ร้องเรียกเมีย ไร้เสียงขาน ก้มหน้าพบหนังสือขอหย่าบนตู้รองเท้า

image

หนุ่มงง ไม่นึกว่าเจ้าหล่อนจะเอาจริง ผัวเมียทะเลาะกันบ่อย อย่างมากหล่อนเพียงงอนไม่พูดด้วย หรือกลับบ้านแม่ไปสักพัก จากนั้นก็คืนมาเป็นปกติ ทว่าครั้งนี้ เรื่องไม่เล็กเสียแล้ว เมียบอกให้เขาไปงานประชุมผู้ปกครองของลูกสาว เขาบอกว่างานยุ่ง ไม่มีเวลา เมียว่ายุ่งอะไรทั้งวัน ไม่เคยใส่ใจฉันกับลูกเลย เราเลิกกันแล้วกัน

หนุ่มไม่คิดว่าจะมีปัญหา เขาถือว่าต้องเห็นงานสำคัญกว่าครอบครัว และที่ยุ่งวุ่นนั้นก็เพื่อบ้านนี้ไม่ใช่หรือ ตนไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ในนาทีนี้ บ้านว่างเปล่าเงียบเชียบไร้ลูกไร้เมียนี้มันช่างไม่เป็นบ้านเอาเสียเลย ความสำเร็จของเขา ถ้าไม่มีเมียร่วมปัน ก็ไร้ความหมาย

วันรุ่งขึ้นเขาไปเยี่ยมพ่อแม่ ทั้งสองงงมาก ถามว่าทำไมมีเวลากลับบ้าน คงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ? ทะเลาะกับแม่อีหนูหรือ? คำถามเป็นชุดทำให้เขาละอาย เขาคงกลับบ้านน้อยเกินไปกระมัง? แต่พ่อแม่ตื่นเต้นยินดีกันมาก พ่อรีบออกไปจ่ายตลาด แม่อยู่บ้านนั่งคุยกับเขา หาขนมถั่วต้มให้กิน แต่ไม่ทันนั่ง เสียงโทรศัพท์ดัง เขาได้ยินเสียงพ่อดังลอดมาจากโทรศัพท์ว่า “ลืมบอกไป ชาเก๊กฮวยน้ำผึ้งที่ชงไว้ให้น่ะ อยู่บนธรณีหน้าต่าง เธอรีบดื่มซะ เดี๋ยวจะเย็น”

แม่วางหู ดื่มชาไปอึกเดียว โทรศัพท์ดังอีก พ่อนั่นแหละ “เราต้องจ่ายค่าน้ำแล้วใช่ไหม? ฉันลืมเอาบิลมา ช่วยบอกเลขบิลให้หน่อย จะแวะไปจ่าย” วางหูไม่ทันไร พ่อโทรฯ มาอีก เสียงดีใจทีเดียว “เธอชอบกินปลาสีนวลใช่ไหม เดี๋ยวซื้อไปให้นึ่งกิน”

ยี่สิบนาที พ่อโทรฯ 3 ครั้ง แม่ก็รับและคุยอย่างไม่รู้หน่าย เขาอดบ่นไม่ได้ว่า ทำไมพ่อจุกจิกขึ้นทุกที? ไม่เห็นมีเรื่องอะไรที่จำเป็นต้องโทรฯ กลับมาบอกไม่ได้หรือ?

แม่ยิ้มแล้วพูดว่า “เด็กโง่เอ๊ย เจ้าจะไปรู้ใจพ่อได้ไง? แกไม่ได้จุกจิก แต่แกวางหัวใจไว้ที่บ้าน มีที่ฝากฝังมีความห่วงหา จึงได้โทรฯ ครั้งแล้วครั้งเล่า ตัวพ่ออยู่นอกบ้าน แต่ใจอยู่ในบ้าน เรื่องในบ้านไม่มีใหญ่เล็ก ทุกอย่างล้วนห่วงใย เจ้าอย่าคิดว่าเอาเงินเข้าบ้านก็พอ บ้านไม่ใช่ที่ที่วางเงิน แต่เป็นที่ที่วางใจ มีแต่เอาใจวางไว้ที่บ้าน ความรักกับความสุขจึงจะอยู่ที่บ้าน เจ้าเข้าใจไหม?”

เขาเห็นสายตาลึกล้ำของแม่ เข้าใจในบัดดล คิดถึงตนเอง ไม่เคยโทรศัพท์กลับบ้าน แม้แต่เมียโทรฯ หาก็รีบตัดสาย คิดถึงที่ตัวเองไปงานไปกินกับหัวหน้ากับเพื่อนร่วมงานจนดึกดื่น ไฟที่บ้านก็สว่างคอยเขาจนดึกดื่น แต่เขาไม่เคยคิดถึงความเดียวดายของเธอ ลูกอายุหกขวบ ขอให้เขาพาเที่ยว แต่คำมั่นสัญญาของเขาไม่เคยเป็นจริง

เพราะงานยุ่ง หรือเพราะว่าไม่เคยเอาใจวางไว้ที่บ้านเล่า?

คืนนั้น เขาไปรับเมียกลับ เธอรีรอไม่ยอมกลับ เขารีบอธิบายว่า จะไม่เป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว ก่อนนี้ฉันละเลยเธอ ละเลยบ้านของเรา ฉันคิดว่าเพียงแค่ส่งเงินให้ไม่ขาดก็จะรับประกันความสุขของเรา แต่ฉันเกือบทำความรักหล่นหาย ต่อไปนี้ ฉันจะเอาใจวางไว้ที่บ้าน เอาบ้านวางไว้ในใจ เธอกลับบ้านกับฉันเถอะนะ?

เมียไม่ตอบ ค่อยๆ เดินเข้าหาเขา น้ำตาร่วง

ถูกต้องแล้ว บ้านคือที่วางใจ คือที่รองรัก

ใช่แล้ว งานยุ่ง ไม่อาจเป็นเหตุผล ใจอยู่ รักอยู่ มีห่วงมีใย ความสุขจึงเกิดได้ ไม่เสื่อมสลาย

                             
ขอบคุณเจ้าของภาพและเรื่องราวที่แบ่งปันครับ