อยาให้ท่านอ่านให้จบ
การเมืองไทยและเขมรช่วงนี้ทำไมเหมือนกันจัง
ฮุนเซ็นเอ่ย โจ๊ะฮ์ เจงญ์ โตว
นี่เป็นเสียงที่เขาตระโกนกัน โดยมีผู้นำหลายคนถือไมโครโฟนพูดนำก่อนว่า ” ฮุนแซนเอ่ย ” แล้วคนที่ได้ยินเสียงนี้ก็ตระโกนตอบว่า ” โจ๊ะฮ์ เจ็งญ์ โตว ” ความหมายก็คือ ฮุนเซ็น ออกไป ๆๆๆ นั่นแหละ น่าจะพอๆกับเหตุการบ้านเมืองไทย ที่เขาเป่านกหวีดแล้วตระโกนว่า อีปู ออกไปๆๆๆๆ
คนเขมรหลายคนที่พอรู้เรื่องเหตุการบ้านเมืองไทยบ้าง เขาพากันพูดต่อกันว่า ที่การเมืองของทั้งสองประเทศเป็นเช่นนี้เพราะนักการเมืองทั้งสองประเทศ ได้เอาเรื่องปราสาทพระวิหารไปเกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ของคะแนนเสียงของตน เช่น ทางพรรคการเมืองไทยเอาความไม่สงบในแนวชายแดนเป็นประเด่นอ้างว่า รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทางเขมรก็สนับสนุน ยุให้ประชาชนโกรธ แล้วยกทัพมารบ ทำให้ทหารและประชาชนที่อาศัยอยู่ในแนวชายแดน ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเสียชีวิต บาดเจ็บ และพิการหลายราย บนผู้เขาอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีเทวดาปกป้องรักษาอยู่ ท่านเลยเกิดความโมโห แล้วลงโทษนักการเมืองทั้งสองประเทศให้ประเชิญหน้ากับการตกจากตำแหน่ง นี่เป็นแค่ความเชื่อของคนกลุ่มน้อยเท่านั้นน่ะครับ แต่ก็น่าเอามาคิดเหมือนกัน
ก่อนที่จะมีการแบ่งเขตประเทศ ตรงนั้นไม่มีใครพูดว่าของใคร มีแต่เขาพูดว่า เคินยืง (ของเรา) แล้วทำไมเราต้องทะเลาะกัน ทุกคนรู้ไหมว่า คนที่ทำให้เราเกลียดกันนั้นมีไม่กี่คนเท่านั้นเอง มันทำให้เราเกลียดกันเพราะประโยชน์ส่วนตัวของมันเอง คนที่โกรธแค้นมากก็เป็นคนที่อยู่ไกลจากแนวชายแดน อยู่ดีมีสุข ส่วนคนที่ลำบากคือพี่น้องที่เผลอเกิดที่แนวชายแดน พ่อเป็นเขมร แม่เป็นไทย ลูกเป็นลาว แล้วก็พี่น้องทหารที่คอยรับคำสั่งให้ไปตาย
ถามว่าเราทำอย่างนี้เพื่ออะไร เราเกลียดกันไปเพื่ออะไร ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าเราแย่งสิ่งนั้นได้มาแล้วก็ไม่ได้นำมาทำให้เกิดประโชชน์มากกว่าอะไรที่เราเสียไปหรอกใช่ไหม
ผมอยากให้สองประเทศเรารักกัน ผลลัพธ์คือมีแต่ได้กับได้
คุณรู้ไหมว่า เราเกลียดกันเพราะ “เราโง่เชื่อคนสองคน หรือไม่กี่คนเท่านั้น”
หลังจากอ่านข้อความนี้ ผมอยากให้ทุกคนแชร์ข้อความนี้เยอะๆ หรือแก้ไขดัดแปลงข้อความยี้ให้อ่านแล้วเข้าใจง่ายกว่านี้ แล้วแชร์ต่อด้วยน่ะครับ เพราะภาษาไทยผมไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร ครั้งนี้ “เราทำเพื่อเรา ไม่ได้ทำเพื่อใคร” นะครับ
จากผม นายฤทธี นี ชาวพนมเป็ญที่รักเมืองไทย