ตำรวจสาวๆเสียมเรียบ เขมรน่ารักๆ

ถ้าได้ไปเที่ยวเสียมเรียบแล้วนั่งรถไปตามถนนต่างๆ โดยเฉพาะตามสี่แยก ท่านจะได้เจอตำรวจสาวๆเอ๊าะๆน่ารักๆประจำการอยู่ ถามไมต้องเป็นตำรวจสาวๆ ผมคิดว่าเขาน่าจะมีไว้เพื่อ អានត-อ่านต่อ

ระมัดระวังด้วยน่ะครับ

เกิดขึ้นแล้วที่ต่างประเทศ ไม่แน่ใจว่าประเทศไหน แต่กำลังแชร์กันกระหน่ำในสื่อสังคมของชาวเขมร

មាសគីឡូក្លែងក្លាយដែលកំពុងនឹងចរាចរក្នុងទីផ្សារនៃប្រទេសនានា មិនដឹងថាមាសប្រភេទនេះបានមកដល់ស្រុកខ្មែរយើងឬនៅទេ តែសូមបងប្អូនបង្កើនការប្រុុងប្រយ័ត្នទាំងអស់គ្នានៅពេលដែលមានការទិញដូរមាសគីឡូ។

image

image

image

ភូមិអ្នកណាមានឫសីច្រើន សាកយកមកប្រកធ្វើដំបូលមើល

ធានាថាឡូយបែប classic ធន់ ត្រជាក់ ងាយធ្វើ ហើយចំណាយតិចទៀត។ សូមយកទៅកែឆ្នៃបន្ថែមតាមការយល់ឃើញ ហើយអាចធ្វើជាអាជីពរកចំណូលបាបសមរម្យទៀតផង។

image

image

image

31 ประเทศ ที่คนไทยสามารถไปได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่า

image

1. Cambodia 14 days
2. Brunei 14 days
3. Bahrain 14 days
4. Japan 15 days
5. Philippines 30 days
6. Laos 30 days
7. Vietnam 30 days
8. Malaysia 30 days
9. Singapore 30 days
10. Hong Kong 30 days
11. Macau 30 days
12. Maldives 30 days
13. Seychelles 30 days
14. South Africa 30 days
15. Mongolia 30 days
16. Turkey 30 days
17. Russia 30 days (ทางรัสเซียเขามีกฏว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่ต้องวีซ่าเข้ารัสเซ๊ย ถ้าพำนักอยู่ภายในเมืองเดิมเกิน 3 วัน จำเป็นต้องลงทะเบียนในเว็บไซต์กงสุลของรัสเซียนะครับ มิฉะนั้นตอนขาออกประเทศจะโดนปรับเงิน !! แต่ส่วนมากถ้านอนตามโรงแรมเขาจะลงทะเบียนให้เลย แต่ถ้าไปบ้านเพื่อนหรืออย่างไร รบกวนศึกษาตรงนี้ด้วยนะครับ)
18. Vanuatu (ประเทศวานูอาตู เป็นประเทศเกาะเล็กแถบ Pacific ค่อนไปทาง Australia) 30 days
19. Indonesia 30 days
20. South Korea 90 days
21. Argentina 90 days
22. Brazil 90 days
23. Chile 90 days
24. Ecuador 90 days
25. Fiji 4 months อันนี้เขานับเป็นเดือนครับ ไม่ใช่แบบวัน
26. Panama 180 days
27. Peru 183 days หลายคนอาจจะเข้าใจว่าแค่ 90 วัน แต่จริงๆนานกว่านั้นเยอะครับ
28. Georgia 90 days ประเทศนี้เป็นหนึ่งในอดีตโซเวียตเก่าครับ หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าคนไทยไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเช่นกัน (อ้างอิงความเห็นที่ 24)
29. Haiti 90 days (อ้างอิงความเห็นที่ 4)
30. Dominican Republic 3 Months
31. Cook Island 31 Days

เห็ด 10 ชนิด ช่วยลดน้ำหนัก สลายไขมัน

image

เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักและเคยรับประทานเห็ดเป็นแน่ เห็ด…จัดเป็นพืชชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาประกอบอาหาร มีหลากหลายชนิด มีทั้งชนิดที่รับประทานได้และรับประทานไม่ได้ ซึ่งในเห็ดที่นำมารับประทานได้นั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด อีกทั้งยังมีประโยชน์กับร่างกายอย่างมาก และเห็ดที่เรานำมาเป็นตัวอย่างให้ดูนั้นล้วนแล้วแต่สามารถนำมาประกอบอาหารเพื่อเป็นเมนูสุขภาพใช้ในการลดน้ำหนัก แถมยังลดไขมัน ลดคลอเลสเตอรอลได้ดีทีเดียว ตามมาดูดีกว่าว่ามีเห็ดชนิดไหนบ้างคะ

1. เห็ดฟาง
เห็ดฟางสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด และอีกสารพัดวิธี ซึ่งในเห็ดฟาง 100 กรัมนั้นจะมีเพียง 35 กิโลแคลอรี่เท่านั้น อีกทั้งยังประกอบไปด้วย โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ไนอะซิน และวิตามินซี ซึ่งเห็ดฟางนั้นมีสรรพคุณช่วยลดปัญหาเรื่องไขมันในเส้นเลือดได้ หากรับประทานเป็นประจำก็จะทำให้กรดไขมันในเส้นเลือดไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป เหมาะที่จะนำมารับประทานเพื่อลดน้ำหนักและคุมน้ำหนักได้ดีทีเดียว

2. เห็ดหลินจือ
เป็นเห็ดที่มีคุณค่าทางโภชนาการหลากหลายจัดเป็นยาอายุวัฒนะ นิยมนำมาทำเป็นยาบำรุงร่างกาย ซึ่งเห็ดหลินจือมีสรรพคุณมากมาย อาทิ มีส่วนช่วยต่อต้านมะเร็ง, ช่วยลดความดันโลหิต, ลดไขมันในเลือด, ลดน้ำตาลในเลือด, ควบคุมเบาหวาน และอื่นๆ

3. เห็ดหอม
เห็ดที่หลายคนโปรดปราน นอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้วนั้นยังจัดได้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ซึ่งในเห็ดหอมมีกรดอะมิโนชื่อ eritadenine ที่สามารถช่วยให้ไตย่อยคลอเลสเตอรอลได้ดี มีสารเลนติแนน (Lentinan) ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ นอกจากนี้แล้วยังช่วยป้องกันและต่อต้านมะเร็งได้อีกด้วยคะ

4. เห็ดนางฟ้า
เห็ดนางฟ้า 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 35 กิโลแคลอรี ในเห็ดนางฟ้าประกอบไปด้วย โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต แถมยังมีไขมันต่ำมาก ๆ จึงไม่ทำให้อ้วนอย่างแน่นอน

5. เห็ดนางรม
จัดเป็นเห็ดตระกูลเดียวกันกับเห็ดนางฟ้าและเห็ดเป่าฮื้อ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ อย่างเช่น โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, โปแทสเซียม, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2 ฯลฯ มีสรรพคุณช่วยลดน้ำหนักได้ดีทีเดียว

6. เห็ดเป่าฮื้อ
เห็ดเป่าฮื้อประกอบไปด้วย โปรตีน, ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, ไนอะซิน, ธาตุเหล็ก และวิตามินต่างๆ สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือด, ป้องกันท้องผูก รวมไปถึงช่วยป้องกันมะเร็ง

7. เห็ดกระดุม หรือ เห็ดแชมปิญอง
เห็ดที่มีแคลอรี่ต่ำมาก 100 กรัมให้พลังงานเพียง 16 กิโลแคลอรี่เท่านั้นเอง ในเห็ดดังกล่าวนี้ประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน, ใยอาหาร, โปรตีน, แคลเซียม ฯลฯ ซึ่งเห็ดกระดุมหรือเห็ดแชมปิญองก็มีสรรพคุณลดไขมันในเส้นเลือดได้ไม่ต่างจากเห็ดชนิดอื่น ๆ อีกทั้งยังเป็นเห็ดที่เหมาะกับผู้หญิงอย่างมากเพราะสามารถช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านม แถมยังมีสารเลนติแนน Lentinan ที่สามารถต่อต้าน เนื้องอกและมะเร็งได้อีกหลายชนิดเลยทีเดียว

8. เห็ดหูหนู
เห็ดที่สามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดนิยมนำมาประกอบอาหารหลากหลาย ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดไขมันในเลือด ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูงเหมาะอย่างยิ่งกับเห็ดชนิดนี้

9. เห็ดยานางิ หรือ เห็ดโคนญี่ปุ่น
เป็นเห็ดอีกหนึ่งชนิดที่มีรสชาติอร่อย มีสรรพคุณเด่นคือลดไขมันและคลอเลสเตอรอลในเลือด แถมยังสามารถล้างพิษในตับและป้องกันมะเร็งได้อีกด้วย

10. เห็ดเข็มทอง
สุดยอดเห็ดที่มีเส้นใยอาหารสูงและเป็นที่นิยมของคนรักสุขภาพ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดไขมัน, ลดอาการท้องผูก, ลดน้ำหนัก ฯลฯ

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

สิ่งที่ท่านชายพึงกระทำแล้วจะทำให้ครอบครัวมีความสุข

image

1. อยู่นอกบ้านเป็นคนแกร่ง อยู่กับบ้านอ่อนแอบ้างก็ได้ ไม่ขายหน้าหรอก
2. ใส่เสื้อผ้าก๊อบปี้ ใส่เสื้อธรรมดาจะดีกว่า เสื้อผ้าที่สะอาดเรียบร้อยดูดี
กว่าเสื้อผ้าก๊อบปี้
3. เรื่องใหญ่ให้ยึดหลักการ เรื่องเล็กให้ยึดหลักน้ำใจ
4. ไม่ต้องเถียงหน้าดำหน้าแดงเพื่อจะเอาชนะภรรยาของตัวเองหรอก เมื่อ
เธอผิดคุณควรโอนอ่อนให้แก่เธอ เธอจะรักคุณมากยิ่งขึ้น ที่จริงเธอรู้ว่าตัว
เธอนั่นแหละที่ไร้เหตุผล
5. ฝึกปฏิเสธการเย้ายวนหรือขอความช่วยเหลือจากหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยา
ของตนบ้าง พวกเธอไม่ได้อ่อนแอหรืออับจนหมดหนทางเหมือนที่คุณเห็น
หรอก อย่าเป็นเครื่องปรุงรสของใครๆ ต่อให้ไม่มีคุณพวกเธอก็อยู่ได้อย่าง
สบาย เข้าใจตรงกันนะ!
6. คุณควรมีใบขับขี่ ต่อให้ตอนนี้คุณยังไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเองก็ตาม
7. อย่าได้เที่ยวหยิบยืมเงินจากใครๆไปทั่ว และอย่าได้ให้ใครหยิบยืมเงิน
ไปทั่ว นอกเหนือจากคุณไม่ใส่ใจว่าจะได้คืนหรือไม่ คุณค่อยให้ใครๆเขา
ยืมเงิน ไม่อย่างนั้นก็อย่าทำ ไม่งั้นคุณจะเสียเพื่อน!
8. อย่ายุ่งกับหญิงอื่นนอกเหนือจากภรรยาของคุณ นอกเหนือจากผู้หญิง
ในที่ทำงาน ไม่เช่นนั้นครอบครัวของคุณจะเริ่มมีปัญหา!
9. อย่าใฝ่ฝันว่าจะมีภรรยาสวยเหมือนดารา หากคุณไม่ได้หล่อและรวยจริง
10. ไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนได้ ก็ควรพาภรรยาไปดูหนังฟังเพลงได้
เช่นกัน
11. หากมีเงินพอก็ควรซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ต่อให้กำลังตอนนั้นมีเพียง
แค่เงินดาวน์ก็ตาม
12. เรื่องใดที่ทำไม่ได้อย่ารับปากใครง่ายๆ และเมื่อรับปากแล้วก็ต้องทุ่มเท
ทำให้เต็มที่ เป็นผู้ชายต้องถือสัจจะ
13. เป็นคนรักเดียวใจเดียวไม่ใช่เรื่องน่าอาย!
14. เรื่องที่ผ่านไปก็ให้ผ่านไป ฝึกเป็นคนใจกว้างกว่านี้อีกสักหน่อย อย่า
หยุมหยิม!
15. อย่าคิดว่าเป็นผู้ชายแล้วไม่ต้องดูแลตัวเองก็ได้ ผู้หญิงไม่ได้ตาบอดนะ!
16. ติดตามข่าวสารบ้านเมืองบ้างก็ดีนะ ไม่ใช่ว่าเขาพูดอะไรก็พูดตามเขา
ได้หมด แต่ไม่รู้จริงสักเรื่อง
17. อย่าคิดว่าเมียคนอื่นดีกว่าเมียของตัวเอง เพราะเธอเหล่านั้นไม่ใช่เมีย
ของคุณ ต่อให้เธอเหล่านั้นมาเป็นเมียของคุณ คุณอาจจะไม่คิดอย่างนั้นก็
เป็นได้!
18. อยู่กับผู้หญิงของคุณ อย่าพูดถึงผู้หญิงอื่น คุณรู้ไหม เรื่องแบบนี้เป็น
จุดเริ่มของการทะเลาะกันระหว่างคุณกับผู้หญิงของคุณ
19. หาเรื่องชมผู้หญิงของคุณบ้าง เธอจะได้อารมณ์ดี คุณก็จะพลอยสุขใจ
ไปด้วย
20. เทศกาลตรุษสารท อย่าคิดแต่จะซื้อของให้ตัวเองและภรรยาของคุณ
ซื้อให้พ่อเมียแม่เมียบ้าง คุณต้องขอบคุณท่านทั้งสอง หากไม่มีพ่อเมียแม่
เมียคุณจะมีเมียดีๆคนนี้ได้ยังไง?
21. อย่าชมเพื่อนสาวของเมียคุณว่าเธอสวย เพราะสิ่งนี้ละเอียดอ่อนต่อ
ความรู้สึกของเธอมาก เป็นไปได้อย่าชม
22. แบ่งเวลาจากเฟสไปอ่านข่าวสารที่มีสาระอื่นๆบ้าง จะได้เพิ่มเติมสติ
ปัญญา คุณไม่ใช่ผู้หญิงนะ!
23. สิ่งที่ดีที่สุดต้องมอบให้ภรรยาและลูก อย่าคิดและมอบให้กับหญิงอื่น
เป็นเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นคุณจะเสียใจไปทั้งชาติ และหญิงอื่นไม่แน่เสมอ
ไปว่าจะสามารถกัดก้อนเกลือกินเหมือนภรรยาและลูกๆของคุณได้

รับมือโรคหอบหืดด้วยพริกหยวก

image

โรคหอบหืดเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจที่จะมีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศเย็น ซึ่งทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำคอ โพรงจมูก และระบบทางเดินหายใจ สามารถรุกล้ำเข้าสู่หลอดลมและลงปอดได้ง่าย และทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น แต่อาการเหล่านี้สามารถรับมือได้ด้วยการทานพริกหยวก

พริกหยวกเป็นพืชประจำฤดูหนาวชนิดหนึ่ง ในพริกหยวกนั้นอุดมไปด้วยวิตามินซี ที่ช่วยในการต่อต้าน อนุมูลอิสระ อันเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหอบหืด โดยวิตามินซีในพริกหยวกจะเข้าไปทำหน้าที่ จับตัวอนุมูลอิสระเหล่านั้นเพื่อให้มีค่าเป็นกลาง และทำให้ระบบทางเดินหายใจทำงานได้ดีขึ้น

5 แง่คิดคมๆ จาก บิล เกตต์

image

1.ถ้าคุณเกิดมาจน ไม่ใช่ความผิดของคุณ
แต่ถ้าตอนจากโลกนี้ไป คุณก็ยังจน นั่นแหละความผิดของคุณ

2.ถ้าคุณจน วุฒิการศึกษาสำคัญมาก
แต่ถ้าคุณรวย ไม่มีใครถามถึงวุฒิการศึกษาคุณ

3.โลกไม่สนใจหรอก ว่าคุณจะมั่นใจในตัวเองแค่ไหน
แต่ทุกคนบนโลก คาดหวัง ‘ความสำเร็จ’ ที่เกิดจากความมั่นใจของคุณ

4.ผมมักจะเลือกคน “ขี้เกียจ” ให้ทำงานยากๆ เสมอ
เพราะเขาจะหาทางที่ “ง่าย” ที่สุด ทำงานให้สำเร็จ

5.บางคน…ฝันที่จะประสบความสำเร็จ
บางคน…กำลังลงมือทำ
แต่หลายคน…เฝ้ามองดูความสำเร็จของคนอื่น
โดยไม่ทำอะไรเลย
สุดท้ายบอกว่า
“รู้งี้ …ตอนนั้นทำไปแล้ว”

Cr. Forwarded Line

** ติดตามอ่านข้อคิดและแรงบันดาลใจดีๆเพิ่มเติมได้ที่
* Line : http://line.me/ti/p/%40coachsiriluck 
* FB  :  https://www.facebook.com/CoachSiriluck.Page
* Website  :  www.CoachSiriluck.com

** สนใจงานสัมมนาที่จะติดสปีดความสำเร็จดูได้ที่ link นี้ ;

󾌵 หลักสูตรยอดนิยม ของ โค้ชสิริลักษณ์ ตันศิริ 󾌵1. ปลุกยักษ์ในตัวคุณ "The Power Within You"2. จ้าวแห่งการสื่อสาร "…

โพสต์โดย Coach Siriluck Tansiri บน 6 กันยายน 2015

10 เรื่องควรรู้ เมื่อเริ่มหาเงินเองได้

image

1. เรียนเก่งแค่ไหน ไม่ได้ช่วยให้หาเงินได้มากกว่า ..เรียนเก่งมากไป จะยิ่งติดกรอบ เลยแคบในช่องทางหาเงิน โดยเฉพาะยุคนี้ ที่ช่องทางหาเงินเปิดกว้างกว่าสมัยก่อนมาก

2. กิจกรรมไร้สาระระหว่างเรียน บางครั้งช่วยให้เราหาเงินเก่ง …เด็กกิจกรรมมักเรียนไม่โดดเด่นนัก แต่คนเหล่านี้โดดเด่นในองค์กรสมัยใหม่ ที่งานเปิดกว้าง ตำแหน่งงานออกแบบเองในยุคนี้

3. การคบเพื่อนหลากหลายฐานะ สร้างโอกาสในชีวิตได้ ..คนส่วนใหญ่มองว่ายุคนี้หาโอกาสยาก นั่นเพราะเขาแคบ มัวแต่คบคนที่เหมือนกัน ฐานะเดียวกัน ก็เลยมองไม่เห็นโอกาสที่เปิดกว้างแบบคนที่มีเพื่อนทุกฐานะ

4. ภาษาอังกฤษโคตรสำคัญเลยยุคนี้ ..องค์ความรู้ดีๆ ใน Internet ถ้าคุณอ่านและฟังภาษาอังกฤษได้ สุดยอดได้เปรียบ

5. เล่นเฟสให้เป็น เปลี่ยนชีวิตได้ ..คนส่วนใหญ่เล่นเฟสได้ แต่เล่นไม่เป็น ..’เล่นได้’ คือ เล่นสนุกไร้สาระ ..แต่ ‘เล่นเป็น’ คือรู้จักเชื่อม เฟส ที่ไร้สาระให้ขยายโอกาสในงานตัวเอง นี่คือเล่นเป็น เปลี่ยนชีวิตได้

6. ยุคนี้ใครหารายได้เป็นทางเดียวไม่มีทางรวย ..คนที่คิดว่าจะรวยจากการหารายได้ทางเดียวแล้วรวยแบบสมัยก่อน ยุคนี้ซวย เพราะ ยุคนี้คือ ยุคที่เงินหาได้ทุกที่ พูดง่ายๆ หาเงินก้อนใหญ่มันยาก แต่หาก้อนเล็กจากหลายๆที่ ง่ายกว่า

7. ความรวยในยุคนี้ไม่ได้อยู่ที่มีเงินก้อนเท่าไหร่ แต่อยู่ที่รายได้สม่ำเสมอแค่ไหนต่างหาก …เป้าหมายของชีวิตสบาย ไม่ใช่ถูกล็อตเตอรี่ได้เงินก้อนใหญ่แล้วเครียดทยอยใช้ ..แต่อยู่ที่ได้เงินสม่ำเสมอ จากหลายๆแหล่งรายได้ และได้เงินนั้นแม้เราหยุดทำงานแล้วก็ตาม

8. คนมีเงิน เสียงไม่ดัง เท่าคนหาเงินเอง …ยุคนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับคนมีเงิน เท่าคนรู้จักหาเงินได้เอง

9. ยุคนี้การให้ สร้างโอกาสมากกว่าการรับ …คนที่อยากสำเร็จยุคนี้ ให้คิดเรื่องการให้ การสร้างประโยชน์ให้คนให้เยอะที่สุด โดยที่เราออกแรงน้อยสุด เดี๋ยวเงินและโอกาสมาเอง ไม่ต้องไปเสียเวลาคิดแต่จะหาเงิน

10. คนมีความรักต่อคนอื่น จะหาเงินเก่งกว่าคนขี้อิจฉาและเห็นแก่ตัว …ยุคนี้ Internet เปิดโอกาสให้เรามอบสิ่งดีๆ สร้างโอกาสดีๆแชร์ความรู้ความคิดดีๆ ให้คนอื่น จงคิดดีและหวังดีต่อคนอื่น แล้วทุกสิ่งดีๆนั้นจะกลับมาสู่เราอย่างน่าอัศจรรย์ !!

ลูกเอ๋ย

image

…ลูกเอ๋ย ยามที่พ่อแม่ของเจ้ามีอายุมากขึ้น
ย่อมมีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน
ความแข็งแรงของร่างกายที่เคยมีก็ลดลง
ใจน้อย โกรธง่าย ความจำก็เสื่อม
ขี้หลงขี้ลืม จิตใจก็หมดความสุขสดชื่น

ถึงแม้พวกเจ้าจะคอยเอาใจใส่
ดูแลใกล้ชิดสักเพียงใดก็ตาม
ก็ไม่อาจช่วยให้พ่อแม่ของเจ้ามีความสุขได้เต็มที่
เพราะพวกเจ้าทุกคน ต่างก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ

เจ้าช่วยท่าน ให้ได้รับความสุข
เพียงการให้กินอยู่หลับนอน
อันเป็นความสุขทางกายเท่านั้น
แต่จิตใจของท่าน หาได้ร่าเริงสดชื่นผ่องใสไม่

เจ้าจงจำไว้ว่า..
การให้ความสุขแก่พ่อแม่อย่างแท้จริง
ก็คือ การให้ธรรมะ ด้วยการสอนหลักธรรมง่ายๆ
ให้พ่อแม่ของเจ้า พาท่านไปทำบุญ ทำทาน

สอนท่านให้รู้จักการปฏิบัติบูชา สวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตา
ธรรมะ จะอยู่ในจิตใจของพ่อแม่เจ้า ทุกภพทุกชาติ
ถือว่า เป็นการทดแทนพระคุณที่สูงสุด เจ้าจงจำไว้นะลูกเอ๋ย…

“ธรรมโอสถ” คำสอนของสมเด็จโต
ท่านได้บันทึกเอาไว้ด้วยลายมือของท่าน

เขียนดีมาก อ่านให้จบ คุณอาจจะหันมารักตัวเอง…

image

สรุป: ชีวิตที่เรียบง่าย ให้สนุกกับการใช้ชีวิต 30% ที่เป็นของคุณ

– ไม่เจ็บปวดแต่ก็ต้อง บำรุง
– ไม่กระหายแต่ก็ต้อง ดื่มน้ำ
– ว้าวุ่นแค่ไหนก็ต้อง ปล่อยวาง 
– มีเหตุมีผลแต่ก็ต้อง ยอมคน 
– มีอำนาจแต่ก็ต้องรู้จัก ถ่อมตน
– ไม่เหนื่อยแต่ก็ต้อง พักผ่อน
– ไม่รวยแต่ก็ต้อง รู้จักพอเพียง
– ธุระยุ่งแค่ไหนก็ต้องรู้จัก พักผ่อน

หมั่นเตือนตน: ชีวิตนี้สั้นนัก
หากเวลาของคุณยังมีเหลือเฟือ ส่งต่อข้อความเหล่านี้ต่อให้เพื่อนของคุณ ให้เพื่อนได้อ่านบ้าง เพื่อจะได้ใส่ใจตัวเองบ้าง
ดังนั้น

– อยากกิน…กิน
– อยากเที่ยว….เที่ยว
– เรื่องกลุ้มอย่าเก็บไว้
– สุขสบายทุกเพลา
– เวลาที่ยังจับมือไหว ให้เชิญเพื่อนมาสังสรรค์
– เวลาที่ยังกอดไหว ให้โอบกอดให้ชื่นใจ
– ทำหน้าที่พ่อ แม่ ลูก สามี ภรรยา พี่ น้อง เพื่อนที่ดีต่อไป
– เวลาที่อยู่ด้วยกัน อย่าได้โกรธกันง่ายๆ

ถ้าคุณแชร์ส่งให้เพื่อนๆ แสดงว่าคุณเป็นคนรักและหวังดีกับเพื่อนคุณ ถ้าไม่ส่งแสดงว่าคุณรักแต่ตัวเองไม่คิดจะเผื่อแผ่ความสุขให้คนรอบข้างและเตือนสติเพื่อนของคุณ

เรื่องเล่า :idea:

image

วันนี้จะขอเล่าเรื่อง เด็กเกาหลีพี่น้องสองคน ที่เกิดมาในตระกูลคนยากจนแบบสุดๆ แต่พี่น้องสองคนนี้  กลับกลายเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศเกาหลี เขาชื่อ ลี เบียงชอล ครับ ว่างๆลองอ่านดู แต่ขอเตือนว่าอ่านแล้ว ห้ามร้องไห้นะครับ… สวัสดี
ฉันเกิดในหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลผู้คน

แต่ละวันพ่อแม่ของฉันต้องพรวนดินในไร่ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ

ฉันมีน้องชายอยู่หนึ่งคน อายุน้อยกว่าฉัน 3 ปี

วันหนึ่งฉันขโมยเงินของพ่อเพื่อไปซื้อผ้าเช็ดหน้าที่เพื่อนๆของฉันมีกัน

จากนั้นพ่อก็รู้เรื่อง

พ่อให้ฉันกับน้องคุกเข่าหันหน้าเข้าหากำแพง

โดยที่ในมือพ่อมีก้านไม่ไผ่อยู่หนึ่งก้าน

‘ใครขโมยเงินไป’ พ่อตวาด

ฉันกลัวมาก ไม่กล้าพูดอะไรออกไป น้องชายฉันก็เช่นกัน

พ่อจึงเอ่ยขึ้นว่า

‘ก็ได้ ในเมื่อไม่มีคนรับสารภาพก็ต้องโดนลงโทษทั้งคู่นั่นล่ะ’

พ่อชูก้านไม้ไผ่ในมือขึ้น

ทันใดนั้น น้องชายของฉันก็ลุกขึ้นคว้าข้อมือของพ่อไว้….แล้วพูดว่า

‘ผมขโมยเองครับ’

ก้านไม้ไผ่ก้านนั้นได้กระหน่ำลงบนหลังของน้องของฉันอย่างต่อเนื่อง

พ่อโกรธมาก พ่อตีน้องของฉันไม่หยุด

จนพ่อหอบด้วยความเหนื่อย

พ่อนั่งลงบนเก้าอี้

และด่าว่าน้องชายของฉัน

‘ ของคนในบ้านแกเอง แกยังขโมยได้ต่อไปแกจะทำชั่วอะไรอีก

แกน่าจะโดนตีให้ตาย หัวขโมย’

คืนนั้น ฉันกับแม่กอดน้องชายของฉันไว้

หลังของน้องมีแผลเต็มไปหมด

แต่เขาไม่ได้ร้องไห้แม้แต่น้อย

กลางดึกคืนนั้น ฉันนอนร้องไห้เสียงดัง และนานมาก

น้องเอามือเล็กๆ ของเขามาปิดปากฉันไว้ แล้วพูดว่า

‘ พี่ครับ ไม่ต้องร้องไห้นะมันผ่านไปแล้ว’

ยังไงฉันก็อดที่จะเกลียดตัวเองไม่ได้

ที่ไม่มีความกล้าจะบอกความจริงกับพ่อ

หลายปีผ่านไป

แต่เหมือนกับว่าเหตุการณ์มันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้เอง

ฉันไม่อาจลืมคำพูดของน้องชายตอนที่เขาปกป้องฉันได้เลย

ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 8ปี ส่วนฉันอายุ 11ปี…

เมื่อตอนที่น้องชายของฉันใกล้จบ ม.ต้น

เขาได้รับการตอบรับจากโรงเรียน

ม.ปลาย ว่าเขาสอบได้ ในขณะที่ฉันซึ่งใกล้จบ ม.ปลาย

ก็ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยของจังหวัดเช่นกัน

คืนนั้น พ่อได้นั่งสูบบุหรี่อยู่ที่สวนหลังบ้าน

ฉันแอบได้ยินพ่อพูดว่า

‘ ลูกเราทั้งคู่เรียนดีเรียนดีมากนะ’

แม่ซึ่งนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ พ่อ ได้พูดว่า

‘แล้วเราจะส่งเสียลูกทั้งคู่ได้อย่างไรในเมื่อเราก็ไม่ค่อยมีเงิน’

ทันใดนั้น น้องชายของฉันได้เดินเข้าไปหาพ่อ แล้วพูดว่า

‘ ผมไม่ต้องการเรียนต่อผมอ่านหนังสือมามากพอแล้ว’

พ่อเหวี่ยงมือตบลงที่แก้มของน้องของฉันฉาดใหญ่

‘ทำไมถึงคิดโง่ๆ อย่างนี้

ต่อให้พ่อต้องไปเป็นขอทานข้างถนน

พ่อก็จะส่งแกทั้งคู่เรียนจนจบให้ได้’

คืนนั้นทั้งคืน พ่อได้เดินไปตามบ้านต่างๆ

ทั่วทั้งหมู่บ้าน….เพื่อขอยืมเงิน

ฉันค่อยๆ เอามือประคบแก้มบวมๆ

ของน้องชายเบาๆ และคิดว่า

‘ ต้องให้น้องได้เรียนต่อไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจหลุดพ้นชีวิตลำบากเช่นนี้ไปได้’

แต่ในขณะเดียวกัน

ฉันก็ไม่อาจล้มเลิกความคิดอยากจะเรียนต่อไปได้

ใครจะรู้ได้ …….

วันต่อมาในตอนเช้ามืด

น้องชายของฉันได้ออกจากบ้านไปพร้อมทั้งเสื้อผ้าติดตัวเพียงไม่กี่ชิ้น

และถั่วเพียงเล็กน้อยเพื่อประทังความหิว

ก่อนไปเขาได้ทิ้งข้อความไว้ใต้หมอนของฉัน

ขณะฉันกำลังหลับ

‘ พี่ครับ การจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ ไม่ใช่ง่ายๆ นะ ….

ผมจะไปหางานทำ…แล้วจะส่งเงินมาให้พี่’

ฉันนั่งอยู่บนเตียง

อ่านข้อความของน้องชายด้วยน้ำตานองหน้า …….

ฉันร้องไห้จนเสียงแหบแห้งไป

ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 17ปี ส่วนฉันอายุ 20ปี …..

ด้วยเงินที่พ่อยืมมาจากคนในหมู่บ้าน

รวมกับเงินที่น้องชายของฉันได้รับเป็นค่าจ้างมาจากการทำงานเป็น

กรรมกรแบกหามที่ไซท์ก่อสร้างท่าเรือ …….

ฉันจึงสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้จนถึงปี 3

วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องพัก

เพื่อนร่วมห้องของฉันได้เข้ามาบอกว่า

‘มีชาวบ้านมาหาเธอ…อยู่ข้างนอกแน่ะ’

ทำไมชาวบ้านถึงมาหาฉันล่ะ ???

ฉันเดินออกไปแล้วมองเห็นน้องชายของฉันยืนอยู่

ตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นปูนและทรายจากงานก่อสร้าง

ฉันถามเขาว่า

‘ทำไมไม่บอกเพื่อนพี่ไปว่าเป็นน้องชายพี่ล่ะ’

น้องชายของฉันตอบยิ้มๆ ว่า

‘ก็ดูผมสิสกปรกมอมแมมออกอย่างนี้…ขืนบอกว่าเป็นน้องพี่ เพื่อนๆ

ก้อได้หัวเราะเยาะพี่กันพอดี’

ฉันค่อยๆ เอื้อมมืออันสั่นเทาไปปัดฝุ่นให้น้อง

และพยายามพูดด้วยเสียงเครือๆในลำคอ

‘ พี่ไม่สนใจว่าใครจะพูดยังไง

เธอเป็นน้องของพี่ ไม่ว่าเธอจะดูเป็นอย่างไรก็ตาม’

จากนั้น น้องของฉันได้ล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง

เป็นกิ๊บหนีบผมรูปผีเสื้อ . เขาติดกิ๊บให้ฉัน

แล้วพูดว่า

‘ผมเห็นสาวๆ ในเมืองเค้าติดกัน ผมเลยอยากให้พี่ติดบ้าง’

ฉันหมดเรี่ยวแรงลงในทันใด

ดึงน้องชายเข้ามาสวมกอดและร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเวลานาน

ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 20 ปี ส่วนฉันอายุ 23 ปี .

วันที่ฉันพาแฟนหนุ่มของฉันมาที่บ้านเป็นครั้งแรก

ฉันสังเกตเห็นว่า

หน้าต่างบ้านที่เคยแตกไป ได้ถูกซ่อมเรียบร้อยแล้ว

เมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นว่าบ้านสะอาดขึ้นมาก

หลังจากที่แฟนของฉันกลับไป ฉันพูดกับแม่ว่า

‘แม่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อทำความสะอาดบ้านกับซ่อมกระจก

เพียงเพราะหนูจะพาแฟนมาที่บ้านหรอกนะคะ’

แม่ยิ้ม แล้วพูดว่า

‘ แม่ไม่ได้จ้างหรอก…น้องชายลูกต่างหาก

วันนี้เค้าขอเลิกงานเร็วเพื่อกลับมาทำความสะอาดบ้าน

ลูกยังไม่เห็นมือน้องหรอกเหรอ

น้องโดนกระจกบาดตอนกำลังเปลี่ยนกระจกบานใหม่น่ะ’

ฉันรีบเข้าไปหาน้องที่ห้องนอนของเขา

ฉันรู้สึกเหมือนถูกเข็มนับร้อยเล่มทิ่มลงกลางใจเมื่อได้เห็นบาดแผลบนมือ

ฉันจับมือน้องเอาไว้อย่างเบามือที่สุด ‘เจ็บมากไหม’

ฉันถาม

‘ไม่เจ็บสักหน่อย พี่ก็รู้นี่ผมทำงานก่อสร้างนะ วันๆ

มีหินตกมาใส่เท้าผมเต็มไปหมด

แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมคิดเลิกทำงานหรอกนะ

และ…’

น้องชายของฉันยังพูดไม่จบประโยค แต่ก็ต้องหยุดพูด

เพราะฉันหันหน้าหนีเขา

น้ำตาไหลอาบหน้าของฉันอีกครั้ง

‘เพราะพี่เป็นพี่สาวของผมนี่ครับ’

ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 23 ปี ส่วนฉันอายุ 26 ปี…

หลังจากนั้น ฉันก็ได้แต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง

หลายครั้งที่สามีของฉันชักชวนให้พ่อแม่ของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองด้วยกัน…

แต่ท่านทั้งสองก็ปฏิเสธ

ท่านบอกว่า ท่านเคยย้ายออกจากหมู่บ้านครั้งหนึ่ง

แต่เมื่อออกไปแล้ว

ท่านไม่รู้จะทำอะไรดี

จึงได้ย้ายกลับเข้ามาใช้ชีวิตในหมู่บ้านตามเดิม

น้องชายของฉันก็ไม่เห็นด้วยกับการที่จะให้เขาและพ่อแม่ย้ายออกไป …

เขาบอกกับฉันว่า

‘พี่คอยอยู่ดูแลพ่อและแม่ของสามีพี่ทางนั้นเถอะผมจะดูแลพ่อและแม่ทางนี้เอง’

สามีฉันได้ขึ้นเป็นประธานของบริษัทของ ครอบครัว

เราทั้งคู่อยากให้น้องชายของฉันเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการบริษัท
….
แต่น้องชายของฉันก็ไม่รับตำแหน่งนี้

เขาขอเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานธรรมดา

วันหนึ่ง น้องชายของฉันต้องปีนบันไดขึ้นไปซ่อมสายเคเบิล

และตกลงมาเพราะโดนไฟดูด

เขาถูกรีบหามส่งโรงพยาบาล

ฉันและสามีรีบไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล

น้องชายของฉันขาหักต้องเข้าเฝือกที่ขา

… ฉันโกรธมาก จึงตวาดน้องไปว่า

‘ ทำไมถึงไม่ยอมรับตำแหน่งผู้จัดการ หา!!!

ถ้าเป็นผู้จัดการก็จะได้ไม่ต้องมาทำงานเสี่ยงๆอย่างนี้

ดูตัวเองซิ…เจ็บเจียนตายอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมฟังพี่บ้าง’

คำตอบจากปากน้องของฉันรวมถึงสีหน้าเคร่งเครียด

ยังยืนยันความคิดเดิมของเขา

‘พี่ลองคิดถึงพี่เขยสิครับ พี่เขยเพิ่งจะได้เป็นประธาน

ส่วนผมมันการศึกษาต่ำถ้าผมได้เป็นผู้จัดการ

คงจะมีเสียงนินทาว่าร้ายเต็มไปหมด’

น้ำตาปริ่มดวงตาของฉันรวมทั้งสามีของฉันด้วย …..

ฉันบอกกับน้องว่า

‘แต่ที่เธอไม่ได้เรียนต่อก็เพราะพี่…’

‘ทำไมต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วด้วยล่ะครับ’

น้องชายของฉันจับมือฉันไว้

ตอนนั้นน้องของฉันอายุ 26 ปี ส่วนฉันอายุ 29 ปี…

เมื่อน้องชายของฉันอายุได้ 30 ปี

เขาได้แต่งงานกับผู้หญิงในที่ทำงานที่เดียวกัน

ในงานแต่งงาน ประธานในงานได้ถามน้องชายของฉันว่า

‘ ใครคือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิตนี้’

น้องชายของฉันตอบอย่างไม่ลังเล ‘พี่สาวของผมครับ’ …..

และเขาก็เล่าเรื่องราวที่แม้แต่ฉันยังจำไม่ได้

‘ตอนผมอยู่โรงเรียนประถม โรงเรียนอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง

เราสองคนพี่น้องต้องใช้เวลาถึง 2ชม.

เพื่อเดินไปเรียน…และเดินกลับบ้าน

วันหนึ่งในวันที่หิมะตกหนักผมทำถุงมือหายไปข้างหนึ่ง

พี่สาวผมจึงได้ให้ถุงมือของเธอข้างหนึ่ง

และเธอก็ใส่ถุงมือเพียงข้างเดียวเดินเป็นระยะทางไกล

เมื่อเรากลับถึงบ้านมือเธอบวมแดงเพราะอากาศหนาว

เธอไม่สามารถจับช้อนทานข้าวได้ด้วยซ้ำ …….นับจากวันนั้น

ผมสาบานกับตัวเอง

ว่าตลอดชีวิตของผม ผมจะดูแลพี่สาวของผมให้ดี

และจะทำดีกับเธอ’

เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่ว

สายตาทุกคู่ของแขกเหรื่อหันมาจับจ้องที่ฉัน

คำพูดจากปากฉันออกมาอย่างยากลำบาก …….

‘ในโลกใบนี้คนเดียวที่ฉันรู้สึกขอบคุณที่สุด คือน้องชายของฉันค่ะ’

ในวาระที่มีความสุขที่สุดเช่นนี้

น้ำตาได้รินไหลออกมาจากสองตาของฉันอีกครั้ง…

จงรัก และห่วงใยคนที่คุณรักในทุกๆ

วันในชีวิตของคุณและเขา

คุณอาจจะคิดว่าสิ่งที่คุณทำให้ใครสักคนเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆ

แต่สำหรับคนคนนั้นอาจจะมีความหมายมากอย่างคาดไม่ถึง

.. ไม่ว่าเขาคนนั้นจะคือ

พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ คนรัก เพื่อน

หรือแม้คนที่คุณไม่รู้จัก ก็ตาม

จบบริบูรณ์….

ปล.ปัจจุบันผู้เป็นพี่สาวอายุ 86 ปีตำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารใหญ่บริษัทฮุนไดและในเครือกว่า 20 บริษัท 

น้องชายอายุ 83 ปีเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเล็กๆ ที่มีชื่อเป็นภาษาเกาหลีว่า

‘ซัมซุง’

ในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่ทุกข์ ไม่มีปัญหา ..

image

ในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่ทุกข์ ไม่มีปัญหา ..
ปัญหานี่ทำให้เกิดปัญญา …
ปัญญาที่จะหาทางออกจากปัญหา …
ปัญหายิ่งใหญ่แค่ไหน โอกาสทองยิ่งมีมาก …
เมื่อไรที่หาข้อดีในปัญหาได้ ..
เมื่อนั้นแสดงว่าปัญญาเริ่มเกิด ..

การฟูมฟาย ตีอกชกตัว ประนามตนเองหรือผู้อื่นว่าเป็นฝ่ายผิด
ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น
ใจยิ่งแกว่งมากเท่าไร .. เรายิ่งใช้สติ จับใจไว้ได้ยาก
แต่เราต้องทำ เพราะมันเป็นใจของเรา

คนที่ผ่านปัญหาไปได้มีหลายประเภท ..
บ้างปล่อยไปตามกาลเวลา
บ้างหาวิธีแก้ไข ถึงแม้ต้องเจ็บปวด ทั้งน้ำตา
บ้างหาวิธีแก้ไข ด้วยสติ

ลอง นิ่ง เงียบ ให้ เวลากับตัวเอง ..
พิจารณาในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นกลาง ..
ดูซิว่า “เราจะจับใจ” ของเราไว้ได้หรือไม่ ..

ณ สติจับใจ

เรื่องดีๆ….ของความพอดี

image

มีเสืออยู่สองตัว ตัวหนึ่งอยู่ในกรง
อีกตัวหนึ่งอยู่ในป่า มันต่างคิดว่าที่ๆมันอยู่นั้นไม่น่าอยู่เลย
ต่างก็อิจฉาการดำเนินชีวิตของซึ่งกัน
วันหนึ่ง พวกมันจึงแลกที่อยู่กัน
ต่างก็มีความสุขกับสภาพแวดล้อมใหม่
ต่อมาไม่นาน เสือทั้งสองตัวก็ตาย
ตัวหนึ่งอดตายอยู่ในป่า
อีกตัวหนึ่งตายเพราะซึมเศร้าอยู่ในกรง

@ บางครั้ง เราไม่ถนอมวาสนาที่เรากำลังได้รับอยู่
แต่เรามักอิจฉาในวาสนาของคนอื่น
แท้จริงแล้ว สิ่งที่คุณมีนั่นแหละคือสิ่งที่คนอื่นอิจฉา

โดย ทางแพทย์สายพุทธ
ข้อมูล นุสนธิ์บุคส์ และรูปจากอินเตอร์เนต

เคล็ดลับการปล่อยวาง

image

ไม่คาใจ เพราะได้ทุ่มสุดกำลังแล้ว
จะแพ้ จะพลาดหวัง… ขอให้เกิดหลังจากคำว่า
“ทำดีที่สุดแล้ว”

วันนั้น ถ้าฉันได้ลองทำ…
วันนั้น ถ้าฉันพยายามให้มากขึ้น…
วันนั้น ถ้าฉันให้เวลาเพิ่มอีกสักนิด…
วันนั้น ถ้าฉันเตรียมพร้อมให้มากกว่านั้น…
วันนั้น ถ้าฉันอดทนอีกสักหน่อย…
วันนั้น ถ้าฉันไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไป
วันนี้….ก็จะไม่ย้อนกลับมา

พร้อม…จะทำอย่างเต็มที่ กับวันนี้กันหรือยังคะ ?

Cr. ความสุขประเทศไทย

3 ทานที่จะสร้าง “ปาฏิหาริย์” ให้ชีวิตดีฉับพลัน!!!

image

มีเรื่องดีๆ จะมาแนะนำเป็นเคล็ดวิชาศักดิ์ จากบูรพาจารย์ ที่ท่านเมตตาชี้ทางคนที่กำลังทุกข์มากๆ ขัดสน และมีปัยหาเรื่องการเงิน การงาน และครอบครัว ถ้าอยากให้ทุกอย่างดีขึ้นให้ทำดังนี้..

หมั่นทำทาน 3 ทานนี้ให้ครบทุกวัน คือ วัตถุทาน ธรรมทาน อภัยทาน

วัตถุทานนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เงินมาก เอาที่ไม่เดือดร้อน จะรินน้ำสักแก้วให้ผู้อื่นด้วยใจบริสุทธิ์ จะให้อาหารสัตว์ที่บ้าน จะหยอดตู้บริจาคหนึ่งสลึง จะใส่บาตร จะทำสังฆทาน ถือว่าเป็นบุญจากวัตถุทานทั้งสิ้น

ธรรมทานนั้น หมายความถึง..

การให้ความรู้ที่ถูกต้องเกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น จะเป็นการอบรมสั่งสอนลูกๆ

การทำงานประจำวันที่เราทำแบบทำงานเหมือนทำบุญ ทำงานด้วยความเต็มใจเต็มที่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่น

หรือร่วมเป็นเจ้าภาพจัดพิมพ์หนังสือ บทสวดมนต์ หนังสือที่มีความรู้ถือว่าเป็นธรรมทานทั้งสิ้นหรือสวดมนต์ทุกวัน

เพราะการสวดมนต์ทุกครั้งนั้น นอกจากสรา้งมงคลให้ตนเองแล้ว ทุกครั้งที่สวดจะมีพรหมเทพเทวา ดวงจิตวิญญาณที่อยู่บริเวณนั้นมาร่วมฟังธรรม ฟังคำสรรเสริญ ที่บูชาพระพุทธเจ้าด้วย

อภัยทานนั้น จะทำง่ายหรือจะว่ายากที่สุดก็ได้เหมือนกัน เพราะถ้าเราโกรธปักใจหรืออาฆาตแค้นใคร มักจะให้อภัยยาก

ครูบาอาจารย์ท่านสอนวิธีให้เราให้อภัยคนได้แบบง่ายต้องใช้พรหมวิหาร 4 เข้าช่วยคือ..

เริ่มจากเมตตา มากรุณา มามุทิตา และถ้าไม่ไหวก็อุเบกขา คือ ปล่อยวางเสีย คิดว่าใครทำอะไรไว้คนนั้นต้องรับกรรมนั้นเอง

ให้เริ่มจากคนที่ใกล้ตัวก่อน พ่อ แม่ ลูก พี่น้อง เพื่อน และขยายออกไปจะสำเร็จโดยง่าย

ทั้งวัตถุทาน ธรรมทาน อภัยทานนั้นทำได้ทุกวันง่ายๆ
แล้วทุกท่านที่ทำสม่ำเสมอ มากพอ นานพอ
จะพบกับ”ปาฏิหาริย์” ที่ท่านจะรู้ด้วยตัวเองทันที..

ขอให้ทุกท่านพบแต่ความสุข ความเจริญยิ่งขึ้นในทุกๆ วัน
ทีมงานแผ่นพับสวดมนต์ธรรมทาน

(Cr. Lek Saowaros)

“มหัศจรรย์แห่งชีวิต 7 หลักคิด จาก ว.วชิรเมธี”

image

บางส่วนจากหนังสือ“มหัศจรรย์แห่งชีวิต ๗ หลักคิดจาก ว.วชิรเมธี” เป็นการตอบคำถาม 20 ข้อ ที่น่าสนใจมาก

1. กลัวลูกมีเซ็กส์ในวัยเรียน?
ไม่อยากให้ เกิด ต้องเอาปัญญาใส่ในมือลูกให้เงินลูกน้อยๆ ให้ความรู้แก่ลูกมากๆ ด่าลูกน้อยๆ ให้คำสอนลูกมากๆ

2. ไหว้พระขอพรอะไรดี?
(1) ขออย่าให้โลภจนหน้ามืด
(2) ขออย่าให้โกรธจนทำร้ายตัวเอง
(3) ขออย่าให้หลงจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว
(4) ขออย่าให้ตายในสงครามระหว่างคนไทยด้วยกันเอง

3. ท้อแท้กับปัญหามากมายทำอย่างไรดี?ปลาที่ยังเป็นอยู่ ล้วนเรียนรู้ที่จะว่ายทวนน้ำ ส่วน ปลาตาย มักไหลตามน้ำ ปัญหาทำให้คนธรรมดาท้อ แต่ทำให้คนมีปัญญาลุกขึ้นมาแก้ไข

4. ทะเลาะกับแฟนจนไม่มีสมาธิทำงาน?
งานส่วนงาน แฟนส่วนแฟน รู้จักแบ่งเวลาให้งาน รู้จักแบ่งเวลาให้แฟน อย่าเสียงานเพราะแฟน อย่าเสียแฟนเพราะงาน

5. โกรธ! ถูกเพื่อนนินทา?
โบราณว่าไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว คุณถูก นินทาแสดงว่าคุณยังมีความหมาย คุณเป็นคนโชคดี จู่ๆ ก็มีกระจกวิเศษสะท้อนความอัปลักษณ์ ให้เห็นความบกพร่อง ของตัวเอง

6. จับได้ว่าแฟนมีกิ๊กทำอย่างไรดี?
(1) ถามตัวเองว่าเราดีกับเขาพอหรือยัง
(2) ระหว่างเรากับกิ๊กมีข้อดีข้อด้อยต่างกันตรงไหน
(3) ถามแฟนว่าจะเลือกใครก็รีบทำ ไม่รักฉัน อย่าทำให้ฉันเสียเวลา

7. โดนเพื่อนร่วมงานแย่งซีนทำอย่างไร?
เขาแย่งจากเราได้เพียงแค่ซีนและภาพลักษณ์เท่านั้น แต่เขาไม่ สามารถแย่งความรู้และความสามารถไปจากเราได้

8. งานเยอะมากทำอย่างไรดี?
(1) รู้ว่างานเยอะต้องรีบทำ
(2) อย่าดองงานข้ามปีข้ามชาติ
(3) เรียงลำดับความสำคัญของงาน สำคัญก่อน ให้รีบทำ สำคัญน้อยค่อยทยอยทำ

9. ทำงานดี มีแต่คนริษยา จะรับมืออย่างไร?
โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมี คนด่า คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา ปรากฏการณ์เช่นว่านี้เป็นของธรรมดา ทำงานดีจนมีคนริษยา ยังดีกว่าทำ งานไม่ดี จึงเป็นได้อย่างดีแค่คนที่คอยริษยา

10. ทำงานแทบตาย เงินไม่พอใช้ ทำอย่างไรดี?
(1) หางานใหม่
(2) ลดความต้องการให้น้อยลง อยู่กับความจริงให้มาก
(3) บริโภคปัจจัยสี่โดยมุ่งประโยชน์ อย่ามุ่งประดับ
(4) ทำบัญชีรายรับรายจ่าย รับมากกว่าจ่ายจึงนับว่ายอดจ่าย มากกว่ารับนับว่าแย่

11. ถูกนายด่า อารมณ์เสีย?
คนที่ด่าคน อื่นสะท้อนว่าระบบข้างใจกำลังพัง คนอารมณ์เสียเพราะถูกด่าแสดงว่า ระบบของตัวเองก็พังตามไปด้วย

12. ไถ่ชีวิตโคได้บุญมากไหม?
ถ้าไถ่แล้วโคอยู่รอด คุณได้บุญ แต่หากไถ่เพื่อ ทำให้วัดอยู่รอด คุณได้บ าป แทนที่จะไถ่โคกระบือ คุณควรไถ่ตัวเองให้ พ้นจากความโลภ โกรธ หลง ดีกว่า

13. แฟนติดหนังเกาหลี ดูทั้งคืนไม่ยอมนอน?
ขอให้คิดว่าอย่างน้อยเธอยังนั่งดูอยู่ในบ้าน ถึง เธอจะติดหนังเกาหลี ก็ยังดีกว่าติดผู้ชายขี้หลีที่อยู่นอกบ้าน

14. ลูกค้าจู้จี้ทำอย่างไรดี?
มีลูกค้าจู้จี้ยังดีกว่าวันทั้งวันไม่มีใครแวะ เวียนผ่านมาเยี่ยมเยียนถึงในร้าน ลูกค้าจู้จี้ได้ แต่คุณต้องทำให้เขาประทับใจเอาไว้เสมอ

15. ไปงานวันเกิดควรได้อะไร?
(1) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร
(2) ได้ถามตัวเอ??ว่า เราเกิดมาจากใคร
(3) ได้ถามตัวเองว่า เรากตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดแล้วหรือยัง

16. สวดมนต์บทไหนดี?
(1) สวดพุทธคุณเพื่อเตือนว่า จงเป็นผู้ตื่น
(2) สวดธรรมคุณเพื่อเตือนว่า จง เว้นสิ่งที่ควรเว้น จงทำสิ่งที่ควรทำ
(3) สวดสังฆคุณเพื่อเตือนว่า พระอรหันต์ที่แท้ คือพ่อกับแม่ที่อยู่ในบ้านของเรานั่นเอง

17. สามีไม่สนใจธรรมะเลยทำอย่างไรดี?
(1) เราควรมีธรรมะให้เขาดู
(2) เราควรอยู่ให้เขาเห็น
(3) เราควรสงบเย็นให้เขาได้สัมผัส เนื่องเพราะ หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด

18. โดนขับรถปาดหน้า โมโหมาก?
(1) บอกตัวเองว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ด่าคือมาร ระรานคือบาป
(2) เปลี่ยนการด่าเป็นการแผ่เมตตาให้เขาถึงที่หมายโดยปลอดภัย
(3) เตือนตนไว้ว่า อย่าขับรถปาดหน้าใคร เพราะอาจมีอันตรายรอบด้าน

19. อยู่ในกลุ่มเพื่อนชอบนินทาจะตีจากดีไหม?
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า คนชอบนินทาคือคนที่ชอบกินของเน่า ถ้าเราร่วมผสมโรงไปกับเขา แสดงว่าเราเองก็ชอบกินของเน่าไม่เบาเหมือนกัน

20. ทำไมมักเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจอยู่เสมอ?
ผู้รู้บอกว่า ศ ิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ กองขยะดูดีๆ ยังมีศิลป์ ดังนั้น ในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ย่อมมีแง่มุมที่คุณชอบอย่างแน่นอน มองอย่างพินิจจะพบว่า ในดีมีเสีย ในเสียมีดี

+++ไม่อยากให้ข้อความดีๆแบบนี้อยู่แค่ใน กล่องเมลล์ แล้ววันนึงเราก็จะลืมมันไปหวังว่ามันจะมีประโยชน์ต่อคนที่เข้ามาอ่านบ้างนะ++

Iyawan Jewelry ได้เผยแพร่บันทึก

มองโลกให้สวยงาม ใช้ชีวิตให้ดี สบายใจต่อไป…

image

แม่ชีเทเรซ่าว่าไว้…
คนมักจะไม่มีเหตุผล น่ารำคาญ ยึดตัวตน
ให้อภัยไปเถอะ

ถึงเราจะใจดี แต่ก็จะมีคนคิดว่าเราเห็นแก่ตัว มีหมกเม็ด
ใจดีต่อไปเถอะ

ถ้าเราประสบความสำเร็จ เราจะได้ทั้งมิตรและศัตรู
จงประสบความสำเร็จไปตามที่หวัง

ถึงเราจะซื่อสัตย์ จริงใจ แต่ก็ยังจะมีคนหลอกลวงเรา
ซื่อสัตย์ จริงใจไป

เมื่อเราใช้เวลาเป็นปีสร้างอะไรขึ้นมา คนอาจทำลายมันในชั่วข้ามคืน
ยังไงก็สร้างเถอะ

ถ้าเราสุขสงบ อาจมีคนอิจฉา
จงมีความสุขไป

การทำดีในวันนี้ อาจถูกลืมได้
จงทำดีเถอะ

แม้จะ “ให้”อย่างสุดสุดดีที่สุดแล้ว แต่มันไม่มีวันพอ
ยังไงก็ “ให้” ไป

(Cr. Business link เชื่อมช่อง)

ถ้าคุณเป็นกัลยาณมิตร…

image

..ถ้าคุณเป็นกัลยาณมิตร
ควรให้ข้อมูลที่นำความสุขใจ
มาให้อีกฝ่ายหนึ่ง

ให้ข้อเท็จจริงเพื่อให้อีกฝ่าย
ได้เตรียมใจ ปรับใจ
แก้ไขส่วนบกพร่อง

พร้อมกับคอยประคับประคองใจ
ให้ยืนหยัดเข้มแข็ง

คุณต้องช่วยให้คนที่คุณคบ
ได้ยกระดับจิตใจของตนเอง

มีมุมมองที่ดีต่อคนอื่น
มีมิตรภาพที่ดีกับคนทั่ว ๆ ไป

และยอมรับข้อบกพร่องของตนเอง
เพื่อแก้ไขให้ดีขึ้น..

อรุณสวัสดิ์ค่ะ… มีความสุข สบายใจนะคะ^^

(Cr.อมรากุล อินโอชานนท์)
โลกทรรศนะ , (ภาพ) Flower story

* คู่มือ…การดูแลพ่อ-แม่ *

image

๑. ไม่ว่าเราจะโตแค่ไหน มีความรู้เยอะเพียงใด อายุก็ยังห่างกับพ่อแม่เท่าเดิม อย่าพยายามที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของท่าน
ถึงแม้จะเป็นพฤติกรรมที่ ไม่เป็นผลดีต่อโรคเลยก็ตาม เถียงกันไป เราจะเหนื่อยทั้งกาย และปวดทั้งใจ
ให้ค่อยๆแทรกซึมเข้าไป ในชีวิตท่านอย่างเนียนๆ วันหนึ่งที่พ่อแม่เห็นด้วย กับตัวเราเองว่า ทำแบบนี้แล้วสบายตัวขึ้น ท่านจะยอมทำเอง
. . . . . . . . . . . . . . . . .
๒. ดูแลพ่อแม่อย่างลูกพึงดู ไม่ใช่อย่างผู้รู้ นักวิชาการ หรือผู้ปกครอง อย่าลืมว่า พ่อแม่ทุกคน. ต้องการความรัก ความอบอุ่น และความเคารพจากลูก มากกว่าอะไรทั้งหมด ถึงแม้บางท่าน อาจจะแสดงออกในทางตรงกันข้ามก็ตาม
. . . . . . . . . . . . . . . . . .
๓. ไม่มีใครอยากเป็นคนป่วย อยากช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือ อยากเป็นคนแก่ ที่สูญเสียความเคารพตัวเอง และ ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
ข้อนี้ คนเป็นลูก มักจะมองข้ามมากที่สุด ไม่ว่าท่านจะป่วย หรือ แก่ขนาดไหนก็ตาม ท่านมีสิทธิเต็มที่ ที่จะ ได้รับการปฏิบัติต่อ ด้วยความเคารพ
. . . . . . . . . . . . . . . . . .
๔. อย่ายัดเยียด สิ่งที่เราเห็นว่า เหมาะที่สุดกับพ่อแม่ โดยท่านไม่เต็มใจ ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่ เลิศเหลือเกินในสายตาเรา หรือ ชาวโลกก็ตาม
อย่าบ่นว่า หาคนมาดูแลก็ไม่เอา ซื้อเตียงใหม่ให้ ก็ไม่ชอบ ทำห้องให้ใหม่ ก็ไม่ยอมอยู่ หมอที่เก่งกว่า ตั้งเยอะ ก็ไม่ยอมเปลี่ยน ขอให้ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป เมื่อความไว้เนื้อเชื่อใจเกิดขึ้น ผู้ใหญ่จะรับความหวังดี จากเรา ด้วยความเต็มใจเอง
. . . . . . . . . . . . . . . . . .
๕. การเปลี่ยนบทบาท จากผู้ถูกดูแล มาเป็นผู้ดูแล ทั้งทางกาย ทางใจ ทางทุนทรัพย์ เป็นการเปลี่ยนแปลง ที่อาศัยเวลา และ ความเข้มแข็งมหาศาล อย่าโทษตัวเอง ถ้าพบว่า มันไม่ง่าย และ ท้อแท้ คิดถึงหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของพ่อแม่ แล้วจะพบว่า หัวใจของลูก ที่พร้อมจะทำทุกอย่าง เพื่อตอบแทนท่าน ไม่ได้ยิ่งใหญ่น้อยไปกว่ากันเลย
. . . . . . . . . . . . . . . . .
๖. ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องรู้เวลา กิน นอน ขับถ่าย ความดัน ปริมาณอาหารและยา และการตอบสนองทั้งหมดต่อสิ่งเหล่านั้น รวมทั้งเบอร์โรงพยาบาล หมอ และ ambulance เพราะเหตุฉุกเฉิน เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ข้อมูลยิ่งพร้อม การรักษาพยาบาลก็ยิ่งเป็นผลดี
. . . . . . . . . . . . . . . . .
๗. เป็นคนพา พ่อแม่ไปหาหมอทุกครั้ง แรกๆอาจได้รับการปฏิเสธ ไม่ให้ไปด้วย ให้พยายามแทรกซึม จนท่านชิน ที่มีเรา ไปอำนวยความสะดวก ที่สุดแล้วท่านจะรู้สึกชิน กับความสบายนี้ และเปิดใจให้เรา เป็นส่วนหนึ่งของการรักษา
. . . . . . . . . . . . . . . . .
๘. หากจะจ้างคนดูแล เราต้องแน่ใจที่สุดว่า เรามีเวลาในการดูแล การทำงานของเขา อย่างใกล้ชิด
คนดูแล ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่าเรา และไม่ได้มีใจรักพ่อแม่เรา อย่างที่เรามีแน่นอน
. . . . . . . . . . . . . ..
๙. จัดหาทุกอย่าง ที่พ่อแม่เคยชอบเคยใช้ แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ใช้แล้วก็ตาม เช่น เสื้อผ้าที่นานๆ จะมีโอกาสใส่สักครั้งหนึ่ง นอกจากท่านจะรู้สึกว่า เราเอาใจใส่แล้ว ท่านจะยังรู้สึกว่า ตัวเองมีคุณค่า ไม่มีอะไรเสื่อมถอยจนด้อยค่า ใช้ของดีๆ สวยๆ ไม่ได้แล้ว คุณค่าทางใจแบบนี้ประมาณค่าไม่ได้เลย
. . . . . . . . . . . . . . . .
๑๐. แบ่งหน้าที่กัน กับพี่น้อง หรือคนในครอบครัวให้ชัดเจน จะช่วยลดภาระทางกาย และทางใจลงได้มาก อย่างน้อยที่สุด ก็ลดความตึงเครียด ในครอบครัว รวมทั้งลดการดูแลซ้ำซ้อน เช่น การให้ยาซ้ำ อันอาจเป็นอันตรายได้
. . . . . . . . . . . . . . . . . .
๑๑. คุยทิศทางการรักษา และการดูแล กับคนในครอบครัวให้ชัดเจน ก่อนคุยกับหมอ เมื่อหมอเสนอวิธีการรักษาอะไร อย่ากลัวที่จะถาม หรือ ขอเวลาหมอหาข้อมูลเพิ่มเติม 2nd, 3rd Opinion สำคัญเสมอ อย่าหลับหูหลับตา เชื่ออะไรที่ไม่เข้าใจ และก่อนตัดสินใจอะไรสำคัญทุกครั้ง อย่าลืมหาข้อมูล ของแต่ละทิศทาง และผลข้างเคียง ประกอบการตัดสินใจด้วย
. . . . . . . . . . . . . . . .
๑๒. ถ้าคุยกับคนในครอบครัวไม่รู้เรื่อง ญาติที่ไกลออกไปหน่อยที่มีความเป็นกลาง จะช่วยไกล่เกลี่ยได้ดีมาก จำไว้เสมอว่าเราอาจเป็นคนที่คิดผิดเองก็ได้ และทิฏฐิมานะไม่เคยช่วยให้อะไรดีขึ้น
. . . . . . . . . . . . . . . . . .
๑๓. เกิดอะไรผิดพลาด อย่ามัวแต่โทษตัวเองหรือปิดบังความจริง ให้รีบแจ้งหมอแจ้งครอบครัว และช่วยกันแก้ไขปัญหา ทุกข้อมูลสำคัญกับการรักษาทั้งสิ้น
. . . . . . . . . . . . . . . . .

” ขออนุโมทนากับลูกทุกคน ที่มีโอกาสดูแลพ่อแม่ ”

เมื่อเราทำเต็มที่ ใจจะไม่รู้สึกขาดเลย ใจจะอิ่มจะเต็ม ครับดูแลพ่อ แม่

15 ข้อคิด คำคม เพื่อแรงบันดาลใจในการทำงาน

image

1.เราไม่สามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ในทันที แต่เราสามารถทำบางสิ่งบางอย่างได้ทันที – แคลวิน คูลิดจ์

2.ถ้าสิ่งที่คุณทำสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นฝันใหญ่ขึ้น เรียนรู้มากขึ้น ทำมากขึ้น และเป็นในสิ่งที่ดีขึ้น คุณคือ ผู้นำ – จอห์น ควินซี แอดัมส์

3.การทำงานให้สำเร็จ ง่ายกว่าการอธิบายว่าทำไมคุณถึงทำมันไม่ได้ – มาร์ติน แวน บิวเรน

4.ถ้าคนคนหนึ่งสามารถสร้างความแตกต่างได้ คนอื่น ๆ ก็ควรลองเช่นกัน – จอห์น เอฟ เคนเนดี้

5.ความสำเร็จวัดที่การเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง – ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์

6.ซื่อสัตย์ ทำงานหนัก และกลับมากินข้าวเย็นให้ตรงเวลา – เจอรัลด์ ฟอร์ด

7.ถ้าคุณไต่มาจนสุดปลายเชือก ขมวดปมเชือกแล้วยึดให้มั่น – แฟรงกลิน ดี. รุสเวลต์

8.ฉันเดินช้า แต่ฉันไม่เคยเดินถอยหลัง – อับราฮัม ลินคอล์น

9,ถ้าคุณเดินถูกทาง คุณจะอยากเดินต่อไปเรื่อย ๆ และในที่สุด คุณก็จะก้าวหน้า -บารัค โอบามา

10.ถ้าเชื่อมั่นว่าตัวเองทำได้ คุณก็ไปได้ครึ่งทางแล้ว – ธีโอดอร์ รุสเวลต์

11.แรงบันดาลใจในการทำงานคนที่ไม่เคยทำผิด คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย – ธีโอดอร์ รุสเวลต์

12.ไม่มีอุปสรรคใดใด ในใจของเรา ไม่มีกำแพงขวางกั้นจิตวิญญาณของเรา ไม่มีสิ่งใดกีดขวางการเติบโตของเรา นอกจากตัวเราเอง – โรนัลด์ เรแกน

13.สิ่งซึ่งเป็นของผู้ที่มัวแต่รอ อาจจะเป็นสิ่งที่ผู้ซึ่งไปถึงก่อนเหลือไว้ – อับราฮัม ลินคอล์น

14.การปฏิบัติตามแต่ถ่ายเดียว คือคุกตะรางของเสรีภาพและศัตรูของความเจริญ – จอห์น เอฟ เคนเนดี้

15.อุปสรรคที่ขัดขวางความรู้แจ้งของเราในวันพรุ่งนี้ คือ ความลังเลในวันนี้ของเรา -แฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์

(ที่มา : www.themuse.com)