ទិវានៃសេចក្ដីស្រលាញ់-วันแห่งความรัก ภาษาเขมรวันละคำ

ទិវានៃសេចក្ដីស្រលាញ់-วันแห่งความรัก

ទិវានៃសេចក្ដីស្រលាញ់-วันแห่งความรัก

ภาษาเขมร : ទិវានៃសេចក្ដីស្រលាញ់
อ่านว่า : ติ เวีย เนย เซ็ย์จ กแด็ย ซรอ ลัย์ญ
แปลว่า : วันแห่งความรัก
ภาษาอังกฤษ : Valentine

ตัวอย่าง : ថ្ងៃទី 14 កុម្ភៈជាទិវានៃសេចក្ដីស្រលាញ់ មិនមែនថ្ងៃបុណ្យសង្សារទេ។
อ่านว่า : ทไง ตี ด็อบ บวน กม เพียะก์ เจีย ติ เวีย เนย เซ็ย์จ กแด็ย ซรอ ลัย์ญ เมิน แมน ทไง โบ็น ซ็อง ซา เต
แปลว่า : วันที่ 14 กุมภาเป็นวันแห่งความรัก ไม่ใช่วันแฟน

 

การเมืองไทยและเขมรช่วงนี้ทำไมเหมือนกันจัง

อยาให้ท่านอ่านให้จบ
การเมืองไทยและเขมรช่วงนี้ทำไมเหมือนกันจัง
image

ฮุนเซ็นเอ่ย โจ๊ะฮ์ เจงญ์ โตว
นี่เป็นเสียงที่เขาตระโกนกัน โดยมีผู้นำหลายคนถือไมโครโฟนพูดนำก่อนว่า ” ฮุนแซนเอ่ย ” แล้วคนที่ได้ยินเสียงนี้ก็ตระโกนตอบว่า ” โจ๊ะฮ์ เจ็งญ์ โตว ” ความหมายก็คือ ฮุนเซ็น ออกไป ๆๆๆ นั่นแหละ น่าจะพอๆกับเหตุการบ้านเมืองไทย ที่เขาเป่านกหวีดแล้วตระโกนว่า อีปู ออกไปๆๆๆๆ

คนเขมรหลายคนที่พอรู้เรื่องเหตุการบ้านเมืองไทยบ้าง เขาพากันพูดต่อกันว่า ที่การเมืองของทั้งสองประเทศเป็นเช่นนี้เพราะนักการเมืองทั้งสองประเทศ ได้เอาเรื่องปราสาทพระวิหารไปเกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ของคะแนนเสียงของตน เช่น ทางพรรคการเมืองไทยเอาความไม่สงบในแนวชายแดนเป็นประเด่นอ้างว่า รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทางเขมรก็สนับสนุน ยุให้ประชาชนโกรธ แล้วยกทัพมารบ ทำให้ทหารและประชาชนที่อาศัยอยู่ในแนวชายแดน ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเสียชีวิต บาดเจ็บ และพิการหลายราย บนผู้เขาอันศักดิ์สิทธิ์ที่มีเทวดาปกป้องรักษาอยู่  ท่านเลยเกิดความโมโห แล้วลงโทษนักการเมืองทั้งสองประเทศให้ประเชิญหน้ากับการตกจากตำแหน่ง  นี่เป็นแค่ความเชื่อของคนกลุ่มน้อยเท่านั้นน่ะครับ แต่ก็น่าเอามาคิดเหมือนกัน

ก่อนที่จะมีการแบ่งเขตประเทศ ตรงนั้นไม่มีใครพูดว่าของใคร มีแต่เขาพูดว่า เคินยืง (ของเรา) แล้วทำไมเราต้องทะเลาะกัน ทุกคนรู้ไหมว่า คนที่ทำให้เราเกลียดกันนั้นมีไม่กี่คนเท่านั้นเอง  มันทำให้เราเกลียดกันเพราะประโยชน์ส่วนตัวของมันเอง  คนที่โกรธแค้นมากก็เป็นคนที่อยู่ไกลจากแนวชายแดน อยู่ดีมีสุข ส่วนคนที่ลำบากคือพี่น้องที่เผลอเกิดที่แนวชายแดน พ่อเป็นเขมร แม่เป็นไทย ลูกเป็นลาว แล้วก็พี่น้องทหารที่คอยรับคำสั่งให้ไปตาย

ถามว่าเราทำอย่างนี้เพื่ออะไร เราเกลียดกันไปเพื่ออะไร ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าเราแย่งสิ่งนั้นได้มาแล้วก็ไม่ได้นำมาทำให้เกิดประโชชน์มากกว่าอะไรที่เราเสียไปหรอกใช่ไหม
ผมอยากให้สองประเทศเรารักกัน ผลลัพธ์คือมีแต่ได้กับได้

คุณรู้ไหมว่า เราเกลียดกันเพราะ “เราโง่เชื่อคนสองคน หรือไม่กี่คนเท่านั้น”

หลังจากอ่านข้อความนี้ ผมอยากให้ทุกคนแชร์ข้อความนี้เยอะๆ หรือแก้ไขดัดแปลงข้อความยี้ให้อ่านแล้วเข้าใจง่ายกว่านี้ แล้วแชร์ต่อด้วยน่ะครับ เพราะภาษาไทยผมไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร ครั้งนี้ “เราทำเพื่อเรา ไม่ได้ทำเพื่อใคร” นะครับ

จากผม นายฤทธี  นี ชาวพนมเป็ญที่รักเมืองไทย

แมลงตัวนี้เขาเรียกว่าอะไร

image

จำได้ว่าสมัยเด็กชอบจับมาเล่นมาก
มันมีไม่มาก แล้วถ้าใครจับได้ จะเอาติดตัวไม่ปล่อยเลย
สีมันสวยมาก น่ารัก ไม่กัด แล้วชอบกินยอกมะขามเทศ
เด็กแถวบ้านผมทุกวันนี้คงไม่เล่นแบบเด็กรุ่นผมอีกแล้วแหละ
เพราะเขามีของเล่นเยอะ
แมลงตัวนี้เขาเรียกว่า កំភេម (ก็อม เภม)
ไม่รู้ภาษาไทยเรียกอะไร

งานเทศกาลแซนโฎนตา

งานเทศกาลแซนโฎนตา

សែនដូនតា เทศการแซนโฎนตา ฟังดูแปลกๆ หลายคงคงสงสัยว่าคืออะไร หมายความว่าอย่างไร

แซนโฎนตา สามคำนี้มีความหมายดังนี้

แซน(សែន) แปลว่า เซ่น
โฎน (ដូន) แปลว่า ยาย ซึ่งในภาษาเขมรไม่ได้แยกระหว่างปู่ ย่า ตา ยาย เขมรจะเรียกพ่อของพ่อ หรือของแม่ว่า ตา(តា) หรือ จีตา(ជីតា)

แล้วเรียก แม่ของพ่อ หรือ แม่ ว่า เยียย(យាយ) หรือ โฎน (ដូន) หรือ จีโฎน (ជីដូន)
อีกอย่าง ถ้าเราเจอผู้สูงอายุทุกคนที่เป็นผู้หญิง เราจะเรียกท่านว่า เยียย หมดเลย แล้วถ้าเป็นผู้ชายจะเรียกท่านว่า ตา หมดเหมือนกัน

เพราะฉะนั้น เทศกาล แซนโฎนตา หมายถึงงานเซ่นไหว้ระลึกถึงบุญคุณของบรรพบุรุษของเราที่ได้ล่วงลับไปแล้วนั่นเอง

แต่แท้จริงแล้ว ชาวกัมพูชาเราไม่ได้เรียกเทศกาลนี้ว่าแซนโดนตาเหมือนชาวเขมรท้องถิ่นที่เมืองไทยเลย เราเรียกเทศกาลนี้ว่า โบ่น พจุม เบ็น (បុណ្យភ្ជុំបិណ្យ) ซึ่งแปลว่าเทศกาลร่วมญาติ   โบ่น พจุม เบ็น ของชาวเขมรที่กัมพูชาจัดขึ้น 15 วัน ตามปฏิทินเขมรโบราณ โดยวันแรกถึงวันที่14 เขาจะเรียกว่า เบ็น 1 เบ็น 2 – เบ็น 14 แล้ววันสุดท้ายจะเรียกว่า โบ่น พจุม เบ็น

การจัดงานเทศกาลแซนโฎนตา หรือ โบ่น พจุม เบ็น แต่ละพื้นที่จะมีสักษณะแตกต่างกันไปแต่จะมีแนวทางเดียวกันคือร่วมญาติพี่น้องแล้วเซ่นไหว้อุทิศกุศลให้บรรพบุรุษ โดยส่วนใหญ่แล้วที่กัมพูชาเราจะจัดขึ้นที่วัดอย่างเดียว โดยในวันเบ็นที่ 1-14 เราจะเด็กน้อยหนุ่มสาวจะตื่นไปวัดตั้งแต่ตี 2 ตี 3 นำขนม ผลไม้ ข้าวเหนียวทำเป็นก้อน ๆ เรียกว่า บาย เบ็น แล้วไปวางในภาชนะที่พระเตรียมไว้ให้ เพื่ออุทิศให้บรรพบุรุษของเรา แล้วก็เตรียมอีกจานหนึ่งไว้ถือแล้วโยนไปให้ผีเปรตที่ไม่มีญาติอุทิศกุศลให้   พอพร้อมเพรียงกันแล้วประมาณตอนตี 5 พระก็จะสวดอุทิศบุญกุศล จักนั้น เขาก็ยกบายเบ็นทั้งหมดไปแห่รอบโบสถ์สามรอบแล้วไปเทบนใบไม้ที่นอกกำแพงวัด โดยจะเวียนไปตามทั้งแปดทิศของวัด

ถ้าจะเล่าเรื่องงานเทศกาลนี้คงนานอ่ะครับ วันนี้เอาแค่นี้ก่อน ถ้ามีผิดพลาดตรงไหน ก็ช่วยบอกด้วยน่ะครับ

ขอบคุณครับ

19 เคล็ดลับ เพื่อความสุขในชีวิตคู่

1.## อย่า เปลี่ยนเขา แต่เปลี่ยนตัวคุณเอง อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาทำอะไรให้คุณไม่ชอบใจชนิดรับกันไม่ได้จริงๆ ลองบอกสิ่งนั้นให้เขาฟัง แต่อย่าใช้น้ำเสียงโมโหโกรธาหรือตั้งท่าจะราวี

2. ## บางครั้งคุณจำเป็นต้องปฏิบัติไปตามกฎของคนที่คุณรักบ้าง ไม่ควรทำอะไรตามแต่ใจตัวเอง อย่าลืมว่า คุณกำลังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันนะ ไม่ใช่เป็นโสดอีกต่อไปแล้ว

3.## ปรับจิตใจตัวเองเสียใหม่ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนเหล็กแค่ไหน ถ้าต้องอยู่กับใครสักคนขึ้นมา คุณต้องดัดแปลงทัศนคติ, ความคิดและการแสวงหาความสุขแบบเดิมๆ มาเป็นในลักษณะที่มนุษย์ 2 คนทำร่วมกันได้แล้วจะรู้ว่า ชีวิตยังมีเรื่องสนุกให้ตักตวงไปพร้อมๆกันอีกหลายอย่าง

4.## แต่ขอให้ระลึกไว้ว่า คุณเป็นคนควบคุมชีวิตของตัวเอง จะทำสวยหรือโปรยเสน่ห์ให้เขาหลง ก็ขึ้นอยู่กับคุณเองนั่นแหละ ว่าจะหมั่นทำตัวเซ็กซี่หรือปล่อยเป็นพะโล้

5.## คุยถึงเรื่องที่ดีและไม่ดี ให้กันและกันฟัง

6.## บางครั้งก็ต้องเป็นหมอ (จิตแพทย์) ที่รักษาเรื่องบาดหมางระหว่างกัน

7.## พูดให้น้อย แต่ทำให้มาก ซึ่งประการหลังหมายถึงหมั่นแสดงความรักต่อเขา เช่น จุมพิตกันบ่อยๆ หรือส่งสายตาระยิบระยับให้กัน

8.## รักในข้อบกพร่องของคนที่เรารัก

9.## ทำใจให้ได้ว่า ผู้ชายไม่ชอบเรื่องหยุมหยิมของภรรยาเหมือนกันทุกคน

10.## ตรงข้าม ผู้ชายจะต่างกันในเรื่องการเอาใจใส่ภรรยา

11.## อย่ากังวลกับเรื่องจุกจิกมากเกินไป เช่น บางคู่แม้แต่ยาสีฟันยังใช้คนละยี่ห้อ จึงเสนอวิธีคลี่คลายปัญหาซื้อมันเสียทั้ง 2 ยี่ห้อนั่นแหละ จะได้ไม่ต้องพะวงว่า ควรซื้อยี่ห้อไหนดี

12.## ถ้าจำเป็นต้องมีปากเสียงกัน ให้เลือกทะเลาะในเรื่องที่ฉลาดๆหน่อย อย่าลืมว่า ความคิดต่างกันไม่ได้หมายความว่า เราไม่รักกัน

13.## ท่องไว้ว่า มีทางออกสำหรับข้อขัดแย้งทั้งปวงเสมอ

14.## หัดใช้ความเข้าใจเป็นสะพานเชื่อมถึงกัน

15.## อยากจะรักกันนานๆ ควรปฏิบัติต่อกันอย่างให้เกียรติและนุ่มนวล

16.## อย่าสับสนว่า ชีวิตสมรสจะเหมือนการออกเดท เพราะมีอีกหลายอย่างที่คุณต้องฟันฝ่าอุปสรรคร่วมกัน

17.## ถ้ามีปัญหาในชีวิตคู่ ควรช่วยกันแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาใหญ่ๆ อย่าตัดสินใจคนเดียว

18.## หยุดชี้นิ้วสั่งโน่นสั่งนี่ เป็นเจ้าแม่ เสียทีเถอะ

19.## หวานใส่กันเรื่อยๆ เช่น อย่าลืมกระซิบคำพูดแสนหวานให้เขาฟัง, จูงมือกันยามเดินข้ามถนน หรือแม้แต่บอกให้เขารู้ว่าเขาจะพิชิตใจคุณได้อย่างไรถึงจะแต่งงานร่วมใช้ชีวิตกันแล้ว ก็อย่าให้โปรโมชั่นตอนเริ่มแรกรัก

เขมรล่าง (แขมร์กรอม) Kampuchea Krom

เขมรล่าง
วันที่ 04 มิถุนายน ค.ศ. 1949
เป็นวันที่ฝรั่งเศสตัดเขมรล่างให้เวียดนาม
21 จังหวัด กับอีกหลายเกาะ
แขมร์กรอม
ที่พี่น้องชาวอีสานใต้คุ้นเคยว่าอยู่ที่กัมพูชา
แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่
นั่นคือแขมร์กันนาวล์
แขมร์กรอม 21 จังหวัด
อยู่ประเทศเวียดนาม ติดทะเลจีนใต้นู่น
สำเนียงการพูด ไม่ต่างกันกับเขมรกลางน่ะคับ

ภาษาเขมรท้องถิ่นอีสานตอนใต้

400px-Khomthai_-_alphabeth
ภาษาเขมร คือ ภาษาท้องถิ่นของชาวอีสานตอนใต้ ของประเทศไทย หรือ เราเรียกชนกลุ่มนี้ว่า ขแมร์ ภาษาเขมร เป็นต้นกำเนิด มาจากภาษาขอม ซึ่งมีอายุกำเนิด เกิด มานับ ร้อย ๆ เป็นภาษาที่สละ สลวย และเป็นภาษามาจากรากราชาศัพท์ และ มีหลายคำที่นำมาใช้ในภาษาไทย เช่น เสวย แปลว่า กิน หรือ ทาน,สดับ แปลว่า ฟัง , เดิน มาจาก คำว่า เดอร ของภาษาเขมร เป็นต้น ในสมัยแต่โบราณกาล ชาวเขมร ที่เรียนวิชา อาคม มนต์ขลัง และเวทย์มนต์ คุณไสย์ ที่เป็นวิชาทางไสยศาสตร์ ได้นำวิชาและคาถา ต่าง ๆ มาจารึกไว้บนใบลาน หรือที่เราเรียกกันว่า พระ คาถาใบลาน จึงสามารถพิสูจน์ได้ว่า ภาษาเขมร เป็นภาษาที่เก่ามาก อีกภาษาหนึ่ง เช่นเดียวกันกับภาษาขอม
អានត-อ่านต่อ

การ์ตูนการแต่งกายแบบเป็นทางการ 10 ประเทศอาเซียน 10 Asean



กดไลค์ให้ด้วยน่ะครับ ทุก 8 โมงเช้า ท่านจะได้ต้อนรับวันใหม่กับ ภาษาเขมรวันละคำกับผมน่ะครับ



“ภาพการ์ตูนการแต่งกาย 10 ประเทศอาเซียน ชุดสุดทายแล้วครับ อับมาครบ 10 ประเทศแล้ว ทางผู้จัดทำหวังว่าภาพทุกภาพที่อับไปให้คงมีประโยชน์ เอาไปจัดการเรียนการสอน จัดบอร์ด ประกอบรายงงานได้เป็นอย่างดี ทีสำคัญผมของฝาก Blog นี้ไว้ด้วยนะครับ จะพยายามหาภาพการ์ตูนต่าง ภาพระบายสี มาอับเยอะ ขอบคุณครับ” คัดลอกทุกเนื้อหาและรูปภาพทั้งหมด จาก loadebookstogo.blogspot.com น่ะครับ  cambo-zone ชอบมาก ของเอามาแบ่งปั่นด้วยแล้วกันน่ะครับ ขอขอคุณเป็นอย่างสูงน่ะครับ

Brunei บรูไนBrunei บรูไน

Brunei บรูไน

Cambodia กัมพูชาCambodia กัมพูชา

Cambodia กัมพูชา

អានត-อ่านต่อ

รากฐานของประเทศกัมพูชา อาณาจักรฟูนาน

รัฐฟูนาน (เวียดนาม: Phù Nam) เป็นรัฐโบราณที่มีอิทธิพลเหนือดินแดน แห่งลุ่มน้ำแม่โขง แม่น้ำเจ้าพระยา ก่อตั้งขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 7 กษัตริย์องค์แรกคือพราหมณ์โกณฑิญญะ ซึ่งมีเชื้อสายจากอินเดีย ได้มีมเหสีคือ “นางพญาขอม”

อาณาจักรฟูนัน ( Funan )

อาณาจักรฟูนัน[1]เป็นรัฐที่รุ่งเรืองอยู่ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 1 – 6 ที่ตั้งของรัฐอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง ปัจจุบันเป็นที่ตั้งประเทศกัมพูชา เวียดนามตอนใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย บางตอนของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และภาคใต้ของไทย ลงมาถึงแหลมมลายู ฟูนานรวมตัวกันเป็นรัฐแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรัฐชลประทานภายในแผ่นดินที่ประชาชนดำรงชีพด้วยการเกษตร โดยใช้น้ำจากระบบชลประทานที่พัฒนาเป็นอย่างดี นอกจากนั้น ฟูนานยังมีเมืองท่าสำหรับจอดเรือและค้าขายต่างประเทศ ฟูนาน จึงมีรายได้จากการค้าขาย การเดินเรืออีกด้วย
เรื่องราวของรัฐฟูนาน ทราบจากบันทึกของชาวจีนที่เดินทางมาแถบนี้ ได้เขียนเล่าถึงความมั่งคั่ง ความเป็นอยู่ในชุมชนที่มีระเบียบ มีคุณธรรม มีการปกครองระบอบกษัตริย์ มีเมืองต่าง ๆ มาขึ้นด้วยหลายเมือง มีวัฒนธรรมแท้ ๆ ของตนเอง มีการติดต่อกับชาวต่างประเทศ ทั้งในทวีปเอเชียด้วยกัน และโลกตะวันตก ชนชั้นสูงเป็นพวกมาลาโยโพลีนีเซียน ชาวจีนว่าพวกชนชั้นพื้นเมืองของฟูนันหน้าตาหน้าเกลียด ตัวเล็ก ผมหยิก สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพวกเนกริโตและเมลานีเซียน ฟูนานมีประวัติความเป็นมา เริ่มจากการรวมตัวกันของผู้คน เป็นชุมชนเล็กขนาดหมู่บ้าน จากหมู่บ้านพัฒนาขึ้นมาเป็นรัฐ วิธีการพัฒนาจากสังคมเผ่าเป็นสังคมรัฐมีปัจจัยและขั้นตอนหลายประการ

 

รายชื่อจังหวัดของกัมพูชา

กดไลค์ให้ด้วยน่ะครับ
ทุก 7 โมงเช้า ท่านจะได้ต้อนรับวันใหม่กับ
ภาษาเขมรวันละคำกับผมน่ะครับ

ประเทศกัมพูชามีจังหวัดทั้งหมด 24

ខ្មែរ อ่านว่า ไทยเรียกว่า
– កណ្តាល ก็อนดาว์ล กันดาล
– ប៉ៃលិន ไปเลิน กรุงไพลิน អានត-อ่านต่อ