ป้ายบอกสถานที่ตามถนนที่กัมพูชา

47.1

ป้ายบอกสถานที่ ข้างหน้าแยกซ้ายเป็นทางหลวงหมายเลขที่68 ไปสำโรง ก็คือตัวจังหวัดอุดรเมียนเจ็ย และมุ่งไปยังชายแดนโอร์ซมัจ  หากท่านตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 6 ก็จะเข้าเมืองเสียมราฐ

ซองยาเขมรครับ อ่านออกไหม

image

พอดีกลับบ้านแล้วก็ป่วยเลย
ได้ยามาซองหนึ่ง
ลองฝึกอ่านกันน่ะครับ

ต้นไม้แก่ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… ?

image

ต้นไม้แก่ ขอฝนจากเมฆก้อนน้อย
เมฆก้อนน้อยตอบเพียงว่า

น้ำฝนมีอยู่น้อย
กลัวว่ามันคงจะไม่พอให้ต้นไม้แก่ได้ชื่นใจ

วันต่อมา
เมฆก้อนน้อยก็ยังคงบอกเช่นเดิม
มันน้อยไป จึงไม่พร้อมที่จะให้

เมฆก้อนน้อยจึงเดินทาง และพยายามสะสมฝน
เพื่อที่จะให้มันมากพอ พอที่จะทำให้ต้นไม้แก่ได้ชื่นใจ

เมื่อมีปริมาณมากพอ
เมฆน้อยจึงกลับมา

แต่สิ่งที่พบข้างหน้า
มีเพียงซากต้นไม้แก่ที่ตายแล้ว

เมฆน้อยได้แต่ร้องไห้แล้วถามว่าทำไม
ความพยายามของฉัน ไม่มีค่าเลยเหรอ

ชายหนุ่มที่นั่งใต้ต้นไม้จึงได้แหงนหน้า
แล้วบอกเมฆน้อยไปว่า

” การที่เราจะให้อะไรแก่ใครสักคนที่เรารัก
มันไม่ต้องรอให้มากพอหรือรอความพร้อมอะไรหรอก
ให้เท่าที่มี ก็ทำให้คนรับชื่นหัวใจได้
ความพยายามเป็นสิ่งที่ดี
แต่มันก็มีเวลาเป็นเงื่อนไขนะ

อย่าไปรอให้รวย ถึงจะทำอะไรให้คนที่เรารัก
อย่าไปรอให้พร้อม ถึงจะทำอะไรให้คนที่เรารัก
เพราะคนที่เรารัก อาจไม่มีเวลามากพอที่รอเรา ”

แล้วก่อนที่ต้นไม้แก่จะจากไป
เขาฝากบอกเธอไว้ว่า ถ้าเห็นเธอผ่านมา
ให้บอกเธอว่า เขารักเธอ

เมฆน้อยได้แต่หลั่งน้ำตาออกมาเป็นเม็ดฝนอย่างไม่ขาดสาย
ให้กับต้นไม้ที่ไม่มีวันแตกใบให้ได้เห็นอีกต่อไป ตลอดกาล
󾬗󾬗󾬗󾬗󾬗󾬗󾬐󾬐󾬐󾬐󾬐󾬐󾔐󾔐

อยากให้ อ่าน ช้า ช้า สบายๆ ให้จบ

image

เมื่อตอนที่นก
ยังมีชีวิตอยู่..
มันจะกินมดเป็นอาหาร
แต่เมื่อมันตาย..
มันก็จะถูกมดกินเป็นอาหารเช่นกัน

ต้นไม้หนึ่งต้น
สามารถทำเป็นไม้ขีดไฟได้เป็นล้านๆก้าน
แต่ไม้ขีดไฟเพียงหนึ่งก้าน
ก็สามารถเผาต้นไม้ได้เป็นล้านๆต้นเช่นกัน

จงอย่ามองข้ามคนที่ด้อยกว่า เพราะหลงตัวเองว่ายิ่งใหญ่

อย่ามองข้ามลูกค้ารายเล็ก
ไม่เห็นคุณค่าของพวกเขา
เพราะสักวันหนึ่งเขาอาจเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเราก็เป็นได้

อย่าคิดว่าเราแข็งแรงไม่มีวันป่วยเพราะอายุยังน้อย
โลงศพไม่ได้มีไว้ใส่คนแก่แต่มีไว้ใส่คนตาย

อย่าคิดว่าฉันรวยใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย
สักวันเงินเพียง1พัน
อาจมีค่ามากมายในวันตกอับก็ได้

ไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต
ใหญ่ได้ก็เล็กได้
รวยได้ก็จนได้
แข็งแรงได้ก็ป่วยได้
เกิดได้ก็ต้องตายได้
ทุกคนไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า
ท่องจำให้ขึ้นใจ
“อย่าหลงตนอย่าลืมตัว”
และที่สำคัญ
“ข้าจะไม่ประมาท”
กับชีวิตอีกต่อไป..

จะไม่ว่างแค่ไหนก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี

แม้ว่าบางครั้งติดต่อเพื่อนได้ยาก
แต่ก็ให้คิดถึงเสมอ..
ขอส่งให้คนที่รักและเพื่อนที่ดีทุกคน (love)

លោកតានួន កន អ្នកនិព្ធបទ សាវតារខ្មែរ

 

ស្នាដៃពិសេសមួយរបស់លោកតា នួន កន
គឺលោកបាននិពន្ធបទភ្លេងនិងចម្រៀងជាតិ សាវតារខ្មែរ
ដែលយើងគ្រប់គ្នាច្រឡំថា ជាស្នាដៃរបស់សម្តេចសង្ឃរាជ ជួន ណាត។ បទនេះបាននិពន្ធឡើងនៅថ្ងៃទី 12 កញ្ញា ឆ្នាំ 1958
ដោយលោកតា នួន កន យកតាមលំនាំបទបុរាណខ្មែរឈ្មោះថា ស្រីខ្មែរត្បាញ បានយកទៅប្រកួតក្នុងទិវាមហោស្រពជាតិ ឆ្នាំ 1958
និងបានទទួលរង្វាន់ពានមាស ពីមហាក្សត្រិយានី ស៊ីសុវត្ថិ កុសមៈ នារីរតន៍ សិរីវឌ្ឍនា។

 

 

image

หลวงพ่อดีเนาะ ผู้มองโลกในแง่ดี

หลวงพ่อดีเนาะขอให้ทุกท่านลองอ่านดูเนาะ…
…มีหลวงพ่อองค์หนึ่งซึ่งเลื่องลือกันว่า เป็นพระที่มีแต่ความสุข ไม่เคยมีความทุกข์ วันหนึ่ง โยมมานิมนต์ท่านไปเทศน์ที่บ้าน บอกท่านว่าจะมารับแต่เช้า หลวงพ่อก็นั่งรอจนสายโยมก็ไม่มาสักที ท่านจึงว่า “ไม่มาก็ดีเหมือนกันเนาะ เราฉันท์ข้าวของเราดีกว่า”

ท่านฉันท์ข้าวได้ไม่กี่คำ โยมก็มารับพอดี กราบกรานขอโทษที่มาช้าเหตุเพราะว่ารถเสีย

หลวงพ่อจึงหยุดฉันท์ “ก็ดีเนาะ ไปฉันที่งานเนาะ”

หลวงพ่อนั่งรถไปได้สักพัก เครื่องรถก็ดับ คนขับบอก “รถเสียครับ”

หลวงพ่อก็ว่า “ดีเนาะ ได้หยุดพักชมวิวเนาะ”

คนขับง่วนอยู่กับรถพักใหญ่ ทำอย่างไรเครื่องก็ไม่ติด จึงออกปากขอร้องให้หลวงพ่อช่วยเข็นรถ ความจริงหลวงพ่อก็แก่แล้ว ข้าวก็ฉันท์ได้ไม่กี่คำ แต่แทนที่จะบ่น ท่านกลับยิ้มแล้วบอกว่า “โอ้ดีเนาะ ได้ออกกำลังเนาะ”

แล้วท่านก็ขมีขมันออกแรงช่วยเข็นรถจนวิ่งได้ ปรากฏว่ากว่าจะถึงบ้านงานก็เลยเที่ยงแล้ว หมดเวลาฉันท์อาหารไปแล้ว เป็นอันว่า วันนั้นหลวงพ่ออดข้าวทั้งสองมื้อ แต่เนื่องจากได้เวลาเทศน์แล้ว เจ้าภาพจึงนิมนต์ท่านขึ้นเทศน์ทันที หลวงพ่อก็สนองด้วยดี “ดีเนาะ มาถึงก็ได้ทำงานเลยเนาะ”

ว่าแล้วท่านก็ขึ้นธรรมาสน์เทศน์จนจบ มีคนชงกาแฟถวาย แต่เผลอตักเกลือใส่แทนน้ำตาล หลวงพ่อจิบกาแฟไปได้หน่อยก็บอกโยมว่า “ดีเนาะ” แล้วก็วาง ธรรมเนียมของญาติโยมที่ศรัทธาเกจิอาจารย์ เวลาท่านฉันท์อะไรเหลือ ลูกศิษย์ก็อยากได้บ้าง ถือเป็นสิริมงคล แต่ลูกศิษย์ดื่มกาแฟแค่อึกแรกเท่านั้นก็พ่นพรวดออกมา

“เค็มปี๋เลยหลวงพ่อ ฉันท์เข้าไปได้ยังไง !”

“ดีเนาะ ฉันกาแฟหวานๆ มานาน”

หลวงพ่อว่า “ฉันเค็มๆ มั่งก็ดีเหมือนกัน”

ไม่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับท่าน จะแย่แค่ไหน หลวงพ่อก็มองเห็นแต่แง่ดี ท่านจึงไม่มีความทุกข์เลย

เคยมีลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งไปทำผิด ถูกจับติดคุก ท่านก็ว่า “ก็ดีเนาะ มันจะได้ศึกษาชีวิต”

หลวงพ่อดีเนาะมิใช่เป็นหลวงตาธรรมดาๆ หากเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีชื่อของจังหวัดอุดรธานี ที่ใครๆ ก็รู้จัก ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาและผู้เคารพนับถือทั่วประเทศ การประพฤติปฏิบัติของท่านเป็นที่เล่าขานกันมากมายหลายเรื่อง เช่น มีผู้เล่าว่า กุฏิของท่านเป็นที่จับตาของโจรผู้หนึ่ง เพราะเห็นว่ามีสิ่งของมีค่ามากมายที่ญาติโยมนำมาถวาย วันหนึ่งได้โอกาสบุกเข้าประชิดตัวหลวงพ่อบนกุฏิ พร้อมปืนในมือ “นี่คือการปล้น อย่าได้ขัดขืนนะหลวงพ่อ”

หลวงพ่อแทนที่จะตกใจหรือโมโห กลับยิ้มให้โจรด้วยอารมณ์ดี และกล่าวกับโจรอย่างนิ่มนวลว่า “ปล้นก็ดีเนาะ”

โจรแปลกใจในคำพูดและท่าทีของหลวงพ่อ จึงพูดว่า “ถูกปล้นทำไมว่าดีล่ะหลวงพ่อ”

หลวงพ่อตอบว่า “ทำไมจะไม่ดีล่ะ ก็ข้าต้องทนทุกข์ทรมานเฝ้าไอ้สมบัติบ้าๆ นี้ตั้งนานแล้ว เอ็งเอาไปเสียให้หมด ข้าจะได้ไม่ต้องเฝ้ามันอีก”

โจรตอบว่า “ไม่ใช่ปล้นอย่างเดียว ฉันต้องฆ่าหลวงพ่อด้วย เพื่อปิดปากเจ้าทรัพย์”

หลวงพ่อก็ตอบเหมือนเดิม “ฆ่าก็ดีเนาะ”

โจรแปลกใจจึงถามว่า “ถูกฆ่ามันจะดีได้อย่างไรล่ะหลวงพ่อ”

หลวงพ่อตอบ “ข้ามันแก่แล้ว ตายเสียได้ก็ดี จะได้ไม่ทุกข์ร้อนอะไร”

โจรรู้สึกอ่อนใจเลยบอกว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ฆ่าหรอก”

หลวงพ่อก็พูดเหมือนเคย “ไม่ฆ่าก็ดีเนาะ”

โจรถามอีก “ทำไมฆ่าก็ดี ไม่ฆ่าก็ดีอีก”

หลวงพ่อตอบว่า “การฆ่ามันเป็นบาป เอ็งจะต้องใช้เวรทั้งชาตินี้และชาติหน้า อย่างน้อยตำรวจเขาจะต้องตามจับเอ็งเข้าคุก เข้าตะราง หรือไม่ก็ถูกฆ่าตาย ตายแล้วก็ยังตกนรกอีก”

ได้ยินเช่นนี้โจรเลยเปลี่ยนใจ “ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ปล้นหลวงพ่อแล้ว”

หลวงพ่อก็ตอบอีกว่า “ไม่ปล้นก็ดีเนาะ”

มีผู้เล่าต่อมาว่า ในที่สุดโจรคนนั้นก็สำนึกบาปเข้ามอบตัวกับตำรวจ เมื่อพ้นโทษออกมาก็ขอให้หลวงพ่อบวชให้และอยู่ในผ้าเหลืองเป็นเวลานาน ส่วนหลวงพ่อมีคนให้ฉายาท่านว่า “หลวงพ่อดีเนาะ” มาจนทุกวันนี้

หลวงพ่อดีเนาะ แห่งวัดมัชฌิมาวาส อุดรธานี เป็นผู้ที่มองเห็นข้อดีของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับท่าน อีกทั้งท่านยังมองคนอื่นในแง่ดีเสมอ ไม่เคยว่าใครหรือจับผิดใคร เจอปัญหาอะไรๆ ก็พูดว่า “ดีเนาะ” ในที่สุดจึงได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์ เป็น “พระเทพวิสุทธาจารย์ สาธุอุทานธรรมวาที” ซึ่งแปลว่า ผู้สอนธรรมด้วยการเปล่งคำว่าดีเนาะ

“พระเทพวิสุทธาจารย์ สาธุอุทานธรรมวาที”
วัดมัชฌิมาวาส ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี
เขียนเล่าเรื่องโดย พระไพศาล วิสาโล

*** อ่านแล้วชอบมากเลยขอนำมาแชร์ต่อเนาะ..

ส่วนนี้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมของหลวงพ่อท่าน

จ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาสอุดรธานีรูปที่ 3

ใน ภาคอีสาน มีเกจิอาจารย์จำนวนมากมายหลายสิบองค์ ที่มีลูกศิษย์ที่นับถือกราบไหว้สักการะ ซึ่งเกจิอาจารย์ที่ว่านั้น ส่วนมากนั้นเป็นพระที่อยู่ในสายของธุดงค์กรรมฐานเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นท่านหลวงปู่มั่น ภูมิทตฺโต, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่วัน วัดถ้ำส่องดาว จังหวัดสกลนคร, หลวงปู่เครื่อง ธมฺมจาโร วัดเทพสิงหาร อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม จังหวัดเลย เป็นต้น

ในจังหวัดอุดรธานี มีเกจิอาจารย์รูปหนึ่งที่ เป็นพระสงฆ์หรือเป็นพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งที่มีลูกศิษย์ลูกหาไม่น้อย พระเกจิอาจารย์รูปนั้นไม่ได้เป็นพระเกจิอาจารย์ที่อยู่ในสายของมหายาน ท่านคือ พระเดชพระคุณพระเทพวิสุทธาจารย์ หรือ เป็นที่รู้จักกันอย่างดีว่า “หลวงปู่ดีเนาะ” แห่งวัดมัชฌิมาวาส อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี แต่ถ้าเอ่ยชื่อของพระเดชพระคุณท่าน โดยเฉพาะในเขตเทศบาลแล้ว ชื่อของพระเดชพระคุณพระเทพวิสุทธาจารย์ เจ้าอาวาสองค์ที่ 3 แห่งวัดมัชฌิมาวาสนั้น น้อยคนที่จะรู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ถ้าเอ่ยชื่อถึง “หลวงปู่ดีเนาะ” แล้วทุกคนจะรู้จักท่านเป็นอย่างดี เพราะท่านหลวงปู่ดีเนาะที่ว่านี้ ท่านเป็นพระสงฆ์ หรือที่เรียกกันติดปากว่า พระเกจิอาจารย์ที่มีประชาชนเหล่าพุทธศาสนิกชนให้ความเคารพ นับถือมากไม่แพ้พระเกจิอาจารย์รูปอื่น ๆ ในประเทศไทยเลยทีเดียว

พระเดช พระคุณพระเทพวิสุทธาจารย์ หรือ หลวงปู่ดีเนาะ นั้น การติดตามสืบหาอัตชีวประวัติส่วนตัวของท่านนั้น ไม่ค่อยจะมีปรากฏให้เห็นมากนัก เพราะเนื่องจากว่าท่านจะไม่ค่อยทิ้งหลักฐานเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของท่าน เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ทราบ จะมีบ้างก็เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้รับการรวบรวมจาก พระเดชพระคุณพระธรรมปริยัติโมลี เจ้าคณะภาค 8 เจ้าอาวาสวัดมิชฌิมาวาสองค์ที่ ๕ เก็บไว้ในหนังสือประวัติของวัดมัชฌิมาวาส

พระเดชพระคุณพระเทพวิสุทธาจารย์ หรือหลวงปู่ดีเนาะ นามเดิมว่า บุ ปลัดกอง เกิดที่บ้านดู่ ตำบลบ้านดอน อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา พ.ศ. 2415 บิดาชื่อ นายทา ปลัดกอง มารดาชื่อ นางปาน ปลัดกอง เมื่อมีอายุได้ 19 ปี ครอบครัวของท่านได้อพยพย้ายถิ่นฐานอาศัยจากจังหวัดนครราชสีมา มาอยู่ที่บ้านทุ่งแร่ ตำบลหมูม่น อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ในปัจจุบันนี้

เมื่ออายุได้ 22 ปี ได้บวชเป็นสามเณรที่วัดบ้านโนนสว่าง บ้างทุ่งแร่ นั่นเอง และต่อมาอีกหนึ่งปี ท่านก็ได้รับ การอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดบ้านบ่อน้อย ตำบลเชียงยืน อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี มีพระอธิการกัน วัดสระบัว บ้านสร้างแป้น เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ปุญญสิริ” เมื่ออุปสมบทเป็น พระภิกษุแล้วนั้น ได้ไปจำพรรษา อยู่ที่วัดบ้านโนนสว่าง บ้านทุ่งแร่ อยู่ 3 พรรษาจึงได้ย้ายสำนัก ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดมัชฌิมาวาส เมื่อ พ.ศ. 2440

พระเดชพระคุณพระเทพวิสุธาจารย์ ได้เลื่อนสมณศักดิ์ตามกาลเวลาเรื่อย ๆ จนกระทั่งสุดท้ายท่านได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้น เทพ มีราชทินนามว่า “พระเทพวิสุทธาจารย์ สาธุอุทานธรรมวาที ปูชนียฐานประยุต เชษฐวุฒอิสาน คณาธิกร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี” และซึ่งก่อนหน้านั้นท่าน ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส เมื่อยังคงเป็นพระบุ (ปุสิริ) เมื่อ พ.ศ.2451 นับว่าเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 3 ของวัดมัชฌิมาวาส

ในขณะนั้นที่ท่านหลวงปู่ดีเนาะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด มัชฌิมาวาสนั้น ท่านได้ทำการบูรณะวัดมัชฌิมาวาสในด้านต่าง ๆ ให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ไม่ว่าจะเป็นถาวรวัตถุและเสนาสนะ เช่น พระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ โรงเรียนปริยัติธรรมและกุฎิของพระลูกวัดจำนวนมาก ที่เห็นในปัจจุบันนี้นั้นล้วนแต่ได้รับ การบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นในสมัยที่ท่านหลวงปู่ดีเนาะทั้งสิ้น นอกจากในด้านถาวรวัตถุของวัดแล้ว ท่านหลวงปู่ดีเนาะ ท่านก็ยังหันมาพัฒนาในด้านของการศึกษาของพระภิกษุสามเณรที่อยู่ในวัดแห่งนี้ โดยการจัดตั้งโรงเรียนปริยัติธรรมขึ้นมา สอนนักธรรมบาลีตามหลักสูตรของราชการคณะสงฆ์ ตั้งแต่นักธรรมชั้นตรีถึงนักธรรมชั้นเอก และประโยค ๑-๒ ถึงประเปรียญธรรม 6 ประโยค
หลวงปู่ดีเนาะหรือพระเดชพระคุณพระเทพวิสุทธาจารย์ ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส ตั้งแต่ พ.ศ.2451 จนกระทั่ง พ.ศ.2513 จึงได้ถึงแก่มรณภาพลง ตรงกับวันที่ 10 มีนาคม 2513 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 4 ปีระกา เวลา 09.10 น. ด้วยโรคชรา รวมอายุท่านหลวงปู่ได้ 98 ปี เป็นเจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส เป็นเวลา 63 ปี พรรษาได้ 76 พรรษา

หลาย ๆ คนอาจจะมีความสงสัยว่า เป็นเพราะเหตุใด พระเดชพระคุณพระเทพวิสุทธาจารย์ จึงมีฉายาอีกว่า “หลวงปู่ดีเนาะ” ความเป็นมาของฉายาดังกล่าวนั้น เป็นที่กล่าวขานกันในหมู่ลูกศิษย์และประชาชนทั่วไป ที่เคยใกล้ชิดกับท่านกล่าวว่า ตามปกติวิสัยของท่านหลวงปู่ดีเนาะนั้น ท่านชอบอุทานหรือกล่าวคำว่า “ดีเนาะ” และคำว่า “สำคัญเนาะ” และท่านจะเรียกคนทั่วไปรวมทั้งพระภิกษุและสามเณร หรือคฤหัสถ์ ว่า “หลวง” เวลาท่านหลวงปู่ดีเนาะจะพูดคุยกับใครก็ตาม ท่านก็จะออกปากเรียกคนที่ท่านคุยด้วยว่า “หลวง” และเมื่อท่านจะต้องกลายเป็นผู้รับฟังนั้น ท่านก็จะมีคำอุทานวาจาว่า “ดีเนาะ” อยู่เป็นอาจินต์ ไม่ว่าเรื่องที่ท่านได้รับฟังนั้นจะเป็นดี หรือเรื่องร้ายเพียงใดก็ตาม ท่านหลวงปู่ดีเนาะก็จะเอ่ยปากอุทานว่า ดีเนาะ หรือ สำคัญเนาะ จากคำอุทาน หรือคำพูดที่ท่านหลวงปู่ติดปากนี้เอง ประชาชนและลูกศิษย์ของท่านหลวงปู่ จึงตั้งฉายาหรือสมานาม ท่านหลวงปู่ว่า “หลวงปู่ดีเนาะ” แม้กระทั่งในการได้รับ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ของท่านนั้น ราชทินนามของท่านก็ยังมีคำว่า “สาธุอุทานธรรมวาที” ซึ่งแปลว่า “ดีเนาะ” อยู่ในราชทินนามของท่านด้วย

แบบฝึกการพูดเพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบสมองให้ 100 %

អ្នកដែលចេះភាសាថៃហើយសាកអាន ហ្វឹកគន្លាស់អណ្ដាត Tongue Twister បែបថៃ មើលណា។
Level 1 វគ្គទី 1
ท่องประโยคตามข้อ 1-23 ให้ได้ก่อน
________________________
1.ระนอง ระยอง ยะลา
2.ยักษ์ใหญ่ไล่ยักษ์เล็ก
3.ชามเขียวคว่ำเช้า ชามขาวคว่ำค่ำ
4.เช้าฟาดผัดฝัก เย็นฟาดฝักผัด
5.ทหารบก ถือปืน แบกปูน ไปโบกตึก
6.ยานัดหมอมีแก้ฝีแก้หิด ยานัดหมอชิดแก้หิดแก้ฝี
7.หมู หมึก กุ้ง
8.ปิดประตูโบสถ์ เปิดประตูโบสถ์
9.รถยนต์ล้อยาง รถรางล้อเหล็ก
10.กินมันติดเหงือกกินเผือกติดฟัน กินทั้งมันกินทั้งเผือกติดทั้งเหงือกติดทั้งฟัน
11.หมอนลอยน้ำมาว่ายน้ำไปถอยหมอน
12.สำลีขายหวย สำรวยขายสี สำลีเล่นหวย สำรวยเล่นสี
13.ไปยะลา มาระยอง ฉลวยขึ้นล่องระหว่างระยอง ยะลา
14.ยายกินลำใยน้ำลายยายใหลย้อย
15.ยายมีขายหอยยายมอยขายหมีขนหมีของยายมอยติดอยู่บนหอยของยายมี
15.1ยายมีขายหอยยายมอยขายหมีวันดีคืนดีหอยยายมีไปกัดหมียายมอย
16.กวางขาวเข้ากลางเขา คว้าขวานขว้างกวางขาว
17.อาเฮียหลี อาหลีเฮีย
18.บริษัท กำจัดจำกัด มหาชน
19.หมึกหกเลอะมุ้ง มุ้งเลอะหมึกหมด
20.ตาตี๋ตกต้นตาลตาตี๋ตายใต้ต้นตาล
21.ไม้ขัดแตะแหกแตะ แหกดูรูแตะ
22.เด็กเล่นเหล็กดัด
23.ตาตี๋ตกต้นตาลตอตาลตำตูดตาตี๋ตายใต้ต้นตาล

Level 2 វគ្គទី ២
จับเวลา+บันทึกผล(รอบหลังๆต้องใช้เวลาน้อยลงจึงจะได้ผล)
________________________

ยายกินลำไย น้ำลายยายเลยไหลย้อย ไปให้ยานัดหมอมีแก้ฝีแก้หิด ยานัดหมอชิตแก้หิดแก้ฝี ช่วยแก้ให้ทีโดยการทานยา ชามเขียวคว่ำเช้า ชามขาวคว่ำค่ำ ที่จังหวัดระนอง ระยอง ยะลา ห้ามทานอาหารอะไรเลยนอกจากเช้าฟาดผัดฟัก เย็นฟาดฟักผัด ละเลงด้วยหมู หมึก กุ้ง กุ้ง หมึก หมู หมู กุ้ง หมึกหมึกหกเลอะมุ้ง มุ้งเลอะหมึกหมด อาหารเหล่านี้มีขายที่บ้าน ทหารถือปืนแบกปูนไปโบกตึก สิ่งที่จะต้องทำ คือ น้ำหยดลงหิน แลบลิ้นเลียหิน กินกล้วยเครือนี้ เครือใหญ่ เครือหลวง ข้าวโพดอบเนย โรยเกลือ ยายมีเล่นหอย ยายมอยเล่นหมี ต่อด้วยวันไหนอากาศดีดี วันไหนอากาศดีดี หอยของยายมีต่อยหมียายมอย หมีของยายมอยต่อยหอยยายมี หินยายมีเลี้ยงหอย ยายมอยเลี้ยงหมี ในถ้ำมีผี มีหมี มีหอย หมอนลอยน้ำมา ว่ายน้ำไปถอยหมอน น้ำมันหอยตราหมี น้ำมันหมีตราหอย
ปิดประตูโบสต์เปิดประตูโบสต์ หูหมีอยู่ข้างหูหมู หูหมูอยู่ข้างหูหมี 2หูรวมกันจู๋จี๊ดู๋ดี๊หูหมีหูหมู งัว เงีย งง งวย มัน มูมมาม มอมแมม เหมือน มัมมี่ จะกินมันติดเหงือก กินเผือกติดฟัน กินทั้งมันกินทั้งเผือก ติดทั้งเหงือกติดทั้งฟัน ทหารถือปืนแบกปูนไปโบกตึก ยักษ์ใหญ่วิ่งไล่ยักษ์เล็กถึงระนองระยองยะลา เย็นคว่ำขาวเช้าคว่ำค่ำ แล้วนำไปให้กล้วยตานีปลายหวีเหี่ยว เหลือหวีเดียว หิ้วหวีไป หิ้วหวีมา โคลงเรือ เรือโคลงเพราะโคลงเรือ เลยวิ่งไปเอาสบู่ถูมือ ถูมือด้วยสบู่
ยามเย็นเดินเล่นตากลม เดินตากลมตากลมชมวิว ตากลมตากลมชมจันทร์ ตัวฉันเพลินเดินตากลม เลยต้องตากลมชมจันทร์เดียวดาย รถยนต์ล้อยาง รถรางล้อเหล็ก She sells seashells by seashore. How much wood can a woodchuck chuck, if a woodchuck can chuck wood? Red lorry yellow lorry อ่านว่า [เร้ด รอลลี่ เยลโล่ รอลลี่] Tim the thin twin tin smith อ่านว่า [ทิม เดอะ ทิน ทวิน ทิน สมิธ]
ที่จังหวัด ระนองระยองยะลา ได้มียักษ์ใหญ่ไล่ยักษ์เล็ก เพราะยักษ์เล็กจะกินข้าวกับผัดฟักแต่ฟักผัด เป็นของยักษ์ใหญ่ ระนองระยองยะลา จึงได้แต่หวาดวิตกว่า ยักษ์ใหญ่ไล่ยักษ์เล็กจะเข้าทำร้าย จึงส่งทหารถือปืนแบกปูนไปโบกตึกเพราะปูนโบกตึกที่ทหารถือปืนแบกมานั้น อาเฮียหลีพาอาหลีเฮียไปดูผี และยานัดหมอมีแก้ฝีแก้หิด ยานัดหมอชิดแก้หิดแก้ฝี จึงกินมันติดเหงือก กินเผือกติดฟัน จึงพาบริษัท กำจัด จำกัดมหาชน ให้มากำจัด โดยวิธีที่จะทำคือ ชามเขียวคว่ำเช้าชามขาวคว่ำค่ำ เพื่อเมื่อเช้ากินผัดฟักเย็นกินฟักผัด แล้วจึงบอกให้พ่อบอกกับแม่ว่าให้พี่ซึ่งเป็นน้องของคุณย่าให้หาปู่ที่เป็นทวดของคุณลุงลูกแม่ยายของอาที่อยู่ระนองระยองยะลา ให้มาช่วยด่วน.
________________________

เรื่องของ “หน่อย”

image

1. ชีวิต – พ่อแม่ให้มา
* ถนอม”หน่อย”
2. ทางเดินชีวิต –  เลือกเอง
* ระวัง”หน่อย”
3. คู่ชีวิต – หามาเอง
* ทนเอา”หน่อย”
4. เพื่อน – คบกันต้อง
* จริงใจ “หน่อย”
5. ความสุข –
* ต้องปรุงเอา”หน่อย”
6. ความยุ่งยาก –
* ลืม ๆ “หน่อย”
7. ความสเร็จ –
* พยายาม”หน่อย”
8. ความล้มเหลว –
* ทำใจ “หน่อย”
9. จิตใจของเรา –
* สงบ ๆ “หน่อย”

* ข้อคิดดี ๆ อย่างนี้ ต้องแชร์กัน “หน่อย”

ความรู้เกี่ยวกับการกิน

image

แชร์ต่อนะคะ  !!! เพื่อนที่เป็นเภสัช และที่บ้านทำงานเรื่องยามานาน ได้ความรู้เกี่ยวกับการกินมาเยอะเลยแชร์ให้ฟังนะ

-1.ควรหลีกเลี่ยงน้ำ RO (reverse osmosis) เพราะน้ำสะอาดเกินไป ไม่มีแร่ธาตุอะไรเหลืออยู่เลย เวลาดื่มเข้าไปร่างกายจะมีสภาวะเป็นกรด ร่างกายจะ balance ด้วยการดึงแคลเซียมจากกระดูกออกมา ทำให้กระดูกพรุน

-2. ผู้ชาย ต้องการน้ำ วันละ 4 ลิตร  ผู้หญิง วันละ 3 ลิตร ถ้าไม่มีโรคประจำตัวที่ต้องจำกัดน้ำ เวลาดื่มให้ค่อยๆ จิบ อย่าดื่มโฮกๆ ร่างกายดูดซึมไม่ทันอยู่ดี

-3 หลีกเลี่ยงน้ำแร่จาก อยุธยา ราชบุรี สระบุรี ปนเปื้อนเยอะ
-4.น้ำมันหมูใช้ทอดอันตรายน้อยกว่าน้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันปาล์ม

-5. การกินไข่วันละ 2 ฟอง ไม่ทำให้ไขมันในเลือดสูง อยู่ที่วิธีการปรุงสุกมากกว่า

– 6.ชาเขียวยี่ห้อดีๆ ดักจับสารพิษได้ ยิ่งดีมากเท่าไหร่ยิ่งขับสารพิษออกจากร่างกายได้มาก (ไม่ใช่พวกอัดขวดขายนะ)

– 7.อาหารเสริมจำเป็น เพราะปัจจุบันอาหารที่เรากินมีสารพิษเยอะมาก แต่ต้องเลือกที่เป็นธรรมชาติ

-8. นมวัวเป็นพิษกับคนทุกคน

-9. ผลิตภัณฑBlackmore ทุกตัวคือสารเคมีล้วนๆ แพงอีกด้วย

-10.ยาที่อยู่ในแผงใสเท่านั้นที่แบ่งใส่กล่องได้ แต่ยาในแผงทึบ หรือแผงขุ่น ควรเอาออกจากแผงก่อนกินไม่เกิน 15 นาที เพราะความชื้นและแสงจะทำลายตัวยา

-11.อัลตราคาร์บอน ดีที่สุดสำหรับท้องเสีย แม้จะติดเชื้อก็ตาม กินไปเลย 3-4 เม็ดทุก 3 ชม.

-12. ถ้าเจ็บคอ ไม่จำเป็นต้องติดเชื้อเสมอไป บางทีอักเสบเฉยๆ กินวิตามิน C 1,000 mg.  กับฟ้าทะลายโจร เช้า-เย็น ไม่เกิน 3 วันหาย (กรณีไม่ติดเชื้อ)

Credit: กลุ่มไลน์

ความจริงของสิ่งสามอย่าง

image

สิ่งของสามอย่างที่ผ่านไปแล้วไม่อาจย้อนคืนมา
1. เวลา
2. ชีวิต
3. วัยเยาว์

สิ่งของสามอย่างที่ส่งผลทำลายชีวิตคนเรา
1. โทสะ
2. โอหัง
3. ใจแคบ

สิ่งของสามอย่างที่ไม่ควรทิ้งไป
1. ความเดียงสา
2. อุดมการณ์
3. ความหวัง

สิ่งของสามอย่างที่ประมาณค่าไม่ได้
1. ความรัก
2. ความดี
3. มิตรภาพ

สิ่งของสามอย่างที่ไม่นิรันดร์
1. ความสำเร็จ
2. ทรัพย์สมบัติ
3. ความฝัน

สิ่งของสามอย่างที่ส่งเสริมเราให้สำเร็จ
1. เวลา
2. สถานที่
3. ผู้คน

สิ่งของสามอย่างที่ต้องถนอมรักษา
1. พ่อแม่
2. บุตรธิดา
3. คนที่อยู่ตรงหน้า

สิ่งของสามอย่างที่ใช้ในการทำงาน
1. เป้าหมาย
2. วิธีการ
3. แก้ไข

สิ่งของสามอย่างที่ใช้ในการคบมิตร
1. สัจจะจริงใจ
2. สละอุทิศ
3. น้ำใจไม่เห็นแก่ตัว

สิ่งของสามอย่างที่ต้องรักษาไว้ให้ดี
1. โอกาส
2. ชีวิต
3. คู่ครอง

ข้อมูลประเทศกัมพูชา ព្រះរាជាណាចក្រកម្ពុជា

ព្រះរាជាណាចក្រកម្ពុជា
ราชอาณาจักรกัมพูชา

Kingdom of Cambodia

แผ่นที่

khmer_map_final

ธงชาติ

Cambodia

ตราแผ่นดิน

376783_485067818233589_1167057667_n[1]

ข้อมูลทั่วไป
ที่ตั้ง ตั้งอยู่กลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทิศเหนือติดกับประเทศไทย (จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์) และลาว (แขวง อัตตะปือและจำปาสัก) ทิศตะวันออกติดเวียดนาม (จังหวัดกอนทูม เปลกู ซาลาย ดั๊กลั๊ก ส่องแบ๋ เตยนิน ลองอาน ด่งท๊าบ อันซาง และเกียงซาง) ทิศตะวันตกติดประเทศไทย (จังหวัดสระแก้ว จันทบุรี และตราด) และทิศใต้ติดอ่าวไทย
พื้นที่ 181,035 ตารางกิโลเมตร หรือมีขนาดประมาณ 1 ใน 3 ของประเทศไทย เส้นเขตแดนโดยรอบประเทศยาวประมาณ 2,000 กิโลเมตร โดยมีเส้นเขตแดนติดต่อกับประเทศไทยยาว 798 กิโลเมตร
เมืองหลวง ក្រុងភ្នំពេញ กรุงพนมเปญ
ประชากร 14.14 ล้านคน (2553)
ภาษาราชการ ភាសាខ្មែរ ภาษาเขมร
ศาสนา พุทธนิกายเถรวาท
รหัสโทรศัพท์ +855

អានត-อ่านต่อ

TOEIC แบบเก่า และ แบบใหม่ มีอะไรเหมือนกันบ้าง?

10712927_786740478036288_6206411942228242309_n[1]สิ่งที่เหมือนกันระหว่าง Classic TOEIC และ Redesigned TOEIC
เนื้อหาของการวัดผล
ระยะเวลาที่ใช้สอบ คือ 2 ชั่วโมง
– การฟัง 45 นาที
– การอ่าน 75 นาที
จำนวนของคำถาม 200 ข้อ
– การฟัง : 100
– การอ่าน : 100
ใช้กระดาษคำถามและใช้ดินสอในการสอบ
ระดับความยาก
ระดับคะแนนและการประเมินผล

Credit : TOEFL IELTS TOEIC อุบลราชธานี

เมืองปอยเปตในปัจจุบันนี้

1174555_598433633531793_909287508_nเมืองปอยเปตเป็นเมืองที่มีความเจริญอย่างรวดเร็ว มีประชากรกว่า 5 แสนคน ใช้เวลาพัฒนาเพียง 15 ปีเท่่านั้น หลังจากตกเป็นเมืองร้างอยู่นานกว่า 20 ปีในสมัยสงครามเขมรสี่ฝ่าย

สาระดีๆ สำหรับคนที่กินแล้วไม่ค่อยขับถ่าย

image

สาระดีๆ สำหรับคนที่กินแล้วไม่ค่อยขับถ่าย อนาคต..
มะเร็งลำไส้..! “ตะลึง”
….คุณหมอพรทิพย์เขียนไว้ว่า เวลาผ่าศพจะเจออุจจาระ
ตกค้างในลำไส้อย่างน่าตกใจ บางศพมีน้ำหนักอุจจาระถึง
10 โล… แล้วเป็นเพราะอะไร???

เค๊าว่า “อุจจาระตกค้าง” เนื่องมาจาก
1. เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด
2. กินอาหารที่มีกากใยน้อย
3. มีพยาธิ หรือ เชื้อรา ทำให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติ
4. ระบบดูดซึมเสีย เพราะน้ำมันพืชเคลือบทำให้น้ำที่
ดื่มเข้าไป ไม่หมุนเวียน
5. ไม่ถ่ายอุจจาระเวลา 05.00-07.00 เช้า

หากถ่ายอุจจาระ หลังเวลา 7 โมงเช้า
ลำไส้จะบีบให้อุจจาระขึ้นไปข้างบนเวลาถ่าย
จะถ่ายไม่หมด แต่ไม่รู้ตัว ที่ปลายลำไส้จะมีประสาท
ปลายทวาร เมื่อมีอุจจาระที่เหลวพอมาจ่อปลายทวาร ประสาทจะส่งสัญญานบอกสมองให้ปวดอึหลัง 7 โมง
เช้า ลำไส้จะทำงานไม่เป็นปกติ บีบอุจจาระให้ขาด
ช่วงเวลาถ่ายจนรู้สึกว่าหมดแล้ว เราก็หยุดแต่ความจริง อุจจาระท้ายขบวนยังไม่ออก แต่มันถูกดันกลับขึ้นไป ไม่มาจ่อปลายทวารทำให้เราไม่ปวดอึ เราก็นึกว่าหมด
แล้ว อุจจาระที่ค้างไว้นี้ก็จะเกาะที่ผนังลำไส้ พอมี
ีอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่ามันก็แซงหน้าไปก่อน แต่มันไม่
สามารถดันพวกที่ค้างแข็งให้ออกไปได้ พวกที่ค้างแข็ง
ไว้ ก็เกาะติดแน่น

ฉะนั้น ทุกวันที่ถ่าย มันก็ถ่ายเฉพาะอึที่เหลวพอ
ส่วนที่เหลือ ก็เกาะไปเรื่อยๆ อุจจาระตกค้างจะไปทับ
เส้นเลือดต่างๆ ในกระเพาะ และกดทับกระดูกหลัง ทำให้เกิดอาการมากมายเช่นท้องอืด ปวดหลัง ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อที่ไหล่และสะบัก เวียนหัวอ่อนเพลีย
นอนไม่หลับ เป็นฝ้า ไมเกรน และอื่น ๆ

นั่นแหละเป็นที่มา..ที่คุณหมอพรทิพย์เขียนไว้ว่า
เวลาผ่าศพจะเจออุจจาระตกค้างในลำไส้อย่างน่าตกใจ

การนำอุจจาระตกค้างออกจึงจำเป็นต้องหาว่า
เป็นที่สาเหตุใดใน 5 สาเหตุข้างต้น
แต่ถ้าสามารถได้รับการตรวจด้วยลูกดิ่ง
เพนดูลั่มก็จะรู้ได้

สำหรับท่านที่ไม่สะดวกในการเดินทางมา
ให้ตรวจ ก็แนะนำให้ถ่ายพยาธิเสียก่อน แล้ว ลองสูตร
อาหารดังต่อไปนี้

1. เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1 แก้ว
ทิ้งไว้ 30 นาที ดื่มก่อนนอน เม็ดแมงลักจะลากอุจจาระ
ตกค้างออกมา ทานเป็นปกติได้ทุกวันหรือ 3-4วัน
ต่อสัปดาห์ แล้วแต่จะชอบ

2. นมสด 2 กล่อง (รวมจะได้ประมาณ
500 มิลลิลิตร) และ กล้วยน้ำว้า 2 ลูก ทานก่อน 6 โมง
เช้า ช่วงแรกควรทานติดกัน 3 วัน หากถ่ายก่อน 7 โมง
เช้าเป็นปกติได้แล้ว ก็ลดมาเป็นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือ
ตามที่เห็นสมควร

3. ทานผักบุ้ง 2 กำมือ ผัด หรือ ต้ม ทำอาหารตามใจชอบผักบุ้งจะลากอุจจาระตกค้างออก
มา /เรื่องดีมีประโยชน์ต้องแบ่งปัน….
รักใครช่วยส่งต่อให้เค้าสัก 9 คน จะได้บุญมากๆ จ้า

ชีวิตเราเหมือนการการเดินทางโดยรถไฟ…

image

ชีวิตเหมือนกับการเดินทางโดยสารรถไฟ… มีสถานีต่างๆ… มีการเปลี่ยนเส้นทาง…  มีกระทั่งอุบัติเหตุ……

เราขึ้นรถไฟขบวนนี้ตอนเราถือกำเนิด…. พ่อแม่ คือคนที่ตีตั๋วให้เรา…

เราเชื่อว่าท่านจะเดินทางด้วยรถขบวนนี้ กับเราตลอดไป….

แต่แล้ว..ที่สถานีใด สถานีหนึ่ง
ท่านทั้งสองก็ต้องลงรถจากไป… ปล่อยเราไว้เพียงลำพังกับการเดินทางนี้….

วันเวลาผ่านไป… จะมีผู้โดยสารอื่นๆขึ้นรถ มาเรื่อยๆ… หลายคนจะเป็นคนที่เรารัก และผูกพัน.. เป็นพี่เป็นน้อง.. เป็นเพื่อน..  เป็นลูกเป็นหลาน หรือกระทั่งเป็นที่รัก แห่งชีวิตของเรา….

หลายคนลงรถไปกลางทาง… ทิ้งไว้แค่ความทรงจำความอ้างว้างและคิดถึงอันถาวรในชีวิตเรา..

หลายคนจากไป… อย่างที่เราไม่ทันได้ สังเกตด้วยซ้ำว่า…    เขาลุกจากที่นั่ง และลงรถไฟไปแล้ว !

การเดินทางโดยรถไฟชีวิตขบวนนี้ จึงเต็มไป ด้วยความรื่นรมย์… ความโศกเศร้า… ความมหัศจรรย์…ความสมหวัง… คำสวัสดี…คำอำลา… และคำอวยพรให้โชคดี

การเดินทางที่ดีที่สุด คือ การได้ช่วยเหลือ… ได้รัก…ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน ผู้โดยสารทุกคน …จงแน่ใจว่าเราได้ให้ สิ่งที่ดีที่สุด  เพื่อให้การเดินทางของพวกเขา มีความราบรื่นและสะดวกสบาย

ความน่าพิศวงของการเดินทางอันวิเศษยอดเยี่ยมนี้คือ… ตัวเราเองก็ไม่รู้ล่วงหน้า ว่าเราจะต้องลงจากรถไฟที่สถานีไหน…..

ฉะนั้น…เราต้องมีชีวิตให้แจ๋วที่สุด…ปรับปรุงตัวเอง…รู้จักลืม…รู้จักอภัย…ให้สิ่งดีที่สุด ที่เรามีแก่คนรอบข้าง

สำคัญเหลือเกิน ที่เราควรทำอย่างนี้…
เพราะเมื่อถึงเวลาที่เราต้องลุกจากที่นั่ง..เพื่อลงจากรถไฟไป เราจะได้ทิ้งความทรงจำ ที่สวยงามไว้แก่ผู้คน ที่ต้องเดินทาง โดยสาร รถไฟขบวนชีวิตนี้ต่อไป

ขอบคุณมากๆ ที่มาเป็นผู้โดยสารคนหนึ่ง ในขบวนรถไฟชีวิต ของกันและกัน

ขอให้ผู้ร่วมทางทุกท่านพบพานแต่ความรื่นรมย์ในการเดินทางบนขบวนรถไฟสายชีวิต… ที่ครั้งหนึ่ง ช่วงเวลาหนึ่ง ณ สถานีใด สถานีหนึ่ง เรามีโอกาสได้เดินทางร่วมกัน

ช่วย Share ต่อให้คนที่คุณรักนะ

5 วิธีง่ายๆ ให้ SMARTPHONE Speed เร็วดั่งใจนึก

เชื่อว่ามีเพื่อน ๆ ที่ใช้สมาร์ทโฟนไปสักระยะหนึ่งแล้ว รู้สึกว่าทำไมสมาร์ทโฟนของเราทำงานช้าจัง ไม่เร็วเหมือนแต่ก่อนเลย บางคนก็อยากจะเอาไปเข้าศูนย์บริการ แต่เดี๋ยวก่อนครับ ปัญหานี้เราอาจสามารถแก้ไขเองได้ ซึ่งผมอยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองทำตามคำแนะนำตามบทความนี้ก่อน เผื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาเครื่องอึดได้ โดยไม่ต้องเข้าศูนย์ครับ

ลบ App ที่ไม่ได้ใช้งาน

บางครั้งเราก็โหลด App มาเยอะแยะเพื่อมาลองเล่น โดยเฉพาะเหล่า App ฟรีทั้งหลาย แต่หารู้ไม่ว่ายิ่งมี App เยอะ ยิ่งทำให้เครื่องช้าลง ดังนั้น เราควรลบ App ที่เราไม่ได้ใช้งานทิ้งไป และเลือกเฉพาะ App ที่เราใช้งานจริง ๆ เท่านั้น

ใช้ Widget เท่าที่จำเป็น អានត-อ่านต่อ

สระไทย-ស្រៈថៃ រៀនភាសាថៃ

สระไทย-ស្រៈថៃ រៀនភាសាថៃ

สระไทย-ស្រៈថៃ រៀនភាសាថៃ

ភាសាថៃ ៖ สระไทย
អានថា ៖ ស្រៈថៃ តែភាគច្រើនគេអានថា សៈរៈថៃ
ប្រែថា ៖ ฺស្រៈថៃ

ឧទាហរណ៍ ៖ สระไทยมีทั้งหมด๓๒ตัว
អានថា ៖ ស្រៈថៃមីថាំងមត់សាមស៊ិបសងតួ
ប្រែថា ៖ ស្រៈថៃទាំអអស់មាន32តួ។

พยัญชนะไทย-ព្យញ្ជនៈថៃ រៀន​ភាសាថៃ

พยัญชนะไทย-ព្យញ្ជនៈថៃ រៀន​ភាសាថៃ

พยัญชนะไทย-ព្យញ្ជនៈថៃ រៀន​ភាសាថៃ

ភាសាថៃ ៖ พยัญชนะไทย
អានថា ៖ ផ្យាន់ឆៈណៈថៃ ឬ ផៈយ៉ាន់ឆៈណៈថៃ
ប្រែថា ៖ ฺព្យញ្ជនៈថៃ

ឧទាហរណ៍ ៖ มา เรามาฝึกอ่านพยัญชนะไทยด้วยกัน
អានថា ៖ ម៉ា រ៉ៅម៉ាហ្វឹកអានផ្យាន់ឆៈណៈថៃដួយកាន់
ប្រែថា ៖ ម៉ោះ យើងមកហ្វឹកអានព្យញ្ជនៈថៃជាមួយគ្នា។

พยัญชนะ

คนที่ประสบความสำเร็จมาก ทำ 5 สิ่งนี้ก่อน 8 โมงเช้า

วันนี้มาคุยกันถึงเคล็ดลับบางประการของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตกันดีกว่า ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวัน เรื่องนี้ผมคัดมาจากบทความในเว็บไซต์ของฟอร์บส์ นิตยสารชั้นนำเกี่ยวกับธุรกิจและการเงินของสหรัฐอเมริกา บทความนี้ชื่อ 5 Things Super Successful People Do Befor 8 AM หรือ “5 สิ่งที่คนประสบความสำเร็จอย่างสูงทำก่อน 8 โมงเช้า” มีคนคลิกเข้าไปดูเกือบ 3 ล้านครั้ง

ในบทความอ้างอิงถึงบุคคล 3 คนที่ตื่นแต่เช้ามืดทุกวัน แฟรงค์ ลอยด์ ไรต์ สถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษ ผู้ออกแบบพิพิธภัณฑ์โซโลมอน อาร์. กุเกนไฮม์ ในนครนิวยอร์ก ตื่นนอนตอนตี 4 โรเบิร์ต อีเก้ ซีอีโอของวอลท์ ดิสนีย์ ตื่นตี 4 ครึ่ง และ มาร์กาเรต แทตเชอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงแห่งสหราชอาณาจักร ลุกขึ้นจากที่นอนตอนตี 5 ทั้ง 3 คนนี้ตื่นแต่เช้าเพื่อสร้างพลังให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน

แม้มีคนโต้แย้งว่าการใช้เวลาตอนกลางคืนทำงานก็น่าจะได้ผลไม่ต่างกับการทำงานตอนเช้า แต่แท้จริงแล้วการทำงานตอนเช้าให้พลังในเชิงรุกมากกว่า และจากผลการสำรวจของฟอร์บส์พบว่าก่อน 8 โมงเช้าคนที่ประสบความสำเร็จมักจะลงมือทำ 5 สิ่งนี้

1.ออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นโยคะ ฟิตเนส หรือแม้กระทั่งวิดพื้น ยืดเส้นยืดสายแค่เพียง 15 นาที ก็สามารถเพิ่มพลังและทำให้สดชื่น ไม่เช่นนั้นหากรอจนหลังเลิกงาน คุณอาจจะเหนื่อยเพลียอ่อนล้าจนไม่อยากไปออกกำลังกายแล้ว

2.วางแผนประจำวัน จะทำให้ทำงานได้เต็มศักยภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายที่พลาดไม่ได้ในวันนั้น และอย่าลืมจัดเวลาสำหรับพักเบรก 10 นาทีไว้ด้วยเพื่อผ่อนคลายความเครียดระหว่างวัน ทั้งนี้ตอนเช้าตรู่ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการวางแผน เพราะเป็นเวลาที่เงียบสงบ มีสมาธิ สมองโปร่ง

3.กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ไม่เพียงเสริมสร้างพลังงานแก่ร่างกาย แต่ยังช่วยให้มีสมาธิด้วย เพราะการเริ่มต้นวันทำงานในสภาพท้องว่างย่อมทำให้การทำงานเชื่องช้าลง นอกจากนี้การกินมื้อเช้าพร้อมหน้าพร้อมตายังช่วยให้สายใยในครอบครัวแน่นแฟ้นอบอุ่นขึ้น

4.การมโนภาพความสำเร็จในหัวสมอง เมื่อเริ่มต้นวันด้วยทัศนคติในแง่บวก จะทำให้เกิดความกระตือรือร้นและมุมมองเกี่ยวกับงานในเชิงบวก เสียเวลาแค่เล็กน้อยในการสร้างสมาธิจินตนาการภาพความสำเร็จ คุณจะเกิดแรงบันดาลใจอย่างไม่น่าเชื่อ

5.เริ่มต้นวันด้วยการทำสิ่งที่ยากที่สุดและสิ่งที่ไม่อยากทำที่สุดก่อน เพราะถ้าปล่อยงานยากงานที่ไม่ถนัดเอาไว้ทำในช่วงบ่ายหรือเย็น คุณอาจจะเหนื่อยไม่มีเรี่ยวแรงและเบื่อหน่ายที่ทำมัน ฉะนั้นจงทำงานประจำวันให้เสร็จ เมื่อไหร่ที่ผัดวันประกันพรุ่ง งานจะพอกสุมเป็นกองพะเนิน

ผมเชื่อว่าทุกคนเคยได้ยินเคล็ดลับเหล่านี้มาบ้างแล้ว แม้ไม่ครบทั้ง 5 สิ่ง แต่ก็คงได้รับรู้มาหลายข้อ ประเด็นอยู่ที่คุณเชื่อถือคำแนะนำเหล่านี้หรือไม่ และพร้อมหรือยังที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ขอย้ำว่ามันยากแค่ตอนเริ่มต้นเท่านั้น

เสียเวลาพิสูจน์แค่เดือนเดียวก็พอจะเห็นผลแล้ว.
ที่มา: Thairath