ครูจะสอนใคร?

image

คุณครูขา…อย่าด่าว่าโง่เง่า
ดึงเทือกเถาเหล่ากอมาข้องเกี่ยว
หนูเกิดมาโง่อยู่หนูคนเดียว
ไม่มีญาติมาเอี่ยวเกี่ยวกับใคร
.
หนูยังเยาว์หนักหนาปัญญาทู่
ไม่เหมือนกับคุณครูหรือผู้ใหญ่
หนูจึงมาโรงเรียนด้วยจำใจ
หวังจะได้เรียนรู้สู้ฝ่าฟัน
.
หนูอยากรู้ปราดเปรียวเฉลียวฉลาด
อยากเก่งกล้าสามารถดังวาดฝัน
หนูจึงมาหาครูผู้สำคัญ
หวังครูนั้นเป็นที่หนึ่งได้พึ่งพา
.
หนูอยากเป็นคนเก่งให้ใครทัก
เป็นเด็กดีที่ครูรักเสียหนักหนา
หนูไม่อยากโง่หรอกบอกเจตนา
แต่อับจนปัญญาว่าอย่างไร
.
คุณครูขา…อย่าด่าว่าอย่ารำคาญ
หนูเองก็ทรมานเป็นไหนไหน
ครูก็ดุเพื่อนก็ล้อจนท้อใจ
พ่อแม่ใส่สับโขกกะโหลกบาน
.
คุณครูขาอดทนหน่อยเถิดหนา
คิดเมตตาหนูสักคนพอพ้นผ่าน
ถ้าหากหนูฉลาดเฉลียวจนเชี่ยวชาญ
หนูก็ไม่ซมซานมาหาครู
.
ถ้าทุกคนเลิศแล้วเป็นแก้วมณี
ไม่ต้องมีโรงเรียนให้เพียรสู้
ไม่ต้องมีคนสอนป้อนความรู้
อาชีพหรูครูก็ไร้คนไยดี
.
คุณครูขา…อย่าด่าว่าโง่เง่า
ถึงเทือกเถาเหล่ากอให้บัดสี
ถ้าเด็กโง่อย่างหนูนั้นไม่มี
สุดท้ายนี้-แล้วครูจะสอนใคร!

นิทานเรื่อง เรือสำราญจม อย่าตัดสินคนอื่นแบบผิวเผิน

image

เรือสำราญลำหนึ่งเจอมรสุมทางทะเล
บนเรือมีสามีภรรยาคู่หนึ่ง กระเสือกกระสนมาถึงเรือชูชีพ,
บนเรือชูชีพมีเพียงที่ว่างที่เดียว,

ทันใดนั้น,
สามีผลักภรรยาไปข้างหลัง,
ตัวเองโดดขึ้นไปบนเรือชูชีพ
ภรรยายืนอยู่บนเรือที่ค่อยๆจมลง,
ตะโกนไปที่สามีประโยคหนึ่งว่า….

เล่าถึงตอนนี้,
อาจารย์ถามนักเรียน:
พวกเธอลองเดา ว่าผู้หญิงจะตะโกนว่าอะไร?

พวกนักเรียนต่างโกรธเกรี้ยว,
ต่างพูดว่า:
ฉันเกลียดคุณ ฉันมันตาบอด

ณ บัดดล อาจารย์สังเกตุเห็นนักเรียนคนหนึ่งไม่พูดไม่จาตลอดเวลา,
ก็เลยถามเธอ
นักเรียนคนนี้พูดว่า
อาจารย์  หนูคิดว่าผู้หญิงคงจะตะโกนว่า—ดูแลลูกเราให้ดีดีนะคะ

อาจารย์ตกใจ ถามว่า
เธอเคยได้ยินนิทานเรื่องนี้แล้ว ใช่ไหม?
นักเรียนสั่นหัว
“ไม่เคย แต่ตอนแม่หนูป่วยหนักก่อนตาย ได้พูดแบบนี้กับพ่อหนูค่ะ”

อาจารย์ซึ้งใจและพูดว่า
คำตอบถูกต้อง
เรือจมลงไปแล้ว ผู้ชายกลับไปถึงบ้าน,
เลี้ยงดูบุตรสาวตามลำพังจนโต

หลายปีผ่านไป  ผู้ชายป่วยตาย,
ลูกสาวจัดข้าวของของพ่อ  พบไดอารี่ของพ่อ

ที่แท้  พ่อกับแม่ไปเที่ยวเรือสำราญ
แม่ก็ป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย
เงื่อนเวลาแห่งความเป็นความตาย,
พ่อฉวยโอกาสเดียวที่จะรอดชีวิต

เขาเขียนในไดอารี่ว่า
ฉันอยากจะจมลงใต้ทะเลพร้อมเธอ
แต่ฉันทำไม่ได้ เพื่อลูกสาว ฉันจำต้องให้เธอ
นอนหลับยาวอยู่ใต้ทะเลลึก

นิทานเล่าจบ ห้องเรียนเงียบกริบ,

อาจารย์รู้ว่า
นักเรียนต่างก็เข้าใจนิทานเรื่องนี้กันหมดแล้ว

ความดีและความชั่วในโลกนี้ บางครั้งดูสับสนไม่ชัดเจน แยกแยะไม่ออก,
เพราะฉะนั้น อย่าตัดสินคนอื่นแบบผิวเผิน

คนที่ชอบแย่งจ่ายบิลก่อน  ไม่ใช่เพราะมีเงินมากไป
แต่ให้ความสำคัญของมิตรภาพมากกว่าเงินทอง

เวลาทำงาน คนที่ยินดีทำมากกว่าคนอื่น ไม่ใช่เขาโง่ แต่เขารู้หน้าที่

หลังจากทะเลาะกัน คนที่ขอโทษก่อน  ไม่ใช่เขาผิด,
แต่เขารู้จักทนุถนอมคนข้างกาย

คนที่ยอมช่วยเหลือคุณ  ไม่ใช่ติดค้างอะไรคุณ
แต่เขาเห็นคุณเป็นเพื่อนแท้

คนที่ส่งข่าวสารให้คุณบ่อยๆ  ไม่ใช่ว่างจนไม่มีอะไรทำ,
แต่เพราะว่าในใจเขามีคุณ..

ตะเกียงส่องใจ

image

ชายจีนคนหนึ่งแบกถังน้ำสองใบไว้บนบ่า….
เพื่อไปตักน้ำที่ริมลำธาร ถังน้ำใบหนึ่ง
มีรอยแตก ในขณะที่อีกใบหนึ่งไร้รอยตำหนิ
และสามารถบรรจุน้ำกลับมาได้เต็มถัง
แต่ด้วยระยะทางอันยาวไกล จากลำธารกลับสู่บ้าน
จึงทำให้น้ำที่อยู่ในถังใบที่มีรอยแตกเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว
………
หลังจากเวลา 2 ปี ที่ถังน้ำที่มีรอยแตก
มองว่าเป็นความล้มเหลวอันขมขื่น
วันหนึ่งที่ข้างลำธาร มันได้พูดกับคนตักน้ำว่า
‘ข้ารู้สึกอับอายตัวเองเป็นเพราะรอยแตก
ที่ด้านข้างของตัวข้า ทำให้น้ำที่อยู่ข้างในไหลออกมา
ตลอดเส้นทางที่กลับไปยังบ้านของท่าน’
คนตักน้ำตอบว่า
‘เจ้าเคยสังเกตหรือไม่ว่ามีดอกไม้เบ่งบาน
อยู่ตลอดเส้นทางในด้านของเจ้า
แต่กลับไม่มีดอกไม้อยู่เลยในอีกด้านหนึ่ง
เพราะข้ารู้ว่าเจ้ามีรอยแตกอยู่
ข้าจึงได้หว่านเมล็ดพันธุ์ดอกไม้
ลงข้างทางเดินด้านของเจ้า
และทุกวันที่เราเดินกลับ …
เจ้าก็เป็นผู้รดน้ำให้กับเมล็ดพันธุ์เหล่านั้น
………
เป็นเวลา 2 ปี ที่ข้าสามารถที่จะเก็บดอกไม้
สวยๆ เหล่านั้นกลับมาแต่งโต๊ะกินข้าว
ถ้าหากปราศจากเจ้าที่เป็นเจ้าแบบนี้แล้ว …
เราก็คงไม่อาจได้รับความสวยงามแบบนี้ได้
………
คนเราแต่ละคนย่อมมีข้อบกพร่อง
ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่รอยตำหนิ
และข้อบกพร่องที่เราแต่ละคนมีนั้น
อาจช่วยทำให้การอยู่ร่วมกันของเราน่าสนใจ
และกลายเป็นบำเหน็จรางวัลของชีวิตได้
………
สิ่งที่ต้องทำก็เพียงแค่ยอมรับคนแต่ละคน
ในแบบที่เขาเป็น และมองหาสิ่งที่ดีที่สุด
ในตัวของพวกเขาเหล่านั้นเท่านั้นเอง
มองโลกหลายๆ ด้าน เพราะคนเราไม่ได้มี
แต่ข้อเสียเท่านั้น

เศรษฐีกับช่างตัดผม

image

เศรษฐีคนหนึ่ง แม้ฐานะร่ำรวย แต่กลับตระหนี่ถี่เหนียว
วันหนึ่งเขาไปตัดผม ช่างตัดผมจำเศรษฐีคนนี้ได้ จึงเอ่ยถามขึ้นว่า
“ผมจำคุณได้ ได้ยินมาว่าคุณร่ำรวยมาก”
เศรษฐีพอได้ยินก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่ง
“แน่นอน ผมรวยพอที่จะซื้อเครื่องบินส่วนตัวได้” เศรษฐีได้ทีคุยโอ้อวดทันที
“ผมว่า ทรัพย์สมบัติที่คุณมี ก็คงจะมากกว่าผมสักแสนเจ็ดเท่านั้นแหละ!” ช่างตัดผมเอ่ยขึ้น
เศรษฐีเมื่อได้ยินก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง พูดออกมาด้วยความไม่พอใจว่า
“นี่นายพูดอะไร? เงินที่อยู่ในกระเป๋าของฉันตอนนี้ ก็มากว่าทรัพย์สมบัติของนายที่มีอยู่ในบ้านนี้ทั้งหมดเสียอีก”
ช่างตัดผมเมื่อได้ยิน ก็รีบตอบกลับไปว่า
“คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ฟังผมอธิบายก่อน คุณรู้ไหมว่าราคาโลงจำปาที่แพงที่สุดราคาเท่าไหร่?”
“สองแสน” เศรษฐีตอบออกไปแบบเสียไม่ได้
“แล้วถูกที่สุดราคาเท่าไหร่?” ช่างตัดผมถามต่อ
“สามหมื่น”
“เพราะฉะนั้น เวลาที่คุณลาลับไปจากโลกนี้ ลูกหลานของคุณก็คงซื้อโลงที่ราคาแพงที่สุดให้คุณ ส่วนผมเป็นคนจน ลูกๆก็คงจะซื้อโลงที่ถูกที่สุดให้ผม ดังนั้น ทรัพย์สมบัติสุดท้ายที่คุณมี ก็มากกว่าผมแค่แสนเจ็ด นอกเหนือจากนั้น ไม่มีอะไรที่เป็นของคุณอีกต่อไป ”
เมื่อเศรษฐีได้ฟังช่างตัดผมอธิบายก็แจ้งใจในทันที จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็เลิกนิสัยตระหนี่ถี่เหนียว หันมาทำบุญให้ทานอยู่เป็นนิจสิน สมกับคำว่า“เศรษฐี”ที่แปลว่าผู้ประเสริฐ ซึ่งไม่ได้หมายถึงมีทรัพย์มากเพียงอย่างเดียว
…………………..
ช่างตัดผม แม้จะมีฐานะยากจน แต่เป็นผู้มีทรัพย์แห่งปัญญามาก
เพราะการจุดปัญญาให้แก่ผู้อื่นมีกุศลมาก
คนที่หัวใจไร้ธรรม ไร้สติปัญญาต่างหากเล่า ที่เป็นผู้ยากไร้อย่างแท้จริง

บทความดีอีกมากที่ ( นุสนธิ์บุคส์ )

ความรู้ใหม่..เข้าใจตรงกันโภชนาการบำบัดโรค

ขอให้อ่านให้จบติ๊ดนึง…

1.ดื่มน้ำร้อนปลอดทุกโรค

น้ำร้อน

2.กินไข่ลวกวันละสองฟอง ใส่พริกไทยดำตำเองหนึ่งช้อนชาจะห่างไกลจากอัลไซเมอร์ไม่ต้องไปหาหมอ

3.หยุดกินน้ำตาลทราย เพราะเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคต่างๆ

4.กินทุเรียน ช่วยรักษาโรคมะเร็ง และแก่ช้า

5.กินแตงโม ช่วยแก้เลือดอุดตัน ลิ่มเลือด และช่วยบำรุงเลือด ถ้าเป็นผู้ชาย จะทำให้สมถรรพภาพทางเพศแข็งแรง

6.สตรีกินสับปะรด ช่วยกระช้บช่องคลอด

7.กินกล้วยไข่ ช่วยบำรุง ตับ ไต ผิว ตา กระดูก (เหมาะสำหรับคนทำงานหน้าคอมส์) ทำให้หน้าอกโตด้วย

8.กล้วยน้ำว้านำไปเผาทั้งเปลือก ช่วยรักษา ปวดหัว ตัวร้อน และเบาหวาน

9.กล้วยหอม เด็กถ้ากินช่วยให้ความจำดี และสตรีวัยทองช่วยปรับฮอร์โมนให้กินกับน้ำมะพร้าวอ่อน จะดีมาก ช่วยรักษาโรคฮันจิสัน (สตรีถ้ากินมากจะเซ็กส์จัดนะ)กินกล้วยเพื่อสุขภาพ

10.น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ใช้กินและนวดหน้า นวดร่างกายทำให้ดูอ่อนกว่าวัย รักษา ฝ้า กระ ดีมาก เพราะน้ำมันมะพร้าวเป็นสารตั้งต้นของเครื่องสำอางค์ทุกชนิด

11.กินน้ำมันหมูดีที่สุดเพราะซ่อม
สร้างเนื้อเยื่อได้ ที่เหลือขับทิ้งได้
ไม่เหมือนน้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธี
มีสารเคมีตกค้างมากมายมีอันตราย ต่อสุขภาพระยะยาวแน่นอน

12.กินหอมแดง,หอมใหญ่,กระเทียม และตามด้วยมะนาวฝานบางๆทั้งเปลือก2-3ชิ้นเพื่อดับกลิ่นเพื่อลดไขมันตัวร้ายในหลอดเลือดดีกว่ากินยาลดไขมันซึ่งมีผลข้างเคียงที่อันตรายมาก

ถั่งเช่า ช่วยเพิ่มสมรรถภาพ จริงหรือ?

ถั่งเช่า ถั่งเฉ้า เห็ดถั่งเช่า คืออะไร

ณ วันนี้คงไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยิน คำว่า “ถั่งเช่า” หรือ “ถั่งเฉ้า” สมุนไพรที่อ้างกันว่าช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ จริง ๆ แล้ว “ถั่งเช่า” คืออะไร มีสรรพคุณตามคำกล่าวอ้างเหล่านั้นหรือไม่? บทความนี้มีคำตอบ

เห็ดถั่วเฉ้า

“ถั่งเช่า” หรือที่รู้จักกันว่า “ไวอากร้าแห่งเทือกเขาหิมาลัย” หรือ ตังถั่งเช่า หรือ ตังถั่งแห่เช่า แปลเป็นไทยว่า “ฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า” หรือที่เรียกกันว่า “หญ้าหนอน” ทั้งนี้เพราะว่า ยาสมุนไพรชนิดนี้ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นตัวหนอน คือ ตัวหนอนของผีเสื้อ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hepialus armoricanus Oberthiir และบนตัวหนอนมีเห็ดชนิดหนึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cordyceps sinensis (Berk.) Saec. หนอนชนิดนี้ในฤดูหนาวจะฝังตัวจำศีลอยู่ใต้ดินภูเขาหิมะ เมื่อน้ำแข็งเริ่มละลาย สปอร์เห็ดจะพัดไปกับน้ำแข็งที่ละลาย แล้วไปตกที่พื้นดิน จากนั้นตัวหนอนเหล่านี้ก็จะกินสปอร์ และเมื่อฤดูร้อนสปอร์ก็เริ่มเจริญเติบโตเป็นเส้นใยโดยอาศัยการดูดสารอาหารและแร่ธาตุจากตัวหนอนนั้น เส้นใยงอกออกจากท้องของตัวหนอน และงอกออกจากปากของมัน เห็ดเหล่านี้ต้องการแสงอาทิตย์มันจึงงอกขึ้นสู่พื้นดิน รูปลักษณะภายนอกคล้ายไม้กระบอก ส่วนตัวหนอนเองก็จะค่อย ๆ ตายไป อยู่ในลักษณะของหนอนตายซาก ฉะนั้น “ถั่งเช่า” ที่ใช้ทำเป็นยาก็คือ ตัวหนอนและเห็ดที่แห้งแล้วนั่นเองเห็ดถั่วเฉ้า 4

ถั่งเช่าพบได้ในแถบทุ่งหญ้าบนภูเขาประเทศจีน (ธิเบต) เนปาล และภูฏาน ระดับความสูง 10,000-12,000 ฟุต จากระดับน้ำทะเล ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยง ซึ่งส่วนใหญ่เพาะในบริเวณภาคใต้ในมณฑลชิงไห่ เขตซางโตวในธิเบต มณฑลเสฉวน ยูนนาน และกุ้ยโจว การเก็บถั่งเช่าจะเก็บในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ เมื่อขุดตัวหนอนขึ้นจากดินแล้ว ล้างน้ำให้สะอาด แล้วตากแห้ง การเก็บรักษา ควรเก็บไว้ในที่แห้ง
“ถั่งเช่า” ถือได้ว่าเป็นยาสมุนไพรที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศจีนนานนับศตวรรษ มีสรรพคุณทางยาแผนโบราณที่ใช้กันแพร่หลายในประเทศจีนในเรื่องของกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ และใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงอวัยวะภายใน เช่น ปอด ตับ และไต เป็นต้นเห็ดถั่วเฉ้า 3

องค์ประกอบทางเคมีของถั่งเช่า
ถั่งเช่าอุดมไปด้วยสารต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ ได้แก่ โพลีแซคคาไรด์ (galactomannan), นิวคลีโอไทด์ (adenosine, cordycepin), cordycepic acid, กรดอะมิโน และสเตอรอล (ergosterol, beta-sitosterol) นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสารอาหารสำคัญอื่น ๆ เช่น โปรตีน วิตามินต่างๆ ( Vit E, K, B1, B2 และ B12) และแร่ธาตุต่าง ๆ (โพแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี และซิลิเนียม) เป็นต้นเห็ดถั่วเฉ้า 2

รายงานการวิจัยในคน
ถึงแม้ว่า “ถั่งเช่า” มีการใช้อย่างแพร่หลายและมีราคาสูง แต่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาในคนอย่างเป็นระบบมีน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นกรณีศึกษาเท่านั้น ตัวอย่างเช่น
กรณีศึกษาฤทธิ์ต่อการกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ พบว่าการวิจัยในผู้ชาย 22 คน ใช้ถั่งเช่าเป็นอาหารเสริม พบว่าช่วยเพิ่มจำนวนของสเปิร์มในอสุจิได้ 33% และมีผลลดปริมาณของสเปิร์มที่ผิดปกติลง 29% และมีอีกกรณีศึกษาในผู้ป่วยทั้งชายและหญิง 189 คน ที่มีความต้องการทางเพศลดลง พบว่าถั่งเช่าสามารถช่วยทำให้อาการและความต้องการทางเพศสูงขึ้น 66% นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยสนับสนุนว่าการรับประทานถั่งเช่าจะช่วยปกป้องและช่วยให้การทำงานของต่อมหมวกไต ฮอร์โมนจากต่อมไทมัส และจำนวนของสเปิร์มที่สามารถปฏิสนธิได้เพิ่มขึ้น 300 % และช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศของผู้หญิงได้ 86%

  • กรณีศึกษาฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยทำการศึกษาในผู้ชาย 5 คน (อายุเฉลี่ย 35 ปี) ที่ถุงลมถูกกระตุ้นให้อักเสบด้วย lipopolysaccharide (LPS) พบว่าถั่งเช่ามีฤทธิ์ลดการสร้างสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ เช่น interlukin-1beta (IL-1beta), interlukin-6 (IL-6), interleukin-8 (IL-8), interleukin-10 (IL-10) และ tumor necrosis factor-alpha (TNF-alpha) ได้ จึงส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น
  • กรณีศึกษาฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยการให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทานถั่งเช่าปริมาณ 3 กรัม/วัน พบว่าสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ถึง 95% ในขณะที่กลุ่มที่รักษาด้วยยาแผนปัจจุบันสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้เพียง 54%
  • กรณีศึกษาฤทธิ์ต่อการฟื้นฟูระบบการทำงานของไต โดยให้ผู้ป่วยภาวะไตวายเรื้อรังรับประทานถั่งเช่าปริมาณ 3-5 กรัม/วัน พบว่าถั่งเช่าทำให้การทำงานของไตมีประสิทธิภาพดีขึ้น และพบว่าหลังจากให้ผู้ป่วยรับประทานถั่งเช่าต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน 1 เดือน สามารถช่วยลดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เกิดจากภาวะไตวาย ได้แก่ ลดความดันโลหิต ลดระดับโปรตีนในปัสสาวะ ลดการเกิดภาวะโลหิตจาง และช่วยเพิ่มเอนไซม์ superoxide dismutase (SOD) ซึ่งป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และมีรายงานว่าการให้ผู้ป่วยที่การทำงานของไตบกพร่องจากการใช้ยา gentamicin รับประทานถั่งเช่า 4.5 กรัม/วัน มีผลทำให้ระบบการทำงานของไตดีขึ้นเป็นปกติ 89 % เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมหลังจากรับประทานถั่งเช่าภายใน 6 วัน

การศึกษาวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
เป็นการทดลองในหลอดทดลองและสัตว์ทดลอง พบว่าถั่งเช่ามีฤทธิ์ปรับสมดุลของร่างกาย กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านมะเร็ง ลดระดับน้ำตาลในเลือด ต้านการอักเสบ และกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ เป็นต้นเห็ดถั่วเฉ้า 1

ข้อควรระวัง

  1. ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากถั่งเช่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้ จะไปเสริมฤทธิ์กับยาลดน้ำตาลในเลือด
  2. ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากลุ่มป้องกันการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด เนื่องจากถั่งเช่ามีฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด
  3. ควรระวังการใช้ในผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน (immunosuppressive) ทั้งนี้เพราะว่าถั่งเช่ามีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

“ถั่งเช่า” ถือได้ว่าเป็นสมุนไพรสุดฮิตในปัจจุบัน เป็นการใช้ตามสรรพคุณของภูมิปัญญาที่มีมานานกว่าศตวรรษ แต่ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะการศึกษาทางคลินิกยังมีน้อย ฉะนั้นการใช้ถั่งเช่าจะต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะ ถั่งเช่ามีราคาสูงมาก ทั้งนี้ยังพบว่าในท้องตลาดมีถั่งเช่าหลายระดับคุณภาพมาก ตามภูมิปัญญาของจีนมีการจัดคุณภาพของถั่งเช่าเป็น 3 ระ ดับ ระดับที่ดีที่สุด ความยาวของตัวเห็ดจะเท่ากับความยาวของตัวหนอน (ประมาณ 3-4 เซนติเมตร) ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงเห็ดถั่งเช่าสีทองซึ่งเป็นเห็ดสกุลเดียวกับตังถั่งเช่า (Cordyceps) แต่คนละชนิด (species) และมีการกล่าวอ้างว่ามีคุณภาพดีกว่าตังถั่งเช่า ซึ่งจะต้องมีการศึกษาพิสูจน์ต่อไป นอกจากนี้ขนาดบริโภคของผู้ใหญ่ (อายุมากกว่า 18 ปี) ในแต่ละวัน ประมาณ 3-9 กรัม ชงกับน้ำร้อน หรือประกอบอาหาร ขนาดการใช้ที่มากเกินไปอาจจะก่อเกิดผลเสียได้ การใช้ในหญิงมีครรภ์ หญิงในนมบุตร และในเด็ก ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอ และห้ามใช้ในคนที่แพ้เห็ด Cordyceps ผู้ป่วยที่มีอาการหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และผู้ป่วยที่มีการเต้นของหัวใจผิดปกติ ฉะนั้นจึงควรระมัดระวังในการใช้และควรมีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการใช้ถั่งเช่าในการรักษาโรคเพื่อความปลอดภัยและให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค

ที่มา : http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/

14 រឿងប្លែកៗ តែមានពិតនៅប្រទេសជុប៉ុន

១. នៅប្រទេសជុប៉ុន មិនថានៅតាមផ្លូវណា ឬផ្លូវទូលាយយ៉ាងណា មិនថាពេលយប់ស្ងាត់ឈឹងគ្មានឡានម៉ូតូសោះយ៉ាងណាក៏ដោយ អ្នកដែលត្រូវឆ្លងថ្នល់ ត្រូវតែដើរទៅរកគំនូសសម្រាប់ឆ្លងថ្នល់ ហើយត្រូវចាំរហូតដល់ភ្លើងបែតងសិនទើបអាចឆ្លងបាន គួរឲ្យសរសើរណាស់។

japan_1

២. សេវ៉ាកម្មរាក់ទាក់ភ្ញៀវនៅប្រទេសជុប៉ុនពិតជាល្អពិសេសលើសប្រទេសណាណាទាំងអស់ ពេលចូលផ្សារទំនើប ឬម៉ាតណាក៏ដោយ អ្នកនឹងឃើញអ្នកទទួលភ្ញៀវចាំរាក់ទាក់អ្នក។ ហើយបើកាលណាអ្នកចេញពីហាង គេនឹងឈរញញឹមអរគុណអ្នករហូតទាល់តែអ្នកដើរឆ្ងាយដាច់កន្ទុយភ្នែកទើបឈប់ ព្រោះបើភ្ញៀវងាកក្រោយហើយមិនឃើញអ្នក ចាត់ទុកថាជារឿងមិនគួរសមយ៉ាងខ្លាំង។

japan_2

៣. ជនជាតិជុប៉ុនមានអត្រាការធ្វើអត្តឃាតខ្ពស់ណាស់ ហើយវិធីដែលគេអាចជ្វើអត្តឃាតមួយក្នុងចំណោមវិធីផ្សេងៗនោះគឺការលោតចូលផ្លូវរថភ្លើងល្បឿនលឿន។ តែលោកអ្នកមានដឹងទេថាក្នុងករណីសំលាប់ខ្លួនដោយវិធីនេះ ញាតិមិត្តបងប្អូននឹងត្រូវបងប្រាក់ឲ្យក្រុមហ៊ុនរថភ្លើងយ៉ាងច្រើនមហាសាលព្រោះវាជាការដែលគេចាត់ទុកថាបានធ្វើឲ្យក្រុមហ៊ុនមានការខាតបង់និងខាតពេលវេលាយ៉ាងធ្ងន់ធ្ងរ។ ម្លោះហើយបើចង់ស្លាប់ ត្រូវជ្រើសរើសវិធីស្លាប់ដែលមិនធ្វើឲ្យអ្នកនៅរស់ត្រូវលំបាកព្រោះខ្ញួនឯងផងណា។

japan_3 អានត-อ่านต่อ

ដល់ក! ចេះរកនឹកឃើញ

ថ្ងៃនេះមានរូបភាពប្លែកៗ ព្រមទាំងគំនិតបង្កើតថ្មីៗប្លែកៗ អាចធ្វើតាមបាន តែមានរូបខ្លះមិនគួរធ្វើតាមល្អជាង ជាពិសេសរូបចុងក្រោយគេ ហាហាហា។ កុំឲ្យខាតពេលយូរ តោះ ទៅមើលទាំងអស់គ្នា។

car[1]

បណ្ដោះអាសន្នបានដែរតើ!

enhanced-buzz-22351-1407513688-15-vert[1]

អានត-อ่านต่อ

รวมข้อคิดดีๆ อยากให้ อ่าน ช้า ช้า สบายๆ

image

เมื่อตอนที่นก ยังมีชีวิตอยู่.. มันจะกินมดเป็นอาหาร แต่เมื่อมันตาย.. มันก็จะถูกมดกินเป็นอาหารเช่นกัน

ต้นไม้หนึ่งต้น สามารถทำเป็นไม้ขีดไฟได้เป็นล้านๆ ก้าน แต่ไม้ขีดไฟเพียงหนึ่งก้าน ก็สามารถเผาต้นไม้ได้เป็นล้านๆ ต้นเช่นกัน

จงอย่ามองข้ามคนที่ด้อยกว่า เพราะหลงตัวเองว่ายิ่งใหญ่

อย่ามองข้ามลูกค้ารายเล็ก ไม่เห็นคุณค่าของพวกเขา เพราะสักวันหนึ่งเขาอาจเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเราก็เป็นได้ អានត-อ่านต่อ

9 กำลังใจ

image

1. อย่ากลัว การเริ่มต้นใหม่
และอย่าแคร์ สายตาใคร
ตราบใดที่เรา ยังหายใจ
ด้วยจมูกของเราเอง

2. คนอื่น ไม่ให้โอกาสเรา
ยังไม่น่าเศร้า เท่ากับเรา
ไม่ให้โอกาสตัวเอง

3. กระจก ไม่เคยดูถูกใคร
มีแต่คนที่ไม่มั่นใจ ที่ดูถูกตัวเอง

4. คนฉลาด ไม่ใช่ผู้ที่ ชนะการโต้แย้ง
แต่คนฉลาด คือผู้ที่ออกห่าง
จากการโต้แย้ง ตั้งแต่เริ่มต้น

5. คนที่ใช้ชีวิตคุ้มค่า คือ
คนที่ได้ทำ ในสิ่งที่อยากทำ
ไม่ใช่เพราะได้ทำ
ในสิ่งที่ คนอื่นอยากให้ทำ

6. อย่าเป็นคนเก่ง ที่แล้งน้ำใจ
แต่จงเป็น คนธรรมดาทั่วไป
ที่มีน้ำใจ และไม่เห็นแก่ตัว

7. มองปัญหา ให้เหมือนกับ เม็ดทราย
ถึงจะเยอะมากมาย แต่เม็ดทราย ก็เล็กนิดเดียว

8. ไม่มีใครดีเลิศหรือ เพอร์เฟค หรอก
เพราะขนาดดินสอ ยังต้องมียางลบ

9. ใครจะดูถูกเรา ก็ปล่อยให้เค้าดูถูกไป
แต่จงท่องให้ขึ้นใจว่า เราจะไม่ดูถูกตัวเอง

14 อย่างที่คุณอาจไม่รู้ว่า “หูฟัง iPhone” ของคุณทำได้!!

image

แน่นอนว่า “ไอโฟน” ทุกเครื่อง จะมาพร้อมกับ “หูฟัง iPhone” ซึ่งหลายๆ คนคงไม่ได้ใช้มันทำอะไรมากนัก นอกจากฟังเพลง หรือใช้เป็นสมอลทอล์กตอนขับรถ แต่คุณรู้มั้ยว่า มันมีอะไรมากกว่านั้นที่ “หูฟัง iPhone” ของคุณทำได้ และนี่คือ 14 อย่างนั้นที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน และเราเอามาฝากกัน!

image

1.กดปุ่มกลางหนึ่งทีคือการเล่นเพลง
2.กดปุ่มกลางอีกทีคือคือ Pause เพลง
3.กดปุ่มตรงกลาง 2 ที คือการเลื่อนไปเพลงถัดไป
4.กดปุ่มตรงกลาง 3 ที คือย้อนไปจุดเริ่มต้นของเพลง
5.หรือทำแบบเดิมเพื่อย้อนไปเพลงก่อนหน้า
6.กดปุ่มตรงกลาง 2 ที ครั้งที่สองให้กดค้างไว้ จะเป็นการกรอเพลงไปข้างหน้า
7.กดปุ่มตรงกลาง 3 ที ครั้งที่สามค้างไว้ จะเป็นการกรอเพลงย้อนกลับ
8.เวลามีคนโทรเข้า กดปุ่มตรงกลางเป็นการรับสาย ที่หูฟัง มีไมโครโฟนอยู่แล้ว สามารถพูดใส่ได้เลย
9.เวลามีคนโทรแทรก ตอนที่คุยอยู่ กดปุ่มตรงกลาง 1 ที จะเป็นการเปลี่ยนไปคุยสายใหม่ และให้สายแรกรอสายก่อน
10.แต่ถ้าไม่อยากรับสายที่แทรกเข้ามาทีหลัง ให้กดปุ่มกลางค้างไว้ประมาณ 2 วินาที ก็จะตัดสายที่แทรกไป
11.ถ้าจะวางสาย กดปุ่มตรงกลาง 1 ที
12.ถ้าไม่อยากรับสายเลย กดปุ่มตรงกลางแช่ไว้ สายจะถูกโอนไประบบรับฝากข้อความทันที
13.ต้องการพูดคุยกับ Siri คุณแค่กดปุ่มตรงกลางแช่ไว้ Siri ก็จะโผล่มา
14.ถ่ายรูปได้ง่ายๆ ด้วยการกดปุ่มเพิ่มหรือลดเสียงก็ได้

ง่ายและเจ๋งสุดๆ เลยใช่มั้ยล่ะ? และอย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ ของคุณที่ใช้ “ไอโฟน” เหมือนกันดูด้วยล่ะ
cr: ki

ព្រៃ, ទឺកធ្លាក់-ป่า, น้ำตก ภาษาเขมรวันละคำ

ภาษาเขมรวันละคำกับครูเคน
คำแรก
ภาษาเขมร : ព្រៃ
อ่านว่า : ป-เรย
แปลว่า : ป่า
ภาษาอังกฤษ : Forest

คำที่สอง
ภาษาเขมร : ទឹកធ្លាក់ ឬ ទឹកជ្រោះ
อ่านว่า : เติก ทเลียะ รือ เติก จโระห์
แปลว่า : น้ำตก
ภาษาอังกฤษ : Water fall

ภัยใกล้ตัว! เตือน คุณแม่ทั้งหลาย ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ กับลูกของคุณ

image

เตือนภัย! คุณแม่ทั้งหลาย ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ กับลูกของคุณ

image

คุณแม่ต้องตกใจเมื่อพบว่าลูกน้อยของคุณที่ปลอยให้อยู่ตามลำพัง สถาพเป็นแบบนี้ ซึ่งปัญหาแบบนี้คุณแม่ทุกคนสามารถป้องกันได้แค่เพียง…….เก็บลิปสติกให้เป็นที่เป็นทางพ้นมือเด็ก

image

image

image

ช่วยกันแชร์เตือนภัย….แม่ๆวัยรุ่นที่รักสวยรักงามจะได้ไม่เจอปัญหาแบบนี้ !!!

รู้ยัง? เงิน 750 บาท ที่จ่ายประกันสังคม แบ่งเงิน ไปทำอะไร อย่างไหน

สำนักงานประกันสังคม เขาทำอย่างไร กับเงินที่เราจ่ายเงินทุกเดือน ลูกจ้างอย่างเราต้องรู้ -ต้องศึกษาไว้

เงิน 750 บาท แล้วนายจ้างจ่ายสมทบ ทุกเดือนให้อีก 750 บาท ต่อคน ต่อเดือน เช่นกัน

ในแต่ละเดือนของประกันสังคม แบ่งเงิน ไปทำอะไร อย่างไหนบ้าง !?

เงิน 750 บาท ในแต่ละเดือนของประกันสังคม จะถูกแบ่งเป็น…

– 225 บาท ดูแลเรื่องเจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร และตาย
ถ้าไม่ใช้สิทธิ เงินส่วนนี้ก็จะหายไป .. ไม่ได้คืน

– 75 บาท ใช้ประกันการว่างงาน
ถ้าว่างงานเมื่อไหร่ ก็เอาเงินส่วนนี้มาใช้ในระหว่างตกงาน รอหา งานใหม่ แต่ถ้าไม่ว่างงานเลย เงินส่วนนี้ก็จะหายไป .. ไม่ได้คืน

– 450 บาท เก็บเป็นเงินออม จะได้คืนเมื่ออายุครบ 55 ปี

โดยเงื่อนไข การได้เงินก้อนสุดท้าย (เงินออม เมื่อครบ 55 ปี คืน) คือ

1. จ่ายประกันสังคม .. ไม่ครบ 1 ปี
ได้คืนส่วนที่จ่ายเป็นเงินก้อน เรียกว่าบำเหน็จชราภาพ
เช่น จ่ายเดือนละ 750 บาทมาโดยตลอด 10 เดือน (750 บาท จะถูกหักเป็นเงินออม 450 บาท) เมื่ออายุครบ 55 ปี จะได้คืน 450 บาท x 10 เดือน = 4,500 บาท

2. จ่ายครบ 1 ปี แต่ ไม่ถึง 15 ปี จะได้เป็นเงินก้อนเรียกว่าบำเหน็จเช่นกัน แต่จะมากกว่าข้อ 1. คือ ได้ส่วนที่นายจ้างสมทบไว้ด้วย
เช่น จ่าย 750 บาท ตลอด 7 ปี (84 เดือน) ที่จะได้รับคืนเมื่ออายุครบ 55 ปี คือ 450 บาท (ส่วนที่ตนเองจ่าย) + 450 บาท (ส่วนที่นายจ้างจ่าย) x 84 เดือน = 75,600 บาท

3. จ่ายตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
จะได้รับเป็นเงินรายเดือน เรียกว่า บำนาญ-ชราภาพ โดยคำนวณ 2 กรณี คือ

– กรณีจ่ายครบ 15 ปีเป๊ะๆ
จะได้รับรายเดือน คือ 20% ของเฉลี่ยเงินเดือน 60 เดือนสุดท้าย

สมมติ
60 เดือนสุดท้าย เฉลี่ยแล้วเท่ากับ 15,000 บาท จะได้รับ 20% คือ เดือนละ 3,000 บาท ไปจนตาย

– กรณีสมทบมากกว่า 15 ปี
จะได้รับโบนัสเพิ่ม 1.5% ของเงินเดือน 60 เดือนสุดท้าย หากครบปี

เช่น จ่ายครบ 20 ปี รายเดือนที่จะได้รับ คือ

20% ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือน + 1.5% ของเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือน x 5 ปี (จ่าย 20 ปี เกินจากที่กำหนดขั้นต่ำมา 5 ปี)

สมมติ … เฉลี่ยเงินเดือน 60 เดือนสุดท้าย เท่ากับ 15,000 บาท จะได้รายเดือน คือ

(20% x 15,000 บาท ) = 3,000 บาท
+
(1.5% x 15,000 บาท x 5 ปี) = 3,375 บาท
รวมเป็น 6,375 บาท ต่อเดือนไปจนตาย

กรณีที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพแล้ว แต่ยังไม่ครบ 5 ปีเลย แล้วเสียชีวิตไปก่อน ล่ะ กรณีเช่นนี้ จะได้รับบำเหน็จ 10 เท่า ของเดือนสุดท้าย ของ เงินบำนาญ ที่ได้รับ

เช่น รับเงินรายเดือน เดือนล่าสุด 6,375 บาท ตายปุ๊บ รับ 63,750 บาท

-ส่งต่อกันได้นะครับเพื่อความรู้ที่เป็นประโยชน์กับตัวเรา
ขอบคุณสาระข่าวจาก : มูลนิธิผู้บริโภค

40 ตำแหน่ง ไฝ ทำนายลักษณะ เนื้อคู่

ใครมีไฝตรงไหน ส่องกระจก เช็คให้ทั่วร่าง เพราะไฝสามารถบอกลักษณะนิสัย ของเนื้อคู่เราได้ กระซิบเบาๆ ขอบอกว่าแม่นมากๆ เลยหละ

ไฝ

1. ไฝที่ศีรษะ

        จะได้คู่ที่ดีมีฐานะการงานมั่นคงเป็นซื่อตรงในความรักและรักคุณอย่างจริงใจ โอ้โฮ้ ดีไปอีก ไปสักไฝที่หัวทันมั๊ยนะ
2.ไฝที่คิ้ว
        เนื้อคู่จะอยู่ใกล้ๆตัว เป็นคนผิวพรรณดี อาจจะอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ หรือมีญาติพี่น้องแนะนำให้รู้จักกัน3.ไฝที่ขมับ

        คู่ของคุณจะเป็นคนที่สังคมยอมรับ มีชื่อเสียงในสังคม และอายุไม่มาก ไม่ก็อายุพอๆกัน ถ้าแต่งงานหลังอายุ 25ปี แล้วจะทำให้มีความสุขความเจริญ
 
4.ไฝที่อวัยวะเพศ
        จะต้องแต่งงานหลายครั้ง หรือมีคู่หลายคน อีกทั้งคู่ครองยังเคยแต่งงานมาแล้วแต่หย่าร้าง
5.ไฝที่ส้นเท้า

        เนื้อคู่นั้นเป็นคนที่ห่างไกล อาจเป็นคนต่างพื้นที่หรือต่างชาติ ต่างภาษากัน
6.ไฝที่ก้น
        คู่ครองจะเป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถรอบตัว
7.ไฝที่สีข้าง
        จะมีคู่ครองที่คอยดูแล คอยปกป้อง และเป็นคนที่รักกันอย่างจริงใจ
8.ไฝที่ข้อศอก
        คู่แท้นั้นเป็นคนที่ฐานะทางการเงินมั่นคง มีความรู้มาก สติปัญญาดี
10.ไฝที่อก

        เนื้อคู่ของคุณนั้นเป็นคนดี ฉลาดครบเครื่อง เก่งกาจรอบตัว
 
11.ไฝที่ขาหนีบ
        ได้คนดีมาเป็นคู่ครอง แต่จะค่อนข้างอาภัพ ไร้คู่แท้ที่จะครองรักครองเรือนกันอย่างยาวนาน
 
12.ไฝที่หน้าแข้ง
        ได้คนที่รักเราเป็นอย่างดี คอยดูแลเอาใจใส่กันมีฐานะมั่นคง
 
13.ไฝตรงกลางระหว่างคิ้ว
        ชะตาชีวิตจะได้คู่ที่มีผิวพรรณสะอาดสะอ้าน แต่ก็ยังไม่ใช่เนื้อคู่ที่ถาวร ถ้าเนื้อคู่เป็นคนที่มีอายุมากกว่าหลายปีๆจะช่วยให้ชีวิตรักสุขสมบูรณ์
14.ไฝที่หู 

        ค่อนข้างมีดวงในทางเจ้าชู้ แต่มีโชคคือได้คนดีมาเป็นคู่ครอง
15.ไฝที่คาง
     เนื้อคู่เป็นคนที่รอบรู้ มีความสามารถหลากหลายฐานะมั่นคง แต่อาจต้องทำใจ ต้องเจอกับความรักที่ไม่ลงตัว รักซ้อน ซ่อนเงื่อน ต้องชอกช้ำระกำใจ
 
16.ไฝที่หลังหู
        เนื้อคู่นั้นเป็นคนไกล อาจเป็นชาวต่างชาติ หรือเคยไปอยู่ต่างแดนหรือที่ที่ห่างไกลมาก่อน
 
17.ไฝที่ริมฝีปากบน
        ต้องมีคู่มากมายคบกับคนหลายคนก่อนที่จะได้พบกันกับคู่แท้และเป็นคนที่รอบรู้ ทรงภูมิจะครองรักกันอย่างยาวนาน
18.ไฝที่คอหอย
        เนื้อคู่เป็นคนพูดเก่ง ฝีปากจัดจ้าน แต่จะอยู่ใกล้ๆ ตัวนี้แหละไม่ต้องมองคนไกลๆ
19.ไฝที่บ่า
     คนใกล้ตัวนี้แหละที่เป็นเนื้อคู่ของเรา อาจเป็นเพื่อนๆกันมาอย่างยาวนาน จะคอยดูแลห่วงใยรู้ใจกันเป็นอย่างดี
 
20.ไฝที่แขน
        คู่แท้จะเป็นคนดี คอยให้ความช่วยเหลือ ดูแลซึ่งกันและกันด้วยดีเสมอมา
 
21.ไฝที่ริมฝีปากล่าง
        จะได้เนื้อคู่ที่มีความรักให้กันและกันอย่างดี แต่เขาคนนั้นหรือเธอคนนั้นอาจติดชอบสนุกสนานเกินไปหน่อย
 
22.ไฝที่หัวเข่า
        จะได้คู่ครองที่เป็นคนต่างถิ่น ต่างแดน
23.ไฝที่เอว

        คู่แท้ของคุณจะคอยช่วยส่งเสริมให้ร่ำรวย เมื่อแต่งงานมีลูกด้วยกันแล้ว
24.ไฝที่หลังมือ
        จะได้คู่ที่มีความมั่นคง ทั้งเรื่องฐานะการเงิน การงานและรักกันอย่างจริงใจ ชีวิตมีความสุข ไม่ทุกข์ร้อน
 
25.ไฝที่ฝ่าเท้า
        ดวงจะมีคู่รักกันดี คอยดูแลกันและกัน เป็นที่ชื่นชมของคนรอบข้าง
26.ไฝที่ท้อง
        ได้คู่ที่เป็นคนดี แต่จะอยู่กินไม่ยืดยาวนัก
27.ไฝที่ข้อมือ
        เนื้อคู่เป็นคนที่คอยดูแลเกื้อกูลกันเป็นอย่างดี ถึงแม้จะเป็นคนที่ค่อนข้างแตกต่างกัน
28.ไฝที่ท้ายทอย

        หากเป็นชายจะมีเนื้อคู่ที่มีหลายอย่างคล้ายๆกัน หากเป็นหญิง จะได้พบคู่แท้แต่เมื่อพบรักกันแล้วต้องพลัดพรากห่างไกลกัน
 
29.ไฝที่ไหล่
        ต้องเกิดความขัดแย้งกันอยู่บ่อยๆกับคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันก็เนื่องจากความคิดเห็น ความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่างกัน
30.ไฝที่กลางหลัง
        จะไม่มีคู่ที่คบกันอย่างจีรังยั่งยืน อาจจะเป็นตัวเราเองที่เจ้าชู้มีคู่มีกิ๊กอีกหลายคน หรือไม่ก็อาจเป็นเขาที่รักสนุกคบกับคนอีกมากมาย ขาดคู่แท้ที่จะครองรักกันอย่างยาวนาน
31.ไฝที่ใต้ตา
        เป็นดวงที่ต้องมีคู่รักหลายคน ต้องเปลี่ยนแปลงกันอยู่บ่อยๆกว่าจะพบคู่แท้ที่ร่วมกันสร้างครอบครัวในภายหลัง
32.ไฝที่แก้มขวา
        เนื้อคู่เป็นคนที่อยู่ไม่ไกลตัว ถึงแม้ไม่ร่ำรวยแต่ก็เป็นคนที่มีความคิดคล้ายคลึงกัน
33.ไฝที่ลูกตา
        จะได้คู่แท้เป็นคนมีความรู้ และเป็นคนที่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป แต่ก่อนนั้นก็จะเปลี่ยนคู่อยู่บ่อยๆ
34.ไฝที่หางตาซ้าย
        คู่จะมีรูปงาม แต่จะอยู่กันไม่นาน ถ้าหากคบคนที่นิสัยใจคอ ไม่ใช่ดูเพียงหน้าตาจะอยู่กันได้อย่างยาวนาน เป็นคู่แท้ที่รักกันอย่างจริงใจ
 
35.ไฝที่ริมจมูก
     เนื้อคู่เป็นคนที่มีความรอบรู้ ฐานะดี แต่ตัวคุณค่อนข้างเจ้าชู้มีคู่มาแล้วหลายคน
 
36.ไฝที่หางตาขวา
        เป็นคนที่ฉลาดปราดเปรื่อง รอบรู้วิทยาการ จะต้องได้คู่รักที่เก่ง มีไหวพริบจึงจะเข้ากันได้ดี คุยกันรู้เรื่อง
37.ไฝที่หางคิ้ว
        เนื้อคู่เป็นคนที่มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด อายุอาจต่างกันหลายปี อาจแก่กว่า หรืออ่อนกว่า แต่จะเป็นคนที่ฐานะดี มีความมั่นคง ขี้หึงมาก หรืออาจเป็นคนฝรั่งต่างชาติ แต่คุณจะมีคู่เยอะตามประสาคนเจ้าชู้
 
38.ไฝที่หัวตา
        ซ้ำรักก็หลายครั้ง ผิดหวังอยู่บ่อยๆ เนื้อคู่เป็นคนที่อยู่ไม่ไกล แต่เมื่อเห็นกันตอนแรกจะยังไม่ปิ๊งกันน่ะ
39.ไฝที่ดั้งจมูก
     มีคู่ที่ร่ำรวย มีเกียรติมีคนนับหน้าถือตา
 
40.ไฝที่แก้มซ้าย
        เสน่ห์แรงเป็นไฝเสน่ห์ มีคู่มากคบกับใครไม่นานก็ต้องเลิกรากัน คู่แท้อาจเป็นฝรั่งตาน้ำข้าว หรือคนต่างถิ่น

 

 ขอบคุณข้อมูลจาก

เตะหมาหรือเมียกันดี ตาม พ.ร.บ

กรณีศึกษานะครับ…
– พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ฯ
หากท่านเดินไปกับเมีย มีหมาข้างถนนเห็นเมียเรา
แล้วเห่าทำทีท่าว่าเหมือนจะกัด
แต่อยู่ห่างประมาณ3เมตร สามีเลือกเอานะครับ
ว่าจะเตะหมา หรือเตะเมีย

**กรณีเตะหมา พ.ร.บ.นี้ ความผิดยอมความไม่ได้ โทษคุก2ปี/ปรับ40,000บ.

** กรณีเตะเมียแทนหมา โทษทำร้ายฯ ม.391 เป็นความผิดลหุโทษ คุกไม่เกิน1เดือน/ปรับไม่เกิน
1,000บ. และยอมความได้

** เพราะฉะนั้น เราน่าจะรู้นะว่าจะเตะใคร เตะแล้วอย่าลืมอ้างข้อกฎหมายให้เมียเข้าใจด้วยนะ..
เดี่ยวเมียมันไม่เข้าใจ คุณจะโดนเตะคืน……
แต่ถ้าตามรูปละ ให้เลือกเตะใหม่น่ะครับ

image

กับ

image

3 ท่า ช่วยรักษาโรคได้

ลองทำดู อาจไม่ต้อง กินยาแล้วก็ได้
ลองทำ 3 ท่านี้ดูช่วยทั้ง เบาหวาน ความดัน ระบบทางเดินอาหาร ระบบขับถ่าย โรคปวดหลัง ปวดเข่า
ทั้งหมดนี้เป็นผลงาน วิจัยของอาจารย์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ง่ายๆ เริ่มทำทันทีนะ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
สอนเป็นวิทยาทานต่อ
ได้บุญอย่างยอดเยี่ยม

คำว่า “ไทย” ทำไมต้องมี “ย”

เมื่อถามว่าที่มาของการใช้ ย ในคำว่าไทยตามความหมายที่สองนั้นมาจากไหน จากเอกสารของสำนักงานคณะกรรมการเสริมสร้างเอกลักษณ์แห่งชาติที่ชื่อว่า “เอกสารสดุดีบุคคลสำคัญ” ได้อ้างถึงข้อวินิจฉัย ๒ ข้อซึ่งนำมาจากไว้ว่าบันทึกสมาคมวรรณคดี ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๕ มิถุนายน ๒๔๗๕ ดังนี้

“๑. พระเจนจีนอักษร (สุตใจ ตัณฑากาศ):
ก.) คำว่า ไต คงจะเล็งเอาอักษรจีนที่ภาษาแต้จิ๋วอ่านว่า ไต๋ ฮกเกี้ยนอ่านว่า ไต กวางตุ้ง ปักกิ่ง กลาง อ่านว่า ตา หรือ ต๋า ในหนังสือฆังฮียี่เตี้ยน แปลว่า แรกเริ่ม ใหญ่ มหึมา 

ข.) คำว่า ไถ่ คงจะเล็งเอาอักษรจีน ซึ่งภาษาจีนทุกภาษาอ่านว่า ไถ่ ในหนังสือฆังฮียี่เตี้ยนแปลว่า ใหญ่ที่สุด 

หาก ไท เนื่องมาจากภาษาจีนแล้ว ผู้บัญญัติท่านคงเล็งเอาคำว่า ไถ่ เพราะแปลว่าใหญ่ที่สุด และยังเป็นนามสกุลคนโบราณด้วย ครั้นสืบมาหลายชั่วคน คำว่า ไถ่ ก็แผลงเป็น ไท ส่วนคำว่า ไท้ เป็นภาษาไทย แปลว่าผู้เป็นใหญ่ คงแผลงจากคำว่า ไถ่ หรือ ไท 

สำหรับ เหตุผลที่เขียนว่า ไทย (มีตัว ย) หนังสือมูลบทบรรพกิจ ฉบับพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย) กล่าวว่า คำไม้มลายเป็น 2 อย่าง คำไม้มลายที่มี ตัว ย สะกด คำนั้นเป็นภาษามคธอย่าง หนึ่ง คำที่มีแต่ไม้มลายล้วนด้วยเป็นคำไทยอย่างหนึ่ง 

การเขียนว่า ไท แล้วเอาตัว ย สะกด ก็ยังอ่านว่า ไทย หรือผู้มีอำนาจแผนกอักษรศาสตร์สมัยต่อมา เห็นว่าภาษามคธเป็นภาษาบาลีอันขลัง จึงใช้ ตัว ย สะกดคำว่า ไท ให้เขียนว่า ไทย 

๒. พระพินิจวรรณการ (แสง สาลิตุล):
ตรวจดูภาษาไทยในจารึกสุโขทัยก่อนหลักที่ 3 มีคำว่า ไท ใช้โดยมีตัว ย แถมก็มี ไม่มีตัว ย แถมก็มี ได้แต่สันนิษฐานโดยประมวลความในจารึก 

สันนิษฐานว่าตัว ย เกิดเมื่อจารึกเป็นภาษามคธ (หลักที่ 6) มีคำว่า ลีเทยฺยนามโก ธมฺมราชา เมื่อเรียงพระนามพระเจ้าแผ่นดินลงเป็นภาษามคธมี ตัว ย แล้ว ภาษาไทยก็เลยใส่ตัว ย ลงไปด้วย เพื่อให้พระนามขึ้นสู่ภาษาอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งนับถือกันอยู่มาก

แต่คำว่า ไท ที่มิไช่นามพระเจ้าแผ่นดินยังปล่อยให้ล้นอยู่ก่อน เห็นจะมาเริ่มใส่ตัว ย เติมภายหลังแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถลงมา 

ส่วนคำว่า ไท้ คือ ไท แต่ทำไม ไท้ จึงไม่ถูกเติมตัว ย ข้อนี้ก็ต้องตอบโดยหลักว่าภาษามคธไม่มีไม้ไท และความรู้สึกในเวลานี้ดูเหมือนจะแปลกันว่าคำแทนพระนามพระเจ้าแผ่นดิน ใช้ในทางแทนเทวดาก็มี”

อังกอร์ อีวี 2013. เมดอินแคมโบเดีย(เขมร)

image

อังกอร์ อีวี 2013. เมดอินแคมโบเดีย(เขมร)
ราคาไม่เกิน10000us
นวัตรกรรมของคนเขมรแท้ๆ ตอนนี้เขมรชื่นชมมาก ออกแบบงามมากประตูยกปีกแบบรถมนุษย์ค้างคาว รถไฟฟ้าของเขมร คันละ 9 หมื่นกว่าบาท ชาร์ทครั้งหนึ่งวิ่ง 300 กม.  คนขับไม่ต้องรอชาร์ทเปลี่ยนแบตแล้ววิ่งต่อไปทันที ตัวท๊อปประมาณแสนสอง น่าใช้มาก ……..เมืองไทย ดีทรอยต์ของเอเซีย เป็นไงบ้าง ชอบดูถูกเพื่อนบ้านดีนัก

ไทยอาจไม่เป็นประเทศที่น่าสนใจในการลงทุน เหมือนที่ผ่าน…

แสบเข้าไปถึงทรวง จะโทษใครดี…เห็นทีคนไทยต้องกลับมาพิจารณาตนเองอีกครั้ง
=================================
นายเซ็ทซึโอะ อิอุจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นประจำกรุงเทพ
(Japan External Trade Organization,Bangkok : JETRO Bangkok)

ระบุว่า  ไทยอาจไม่เป็นประเทศที่น่าสนใจในการลงทุน เหมือนที่ผ่านมาในสายตาของนักลงทุนญี่ปุ่น
โดยได้แสดงทรรศนะถึง “จุดอ่อน” ของคนไทยไว้ 10 ข้อ คือ

  1 . คนไทยรู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก
โดยเฉพาะ หน้าที่ต่อสังคม คือ เป็นประเภท มือใครยาวสาวได้สาวเอา
เกิดเป็น ธุรกิจการเมืองธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ทำให้ประเทศชาติ ล้าหลังไปเรื่อยๆ
  2. การศึกษายังไม่ทันสมัย คนไทยจะเก่งแต่ภาษาของตัวเอง
ทำให้ขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่าง ๆ  ไม่กล้าแสดงออก ขี้อายไม่มั่นใจในตัวเอง
จึงตามหลังชาติอื่น คนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอก เพื่อโอกาสที่ดีกว่า
  3. มองอนาคตไม่เป็น คนไทยมากกว่า 70% ทำงานแบบไร้อนาคตทำแบบวันต่อวัน
แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ  น้อยคนนักที่จะทำงาน แบบเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน
มีเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจน
  4. ไม่จริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ทำแบบผักชีโรยหน้า หรือทำด้วยความเกรงใจ
ต่างกับคนญี่ปุ่นหรือยุโรปที่จะให้ความสำคัญกับ สัญญาหรือข้อตกลงอย่างเคร่งครัด
เพราะหมายถึง ความเชื่อถือในระยะยาว ปัจจุบันคนไทยถูกลดเครดิตความน่าเชื่อถือด้านนี้ลงเรื่อย ๆ
  5. การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่ ประชากรประมาณ 60-70% ที่อยู่ห่างไกล
จะขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเอง และชุมชนซึ่งเป็น หน้าที่ของภาครัฐที่ต้องส่งเสริม
  6. การบังคับกฎหมายไม่เข้มแข็ง และดำเนินการ ไม่ต่อเนื่อง ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก
ปราบปรามไม่จริงจัง การดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจ หรือบริวารจะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อน
ไม่มีมาตรฐาน
  7. อิจฉาตาร้อน สังคมไทยไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษ เลี้ยงเป็นศรีธนญชัย ยกย่องคนมีอำนาจ มีเงิน
โดยไม่สนใจภูมิหลัง โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูก แล้วไปเกาะผู้มีอำนาจ เอาตัวรอด คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่า
ผู้ก่อการร้าย ดีแต่พูด มือไม่พายเอาเท้ารานํ้า ทำให้คนดีไม่กล้าเข้ามาเพราะกลัวเปลืองตัว
  8. เอ็นจีโอค้านลูกเดียว เอ็น จีโอ บางกลุ่มอิงอยู่กับ ผลประโยชน์ บ่อยครั้งที่ต้องเสียโอกาสอย่างมหาศาล
เพราะการค้านหัวชนฝา เหตุผลจริง ๆ ไม่ได้พูดกัน
  9. ยังไม่พร้อมในเวทีโลก การสร้างความน่าเชื่อถือ ในเวทีการค้าระดับโลกยังขาดทักษะและทีมเวิร์คที่ดี
ทำให้สู้ประเทศเล็ก ๆ อย่างสิงคโปร์ไม่ได้
10. เลี้ยงลูกไม่เป็น ปัจจุบัน เด็กไทยขาดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกันเป็นขี้โรคทางจิตใจ ไม่เข้มแข็ง
เพราะการเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน ไม่สอนให้ลูก ช่วยตัวเอง ไม่กระตือรือร้น ในการช่วยตนเองขวนขวาย
แสวงหา ค้นหาตัวเองและไม่สอนให้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม
———————————-
แรงมากครับ และตรงทุกข้อ
คำถาม?…แล้วเรา เริ่มต้นแก้ไขที่ข้อไหนก่อนดีครับ….เริ่มข้อที่ใกล้ตัวเรา เป็นกับตัวเรา. แนะนำลูกน้อง และคนรอบข้างที่เห็นด้วยกับข้อความนี้ครับ
รักและปรารถนาดีกับทุกท่าน เพื่อคนไทยที่ดี

បណ្តាំលោកឪពុក

ពុកប្រាប់ថា គ្រាន់តែមើលឃើញដំនេកគឺអាចដឹងថាប្តីប្រពន្ធរបស់កូនមានសុភមង្គល ឬអត់។ ទោះជាមានរឿងអ្វីកើតឡើងក៏ដោយ កូនកុំយកខ្នើយភួយទៅដេកតែម្នាក់ឯង ហើយក៏កុំគេងបែរខ្នងដាក់នាង ត្រូវអោបនាងមកផ្ទាល់ដើមទ្រូងដែលកំពុងក្តៅគគុករបស់កូន នោះរឿងអ្វីៗ នឹងកន្លងផុតទៅដោយរលូន សល់តែក្តីស្រលាញ់។

นอนกอดกัน

ទោះជានៅក្រៅផ្ទះ ក្នុងសង្គមកូនជា មន្រ្តី ឧកញ្ញ៉ា ឬជាអ្នករើសសំរាម ជាកម្មករសំណង់ក៏ដោយ ក៏កូននៅតែជាសសរទ្រូងរឹងមាំក្នុងគ្រួសាររបស់កូនដែរ។ ទោះជាប្រពន្ធរបស់កូនជាមនុស្សអង់អាច មានជំនាញ មានការងារល្អ ឬអាចធ្វើជាជាងសំណង់ ជួសជុលភ្លើងបានក៏ដោយ ក៏កូនត្រូវតែបំពេញកាតព្វកិច្ចជា ប្តី ឪពុកដែរ ព្រោះវានឹងបង្ហាញពីភាពស្មើគ្នា និងការចេះចែករំលែករវាងប្តីប្រពន្ធ។
ក្រោយពេលរៀបការរួច នឹងមានចំនួនលើសពីមួយដងដែលកូនមានអារម្មណ៍ថាស្តាយក្រោយ ពេលខ្លះថែមទាំងមានទំនាក់ទំនងជាមួយអ្នកផ្សេងក្រៅពីប្តី ប្រពន្ធទៀត។ ស្រីគ្មេងរបស់កូនពេលនេះគេស្រលាញ់១០០% ហើយប្រពន្ធរបស់កូនក៏ជាមនុស្សដែលធ្លាប់ស្រលាញ់កូន១០០% ដែរ ប៉ុន្តែក្រោយពេលរៀបការហើយ តួនាទីរបស់ស្រ្តីកាន់តែច្រើនបន្ថែមទៀត។ ស្រលាញ់ប្តីមួយចំណែក ពុកម៉ែខាងប្តី ពុកម៉ែរបស់ខ្លួន មួយចំណែកទៀតសម្រាប់កូនចៅ ហេតុនេះហើយទើបក្តីស្រលាញ់១០០% ពីមុនសម្រាប់កូនក្រោយពេលរៀបការនៅសល់តែជាង៥០% ប៉ុន្តែក្តីស្រលាញ់ដែលបាត់បង់នោះកូននឹងទទួលបានពីគ្រួសារ ពីកូនចៅវិញ។ ម្យ៉ាងទៀតស្រីស្នេហ៍របស់កូនគ្រាន់តែអាចផ្តល់សេក្តីសុខឲ្យកូនក្នុងរយៈពេលខ្លីតែប៉ុន្នោះ ឯប្រពន្ធរបស់កូននឹងផ្តល់សេក្ដីសុខឲ្យកូនថិតថេររហូត។

ពុកក៏ប្រាប់ថា រយៈពេលនាងមានផ្ទៃពោះ គឺជារយៈពេលដែលពិបាកបំផុត។ នាងត្រូរែកពុនឧបស័ក្ក ឆ្លងកាត់គ្រោះថ្នាក់ដើម្បីនាំយកទេវបុត្រ ទេពធិតាជាទីស្រលាញ់ និងត្រេកអរមកជូនគ្រួសារ ហេតុនេះហើយចូរកូនកុំដកដង្ហើមធំពេលឃើញប្រពន្ធមិនស្អាតដូចស្រីក្រមុំ កុំខឹងពេលគេងជិតប្រពន្ធតែមិនអាចធ្វើអ្វីបាន។ ចូរសប្បាយក្នុងនាមជាឪពុកម្តាយវិញ ពិតជាមានន័យណាស់

រឿងម៉ែក្មេក និងកូនប្រសារស្រី ជារឿងមួយដែលមានតៗ តាំងពីយូរណាស់មកហើយ ក៏ប្រៀបបានដូចរឿងលុយកាក់អញ្ចឹងដែរ ហេតុនោះ កូនកុំធ្វើឲ្យម៉ែគិតថាបានបាតបង់កូនប្រុស ឬប្រពន្ធគិតថាប្តីតាមម៉ែ។ កូនត្រូវធ្វើជាចំណងមិត្តភាពរវាងស្រ្តី ពីរនាក់ដែលកូន ” ស្រលាញ់បំផុតក្នុងជីវិត ធ្វើបែបនេះទើបសមជាបុរសពិត “។

” ស្រ្តីប្រៀបបានដូចបុប្ផា សម្រាប់ស្រលាញ់ មិនមែនសម្រាប់យល់ទេ ប៉ុន្តែបើកូន មិនយល់ កូនក៏មិនអាចស្រលាញ់បានឡើយ”។ អតីតកាលបានកន្លងផុតទៅ យើងរស់នៅជាមួយបច្ចុប្បន្ន ប្រសិនបើប្រពន្ធរបស់កូនមានអតីតកាលមិនបានល្អ កូនក៏មិនចាំបាច់សើរើដែរ នាងមិនត្រឡប់ទៅរស់នៅក្នុងគ្រាកន្លងបានទេ។ សម្រេចចិត្តរៀបការគឺបានន័យថាកូន ព្រមទទួលយកអ្វីៗគ្រប់យ៉ាងដែលជារបស់នាង។ ចូរស្រលាញ់នាងដោយចិត្តមេត្តា និងក្តីស្រលាញ់ពិតចេញពីដួងចិត្ត ។ ទោះជានាងមិននិយាយចេញ តែក្នុងចិត្តនាងនឹងស្រលាញ់កូនអស់មួយជីវិត សេក្តីស្រលាញ់ដែលរួមទាំង ការដឹងគុណ និងការគោរព។