ป้ายบอกสถานที่ ข้างหน้าแยกซ้ายเป็นทางหลวงหมายเลขที่68 ไปสำโรง ก็คือตัวจังหวัดอุดรเมียนเจ็ย และมุ่งไปยังชายแดนโอร์ซมัจ หากท่านตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 6 ก็จะเข้าเมืองเสียมราฐ
Author Archives: Viroj Tuntikula
ศูนย์การค้าแห่งแรกที่กรุงพนมเปญ
เมืองปอยเปตในปัจจุบันนี้
ប្រទីប ประทีบ, กระทง หรือไหลเรือไฟกันแน่
ไหลเรือไฟ..เมื่อแข่งเรือเสร็จช่วงหกโมงเย็นเศษพลบค่ำก็จะมีเรือประทีปคนไทยเรียกไหลเรือไฟ(คล้ายแบบทางจังหวัดนครพนม) มีนี้มี 10 ลำ ส่วนมากเป็นของกระทรวงและสถาบัน ในระหว่างเรือไฟวิ่งผ่านหน้าพระที่นั่งที่ประทับจะมีการจุดพลุ 2000 นัด ปฏิบัติเช่นนี้ตลอดเวลา 3 วัน คือ 5-6-7 พ.ย.ในระหว่างเรือไฟแล่นผ่านโฆษกพิธีกรจะบรรยายอธิบายความหมายสัญลัีกขณ์ที่ตกแต่งบนเรือไฟ
เทศกาลแข่งเรือกลับมามีเหมือนเดิม แต่ไม่เหมือนเดิม
กรุงพนมเปญเงียบเหงา อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ปีนี้ประเพณีแข่งเรือ-ไหว้พระจันทร์ -ไหลเรือไฟ (ลอยประทีป) – กรอกข้าวเม่า ผู้คนยังคงหวาด ๆ ไม่ปล่อยให้ลูกหลานมาเที่ยว ปีนี้ทางสรรพวุธทหารกัมพูชาจะจุดพลุคืนละ 2000 นัด ชาวบ้านทราบข่าวยิ่งกลัวหนักเข้าไปอีก เพราะไม่ไว้ใจพลุเกรงว่าพลุจะแตกแล้วถูกลูกหลงบาดเจ็บ-ตาย
มาตรการป้องกันภัย จำได้ไหมเมื่อ 4 ปีก่อน
เมื่อเกือบ 4 ปีก่อนคนเขมรตายเพราะแตกตื่นถึง 375 คนในงานแข่งเรือ ปีนี้ทางรัฐบาลเขมรไม่ประมาทเตรียมพยาบาลสนามมาตั้งรองรับคนเจ็บป่วย
เทศกาลลอยกระทงกัมพูชา
ประเพณีเดือนสิบสองแข่งเรือ-ลอยประทีป-กรอกข้าวเม่า-ไหว้พระจันทร์ เริ่มแล้ววันนี้ที่กรุงพนมเปญ ปีนี้มีเรือเข้าแ่ข่งขัน 245 ลำ น้อยกว่าปีที่แล้ว165 ลำ มีฝีพายชาย-หญิง 17421 คน แข่งกันทีละคู่ระยะทาง 1700 เมตร เที่ยวแรกวันนี้เริ่ม 11.00 น.แข่งกันไป 3 วัน
เรื่องพลุ น่าจะปลอดภัยแล้วน่ะ
เมื่อ 29 ต.ค.ที่ผ่านมาที่กรุงพนมเปญฉลองการครองราชย์ของพระมหากษัตริย์และจุดพลุตอนค่ำ ลูกแรกพุ่งไปชนกระจกอาคารสูง ลูกสุดท้ายพลุวิ่งไปชนนักศึกษาท้องทะลุตายคาที่ญาติคนตายเรียกเงินจากรัฐบาล 3 ล้านบาท งานแข่งเรือก็จุดพลุโดยเจ้าเดิมกรมสรรพวุธกัมพูชา คราวนี้ป้องกันไว้ก่อนโดยไปจุดพลุกันในเรือและลอยลำกลางแม่โขง เพื่อให้ชาวบ้านอุ่นใจว่าจะไม่มีผิดพลาดอีก สำหรับภาพสุดท้ายเป็นพลุที่แตกและมีคนตายจากเหตุการณ์เมื่อ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา
จะใส่หมวกหรือจ่ายค่าปรับดี
ខ្លោងទ្វារ – คลอง เทวียร์ – ซุ้มประตู
วิ่งควาย แข่งม้า ที่เมืองเขมร
ស្គន់ – ซก็วน – อำเภอสกน
เป็นอำเภอหนึงในเขคจังหวัดกำปงจาม อยู่ห่างจากกรุงพนมเปญ 70 กม. ที่ตัวอำเภอนี้จะเป็นศูนย์กลางการเดินทางไปเสียมเรียบ หรือ ไปกำปงจาม รตนคีรี มณฑลคีรี จะเห็นมีอนุสาวรีย์ที่เป็นภาษาจีน เขาสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารจีนแผ่นดินใหญ่ที่เข้ามาในฐานะทหาร UNTAC เมื่อปี 1903 ค่ายทหารจีนที่นี่ถูกกองกำลังเขมรเข้าโจมตีและมีทหารเสียชีิวติ 2 นาย
ជណ្តើរ – จณเดอร์ – บันได
កខ្វក់ – กอ คว็อก – สกปรก
ស្ពានដែក – ซเปียน แดก – สะพานเหล็ก
មង្ឃុតព្រៃ คนเขมรเขาเรียก มงฆุดเปร็ย คนไทยเรียก มังคุดป่า
ตัวเลขของเขมร ลองหัดเขียนดูซิ
មេតុងទីន เมตงตีน – เท้าแชร์
ตำรายาของชาวเขมร
จิตรกรรมฝาผนังสงครามเขมรกับจามปา ยุคชัยวรมันที่ 7
ภาพทหารใส่หมวกรูปบัวคว่ำคือ ทหารจาม หรือจามปา แต่ก่อนแต่ไรก็เป็นคู่ศึกกับชาวเขมรยุคชัยวรมันที่ 7 เมืองจามอยู่ทางตอนกลางของเวียตนามปัจจุบันยังคงมีปราสาทหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในเวียตนาม
หนูทอดเมือง បាត់ដំបង พระตะบอง
เดินทางออกจากเมืองพระตะบองมุ่งหน้าสู่พนมเปญ เพียงไม่กี่กิโลเมตร จะพบเห็นเพิงร้านค้าริมทางเขาขายหนูนาทอด ราคาตัวละ 30 บาท