เรื่องปลาทูไหม้..

image

ชอบเรื่องนี้มาก อ่านบ่อยๆ เตือนตัวเอง
“แม่ของผม เป็นคนทำ อาหารที่บ้านประจำ ทุกวัน…  คืนหนึ่ง หลังจากที่ แม่ทำงานหนัก มาตลอดทั้งวัน  แม่ กลับบ้านมา ด้วยความเหนื่อยล้า และทำอาหารเย็น ให้เราตามปกติ ที่โต๊ะอาหาร แม่วางจาน ที่มี ปลาทูไหม้เกรียม บนโต๊ะ ต่อหน้าพ่อ และทุกๆคน  ผมรอว่า แต่ละคน จะว่าอย่างไร
แต่… พ่อไม่พูดอะไร และตั้งหน้าตั้งตา กิน ปลาทูไหม้ตัวนั้น  และหันมา ถามผมว่า ที่โรงเรียน เป็นอย่างไรบ้าง

คืนนั้น หลังอาหารเย็น ผมจำได้ว่า ได้ยิน แม่ ขอโทษพ่อ ที่ทอดปลาทูไหม้ และ ผมไม่เคยลืม ที่พ่อ
พูดกับแม่เลย “โอย… ผมชอบ ปลาทูทอด เกรียมๆ อร่อยมาก นะแม่”

คืนต่อมา ผมเก็บคำถามในใจ ก่อนนอน และถามพ่อว่า “พ่อชอบปลาทูทอด เกรียมๆ จริงๆ เหรอ”
พ่อลูบหัวผม และตอบว่า
“แม่ของลูก
ทำงานหนัก มาทั้งวัน…
ปลาทูไหม้ 1 ตัว ไม่เคยทำร้ายใคร แต่คำพูด ที่ต่อว่า กันนั้นต่างหาก ที่จะทำร้ายกัน”

“ชีวิตคนเรา
เต็มไปด้วย ความไม่สมบูรณ์แบบ และ แต่ละคน ก็ ไม่ได้เกิดมา สมบูรณ์แบบ
ตัวเราเอง
ก็ไม่ได้มีอะไร ดีกว่าใครๆ”

แต่สิ่งที่ พ่อเรียนรู้ ในช่วงชีวิต คือ…..
การเรียนรู้ ที่จะยอมรับ
ความผิด ของคนอื่น และ ของตัวเอง
การเลือก ที่จะยินดีกับ
ความคิดต่างกันของ
แต่ละบุคคล เป็นสิ่งสำคัญ ในการรักษา ชีวิตครอบครัว ที่มีความสุข และยืนยาว

“ชีวิตเรา สั้นเกินกว่า ที่จะตื่นขึ้นมา พร้อมกับ
ความเสียใจ ที่ว่า เราทำผิดกับ คนที่เรารัก
และรักเรา ให้ดูแล และ
ทะนุถนอม คนที่รักเรา และพยายามเข้าใจ และให้อภัย จะดีกว่า”

** ถ้าเรารู้ เราจะ ทำไหม? **
  • เราจะบีบแตร ใส่คนที่ ยืนยึกยัก ริมถนน แยกที่ผ่านมาไม๊– ถ้าเรารู้ว่า เค้าใส่ขาเทียม
  • เราจะเบียดชน คนข้างหน้า ที่เดินช้ามากไม๊ – ถ้าเรารู้ว่า เค้าเพิ่งตกงาน
  • เราจะขำ คนที่ แต่งตัวเชยไม๊ – ถ้าเรารู้ว่า เค้ามีชุดเก่ง แค่ชุดเดียว
  • เราจะรำคาญ สาวโรงงาน ที่มาเดิน พารากอนไม๊ – ถ้าเรารู้ว่า นั่นคือ
การฉลองวันเกิดของเธอ
• เราจะหมั่นไส้ ลุงที่หัวเราะ
เสียงดังลั่น คนนั้นไม๊ – ถ้ารู้ว่า แกเป็นมะเร็ง ขั้นสุดท้าย
   • เรารู้แจ่มชัดเสมอ…
ว่าชีวิตเรา กำลังเจออะไร
  แต่เรา ไม่มีวันรู้ว่า
“คนที่เราเจอ – กำลังเจอ กับอะไร”

**โลก กว้างกว่า เงาของเรา และโลก ก็ไม่ได้หมุน รอบตัวเรา

**มองข้าม เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปบ้าง ให้โอกาส และให้อภัย มีความเข้าใจ ซึ่งกันและกัน จะได้รัก และอยู่ด้วยกัน อย่างยั่งยืน ยาวนาน

ถูกใจ ·  · ส่งต่อ นะ

ไก่เงี่ยน

image

เจ้าของฟาร์มไก่ ปวดหัว ไก่ไม่ยอมออกไข่ จึงไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ผู้เชี่ยวชาญ “ไก่ก็เหมือนคน คุณควรจะไปซื้อไก่ตัวผู้มาอีกฝูงที่เก่ง ๆ “
แต่เจ้าของฟาร์มไม่มีเงินแล้ว กลับไปแล้วก็คิดมากต่อ
คิดไปคิดมา ได้ทางออก
แก่ไปคัดตัวผู้สภาพดีมา 1 ตัว แล้วก็เอาไวอาก้าที่เก็บไว้ใช้เอง ให้มันกิน
ไม่ผิดหวัง ไก่ตัวผู้กินเสร็จ เหมือนเสือติดปีก ไม่หมดวัน ไก่ตัวเมียทั้งฟาร์มเสร็จมันหมด
ไก่จึงออกไข่กันใหญ่
วันรุ่งขึ้น ไก่ตัวผู้ยังไม่หายคึก บินข้ามรั้วไปจัดการเล้าเป็ดเพื่อนบ้านจนเสร็จเรียบร้อยหลายร้อยตัว
วันต่อมา ก็ข้ามไปอีกฟาร์ม จัดการห่านไปหลายร้อยตัว
สุดท้ายวันที่ 4 เจ้าของฟาร์มเห็นไก่ตัวผู้นอนแอ้งแม้งหมดแรงกลางลานกว้าง กำลังจะตาย มีอีแร้งหลายตัวบินวนอยู่บนฟ้า รอเวลาลงมาแด๊กมัน
เจ้าของฟาร์มน้ำตาร่วง สงสารไก่ตัวผู้ที่ออกแรงทำให้ไข่ออกมาเยอะ ตัดสินใจเก็บศพให้มัน
เจ้าของฟาร์มเดินไปข้างตัวไก่ตัวผู้ น้ำตาร่วง “เป็นเพราะข้าไม่ดีเอง ไม่น่าให้แกกินไวอาก้าเลย แกถึงมีวันนี้”
ที่ไหนได้ ไก่ตัวผู้บอกว่า “เงียบ ๆ อย่าเอ็ดไป รอพวกอีแร้งลงมา กูจะจัดการมันเอง”

55555…..

គ្រោះថ្នាក់ចរាចរណ៍-อุบัติเหตุ ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

Acidentsภาษาเขมร : គ្រោះថ្នាក់ចរាចរណ៍
อ่านว่า : กฺโระฮ์ ทฺนะ จอราจอ
แปลว่า : អានត-อ่านต่อ

ประวัติความเป็นมาของบุญบั้งไฟ

image

ตำนานของประเพณีบุญบั้งไฟ ผูกพันกับนิทานพื้นบ้านสองเรื่องคือเรื่องท้าวผาแดงนางไอ่ และเรื่องสงครามระหว่างพญาคันคากกับพญาแถน ซึ่งเป็นเรื่องที่กล่าวถึงที่มาของการยิงบั้งไฟเลยทีเดียว ตำนานเรื่องนี้เริ่มจากพระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นพญาคันคาก (คางคก) อาศัยอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ครั้งนั้น พญาแถน เทพผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ผู้ดลบันดาลให้ฝนตก เกิดไม่พอใจชาวโลกจึงบันดาลให้ฝนไม่ตก เกิดไม่พอใจชาวโลกจึงบันดาลให้ฝนไม่ตกเลยตลอด 7 ปี 7 เดือน 7 วัน ชาวเมืองทนไม่ไหวจึงคิดทำสงครามกับพญาแถน แต่สู้พญาแถนกับกองทัพเทวดาไม่ได้ ถูกไล่ล่าหนีมาถึงต้นไม้ใหญ่ที่พญาคันคากอาศัยอยู่ ในที่สุดพญาคันคากตกลงใจเป็นจอมทัพของชาวโลกต่อสู้กับพญาแถน พญาคันคากให้พญาปลวกก่อจอมปลวกขึ้นไปจนถึงสวรรค์ ให้พญามอดไม้ไปทำลายด้ามอาวุธของทหารและอาวุธพญาแถน และให้พญาผึ้ง ต่อ แตนไปต่อยทหารและพญาแถนฝ่ายเทวดาพ่ายแพ้ พญาแถนจึงให้คำมั่นว่า หากมนุษย์ยิงบั้งไฟขึ้นไปเตือนเมื่อไรจะรีบบันดาลให้ฝนตกลงมาให้ทันทีและถ้ากบเขียดร้องก็ถือเป็นสัญญาณว่าฝนได้ตกลงถึงพื้นแล้ว และเมื่อใดที่ชาวเมืองเล่นว่าวก็เป็นสัญญาณแห่งการหมดสิ้นฤดูฝน พญาแถนก็บันดาลให้ฝนหยุดตก ส่วนตำนานพื้นบ้านเรื่องผาแดงนางไอ่ มีความโดยย่อ คือ นางไอ่เป็นธิดาพระยาขอมผู้ครองเมืองชะธีตา นางไอ่เป็นสตรีที่มีสิริโฉมงดงามเป็นที่เลื่องลือไปในนครต่างๆ ทั้งโลกมนุษย์และบาดาล มีชายหนุ่มหมายปองจะได้อภิเษกกับนางมากมาย

ในจำนวนผู้ที่มาหลงรักนางไอ่ มีท้าวผาแดงและท้าวพังคี โอรสสุทโธนาค เจ้าผู้ครองนครบาดาล ท้าวทั้งสองต่างเคยมีความผูกพันกับนางไอ่มาแต่อดีตชาติ จึงต่างช่วงชิงจะได้เคียงคู่กับนาง แต่ก็พลาดหวัง จึงมิได้อภิเษกทั้งคู่เพราะแข่งขันบั้งไฟแพ้

ท้าวพังคีนาคไม่ยอมลดละ แปลงกายเป็นกระรอกเผือกคอยติดตามนางไอ่ สุดท้ายถูกฆ่าตาย พญานาคผู้เป็นพ่อจึงขึ้นมาถล่มเมืองล่มไป กลายเป็นหนองน้ำใหญ่ คือ หนองหาน หนองหานในตำนานท้าวผาแดงนางไอ่ ที่เป็นที่ถกเถียงกันว่าที่ไหนกันแน่ มีอยู่ถึง 3 ที่ ได้แก่ หนองหาน ที่ อำเภอ หนองหาน จังหวัดอุดรธานี และหนองหาน อำเภอกุมภวาปี ซึ่งก็ไม่ไกลจากที่แรกมากนัก และอีกที่หนึ่งก็คือหนองหาร จังหวัด สกลนคร

ในตำราอ้างอิงถึงเรื่องผาแดงนางไอ่จบลงด้วยการเกิดเป็นหนองน้ำ ขนาดใหญ่จากการต่อสู้ของพญานาคกับท้าวผาแดง ต่างก็มีข้อมูลอ้างอิงถึง หนองน้ำที่ชื่อหนองหาน แต่กล่าวต่างกันไปในตำราแต่ละเล่มถึงหนองน้ำ ทั้ง3 แห่ง

ចងកសម្លាប់ខ្លួន-ผูกคอตาย ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

image

ภาษาเขมร : ចងកសម្លាប់ខ្លួន
อ่านว่า : จอง กอ ซ็อมลับ คลวน
แปลว่า : អានត-อ่านต่อ