ฝึกอ่านภาษาเขมร

image

ប្រចណ្ឌប្រពន្ធជាមួយប្ដីមុន
វាយសម្លាប់រួចយកសពប្រពន្ធដុតក្នុងពាង
อ่านว่า ปรอจัน ปรอปน เจียมวย พฺแด็มุน អានត-อ่านต่อ

7 คำพูดดีๆ ที่ลูกอยากได้ยินจากพ่อแม่

image

เชื่อไหมว่า? สิ่งสำคัญที่ลูกๆ อยากได้จาก พ่อ-แม่ มากที่สุด อาจจะไม่ใช่เงินทองหรือของมีค่า แต่เป็นความรัก ความเอาใจใส่ของพ่อ-แม่ มากกว่า .. นี้เป็น 7 คำพูดที่ลูกๆ อยากได้ยินจาก “พ่อ-แม่” ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสถานะการณ์ที่แย่หรือดี สิ่งเดียวที่เขาต้องการก็คือกำลังใจจากพ่อและแม่นั่นเอง

1. พ่อแม่รักลูกนะ

การบอกรักลูก เป็นคำพูดที่ทรงพลังและมีความหมายที่สุด เพราะความรักที่ดีที่สุดคือการเริ่มต้นจากที่บ้าน หากลูกไม่เคยได้ยินคำบอก “รัก” ออกจากปากพ่อแม่ก่อน ก็ไม่รู้แล้วล่ะว่าลูกจะได้ยินคำนี้จากใคร

2. พ่อแม่ภูมิใจในตัวลูกนะ

การให้คำชม เมื่อลูกทำสิ่งที่ถูกต้องหรือดีงาม เป็นรางวัลที่ดีที่สุดมากกว่าการซื้อของขวัญให้เป็นการตอบแทน เพราะนั่นจะทำให้ลูกเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง และพยายามทำสิ่งที่ตั้งใจได้อย่างประสบความสำเร็จ

3. พูด “ขอโทษ” แบบไม่ต้องอายลูก

ใครๆ ก็สามารถทำผิดได้เหมือนกันหมด การกล่าวคำว่า “ขอโทษ” ในยามที่พ่อแม่ผิด ถือเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูก เพราะเขาจะได้เรียนรู้ว่า หากการกระทำใดๆ ที่เกิดจากความไม่ตั้งใจ (หรืออาจจะตั้งใจ) การขอโทษ คือสิ่งที่ควรทำอันดับแรก จำไว้ว่าเด็กๆ เรียนรู้เพียงเล็กน้อยจากสิ่งที่เราพูด แต่พวกเขาจะเรียนรู้มากขึ้นจากสิ่งที่เราทำ และจะเรียนรู้มากที่สุดจากสิ่งที่เราเป็น

4. แม่ให้อภัยลูกจ้ะ

เด็กยิ่งโตก็ยิ่งเริ่มมีความคิดเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และที่ตามมาคือการกระทำแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งอาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่โกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่ยังไงลูกก็เป็นลูกของเราเสมอ พ่อแม่ยินดีที่จะกล่าวคำว่า “ให้อภัยลูก” และให้เหตุผลต่อลูก เด็กๆ จะเรียนรู้และไม่พยายามที่จะทำผิดพลาดอีก

5. แม่คอยรับฟังลูกอยู่เสมอนะ

เมื่อลูกกำลังเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เริ่มมีโลกส่วนตัวและเป็นตัวของตัวเอง พ่อแม่ก็เริ่มที่จะไปบังคับหรือสอนให้ลูกทำอะไร ไม่ได้เหมือนตอนเล็กๆ แล้ว แต่สิ่งที่พ่อแม่ทำได้ดีที่สุดสำหรับลูกวัยนี้ก็คือ การตั้งคำถามให้คิดและการพร้อมที่จะยอมรับฟังลูกใน “ทุกเรื่อง” ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกสามารถตัดสินใจได้อย่างมีวุฒิภาวะ และเชื่อมั่นในตนเอง

6. นี่คือสิ่งที่ลูกต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง

พ่อแม่ไม่ควรช่วยลูกแก้ปัญหาไปหมดทุกอย่าง เพราะการเข้าไปแก้ปัญหาให้ลูก แทนที่จะคอยดูอยู่ห่างๆ เพราะความที่ห่วงใย จะทำให้ลูกเข้าใจว่าเขาไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ ดังนั้นพ่อแม่จึงควรให้ลูกพยายามลองแก้ปัญหาในสิ่งที่เขาทำผิด หรือควรที่จะรับผิดชอบ และ เราควรจะเป็นแม่ไก่ที่คอยดูลูกไก่เขี่ยหาอาหารเองอยู่ห่างๆ โดยไม่เข้าไปช่วย ควรจะเป็นเหมือนโค้ชที่คอยสอนลูกอยู่ข้างสนามเมื่อเขาต้องลงแข่งขันเอง คอยเชียร์ คอยเป็นกำลังใจ และให้คำแนะนำ สิ่งที่หัดให้ลูกรู้จักรับผิดชอบด้วยตัวเอง จะทำให้เขามีความเข้มแข็งและรู้จักแก้ปัญหาเองได้

7. ลูกอยากเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น

การที่ลูกเติบโตจะเป็นอะไร เป็นสิ่งหนึ่งที่พ่อแม่หลายคนมักจะคาดหวังและตั้งความหวังในตัวลูก แต่สิ่งที่สำคัญคือการรับรู้ในความสามารถ และเชื่อมั่นในตัวของลูก มากกว่าการที่พ่อแม่ต้องการให้เป็น เมื่อถึงเวลาเราสามารถบอกลูกได้ว่า “ลูกอยากจะเป็นอะไรก็ได้” พ่อแม่จะเป็นคนคอยสนับสนุนในสิ่งที่ลูกอยากเป็น เพื่อให้เขาสามารถเตรียมตัวและพร้อมที่จะเผชิญสถานการณ์ต่อการไปสู่เป้าหมายและความฝันของเขาในอนาคต

(Cr : Kaijeaw)

เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก สู่ การ์ตูนเอนิเมชั่น

เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก สู่ การ์ตูนเอนิเมชั่น ความรู้ ธรรมะสอนใจ แล้วคุณจะรู้ว่า พระพุทธเจ้าสอนอะไร
1ย้อนเวลา

2 มงคลจักรวาล

3 กัป

4 อรูปภูมิ

5 รูปภูมิ

6 จาตุมหาฯ

7 ดาวดึงส์

8 ยามาภูมิ

9 อมร

10 บุปพวิเทหฯ

11 อุตรกุรุฯ

12 ชมพูทวีป

13 ป่าหิมพานต์

14 มนุษย์ภูมิ

15 อสูรภูมิ

16 เปรตภูมิ

17 ราชสีห์

18 ช้างแก้ว

19 ปลาใหญ่

20 ครุฑ

21 นาค

22 เดรฉาน

23 มหานรก 8 ขุม

24 นรกบ่าว

25 โลกันตร์นรก

26 นรกภูมิ

27  อบายภูมิ

28 เทวดา

29 นิพพาน

อนุโมทนาบุญกับทีมงานผู้สร้างทุกท่าน แชร์ต่อ=บุญ

ดอกดาวเรือง…ช่วยรักษาตาและบำรุงตับ

image

ดอกดาวเรืองคือเจ้าแห่งการรักษาตาบำรุงตับ!!ลองอ่านดูค่ะ
ตา กับ ตับ ในแผนโบราณเราเชื่อว่าเป็นจุดแสดงอาการของโรค หากผู้ที่มีปัญหาเรื่องตับ ตับร้อน ตับอ่อนแอ ตับอักเสบ แสดงออกที่ดวงตาทั้งสิ้น
ใครที่มีอาการดังต่อไปนี้ คุณควรถนอมตับ ก่อนตับป่วย
1. มีอาการแสบตา ตาแห้ง
2. มีอาการร้อนออกตา
3. ตาฉ่ำๆ เหมือนมีน้ำตาคลอตลอด
4. มีเส้นเลือดฝอยเล็กๆในตามาก
5. ตาเริ่มมีสีออกเหลืองๆ
อาการเหล่านี้จะดำเนินทางโรคจาก 1 ถึง 5 หากไม่รีบรักษาหรือคอยบำรุงตับตั้งแต่แสบตา ตาแห้ง โรคตับจะยิ่งมากขึ้น!!
วิธีปรุงชา ดอกดาวเรือง แก้ตาแห้ง แสบตา บำรุงตับ
1. เลือกดอกดาวเรืองที่แกจัด 10 ดอก รวมฐานรองดอก
(ไม่เอาที่ร้อยพวงมาลัยตามตลาด)
2. ล้างให้สะอาด
3. ใส่ลงหม้อ เติมน้ำ 2 ลิตร
4. ต้มจนเดือด ลดไฟลงกลางๆ เคี่ยวต่อจนน้ำลดลงเหลือครึ่งนึง
5. ดื่มครั้งละ 30-50 ซีซี ก่อนอาหาร 30 นาที เช้าเย็น
(ที่เหลือเก็บใส่ตู้เย็น หากจะทาน เทใส่แก้ว 30-50 ซีซี แล้วเติมน้ำร้อน ดื่มอุ่นๆ)
รับประทานติดต่อกัน 1-2 อาทิตย์ หากอาการตาแห้ง แสบตาไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์ครับ
(สามารถปรุงให้มีรสหวานเล็กน้อยได้ด้วยน้ำตาลกรวด)
***ดอกดาวเรืองดีกับดวงตา โดยเฉพาะคนที่เล่นคอม เล่นมือถือมากๆ ดื่มก่อนนอนอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งช่วยได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก สมุนไพรหมอศุภ

คำคมภาษาเขมรพร้อมคำอ่านและแปล

image

-ការងារ /กา เงีย/ การงาน,งาน
-អ្វី /อเว็ย/ อะไร,สิ่งใด
-ក៏ /กอ/ ก็
-ដោយ/ดอย/ โดย,ด้วย
-ក៏ដោយ/กอ ดอย/ ก็ตาม
-កុំ /กม/ อย่า
-បណ្តោយ/บ็อน ดอย/ปล่อย
-ឲ្យ or ឱ្យ /ออย/ ให้
-ខ្វះ/ควฺะฮฺ/ ขาด
-ការ/กา/การ
—-ខ្វះការ/ควฺะฮฺ กา/ขาดการ,ขาดความ
-ទទួល/โต ตวล/ รับ
-ខុស/โคะฮฺ/ ผิด
-ត្រូវ/เตริว/ ถูก,ต้อง,ชอบ
-ធ្វើ/ทฺเวอ/ทำ
-ច្បាស់/จฺบะฮฺ/ชัด,ชัดเจน
-ជា/เจีย/ เป็น,หายดี
-ច្បាស់ជា/จฺบะฮฺ เจีย/ ปรากฎ,มันต้อง,มันคง,ต้อง
-បរាជ័យ/ปะ รา เจ็ย/พ่ายแพ้,ล้มเหลว,เสียหาย,สูญเสีย,ไม่ประสบผลสำเร็จ
-ការទទួលខុសត្រូវ /การ โต ตวล โคะฮฺ เตริว/ การรับผิดชอบ,ความรับผิดขอบ

Cr: Channli Localman

“บรรได 5 ขั้น” อ่านให้จบแล้ว คุณจะรู้สึกว่า ดีจริงๆ

# บันไดขั้นที่ 1 ……มองตัวเองว่าดี และมีค่าทุกวัน ในแต่ละวันให้นึกถึงความดี และความโชคดีของตนเอง เริ่มต้นด้วยการ……..

1.ตื่นนอนตอนเช้า ให้ยิ้มกับตัวเอง และนึกว่าโชคดีที่ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว

2.ให้นึกถึงความดีของตนเอง ที่เคยทำมาแล้วในอดีต (ที่สามารถนึกได้ง่ายๆ) เช่น เคยทำบุญ เคยช่วยคนที่อ่อนแอกว่า เคยสงเคราะห์สัตว์ ฯลฯ

คิดว่าตัวเองดี และ มีคุณค่าที่ได้เคยทำสิ่งดีๆ และให้นึกซ้ำๆ จะได้เกิดความเชื่อตามที่นึกนั้น คุณก็จะเกิดความอิ่มเอิบใจ และเชื่อว่า ตัวเองมีความดี ความเก่ง ตามความเป็นจริงในขณะนั้นด้วย คุณจะเกิดความอยากมีชีวิตอยู่ และสร้างสิ่งที่ดีๆ ให้กับชีวิตต่อไป และ

3.ต้องอวยพรตัวเองเสมอๆ อย่าแช่ง หรือตำหนิตัวเอง และอย่ารอให้คนอื่นมาชื่นชมคุณ ซึ่งมักจะไม่ได้ดั่งใจ หรือได้มาก็ไม่สมใจ

# บันไดขั้นที่ 2…….. มองคนอื่นดี มองโลกในแง่ดี ขั้นนี้คุณจะต้องมองว่า…..

1.ทุกๆ คน มีขีดจำกัดของความสามารถ ความดี ความเก่งกันทุกคน ตามความเป็นจริงของเขา ซึ่งไม่เท่ากัน และไม่เหมือนกันเลย

2.ส่วนความไม่ดี หรือไม่เก่งของเขา (ซึ่งมีกันทุกคน) ปล่อยให้เป็นเรื่องของเขาไป ให้มองเฉพาะส่วนที่ดีของเขาเท่านั้น ถ้าคุณทำได้เช่นนี้ คุณก็จะเป็นคนที่มองอนาคต และชีวิตที่ดี มีความหวังที่ดีในชีวิตตลอดเวลา สองสิ่งนี้ ถ้าคุณทำให้ติดเป็นนิสัย คุณจะพบว่า โลกนี้มีสิ่งที่ดีๆ และไม่ยอมแพ้ต่อ”อุปสรรค” ต่างๆ และท้ายที่สุด ก็จะกลายเป็น “สุขนิยม” ทั้งชีวิต

# บันไดขั้นที่ 3 ……..ทำวันนี้ให้ดีที่สุด คือ…..

1.การอยู่กับปัจจุบัน ทำกิจกรรมในวันนี้ และเวลานี้ให้ดีที่สุด ทำได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ไม่ทุกข์ร้อน หรือคาดหวังกับผลลัพธ์ของมัน ไม่ว่าจะสมใจ หรือไม่สมใจก็ตาม

2.จงชื่นชมในความตั้งใจ ทำเต็มความสามารถของตนเอง และคิดต่อว่า……ในอนาคต จะต้องทำให้ดีกว่านี้ นอกจากนั้น

3.คุณต้องเลิกจดจำ หรือ นึกถึงเรื่องที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นกับคุณในอดีต เพราะการจดจำเรื่องราวที่ไม่ดีในอดีต เท่ากับคุณไปสะกิดแผลในใจ และจะทำให้คุณเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น จนส่งผลให้ปัจจุบัน คุณจะไม่มีความสุข และกลัวว่าอนาคตจะเกิดสิ่งที่ไม่ดีซ้ำๆ อีก

# บันไดขั้นที่ 4 ……….มีความหวัง และเชื่อว่าอนาคต จะดีเสมอ ความหวัง ความเชื่อ เกิดจากความคิดถึงบ่อยๆ หรือได้ยินบ่อยๆ

1.จงนึก และบอกกับตัวเองเสมอว่า…… อนาคตจะดีขึ้นอีกเรื่อยๆ จะส่งผลให้เกิดกำลังใจมากขึ้น อยากพบเห็นสิ่งต่างๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตโดยไม่กลัว

2.มีอารมณ์ขัน และ ไม่จริงจังกับชีวิตมากนัก แต่จะมีความหวังที่ดีๆ (Good Hope) อยู่เสมอ แต่อย่ามีความคาดหวัง ( Expectation) กับชีวิต เพราะถ้าคาดหวังกับชีวิต เรามักจะกลัว หรือกังวลว่าจะไม่ได้ผลลัพธ์ดังความคาดหวัง หรือ เมื่อได้มาแล้วก็มักไม่พอใจ จึงอาจทำให้เกิดทุกข์ได้

# บันได้ขั้นที่ 5 ……..ปรับปรุงตัวเองเสมอ โดยปรับปรุง 4 ส่วนที่มีความสำคัญต่อ ชีวิต คือ…..

1. การงาน ให้มีความขยัน อดทน หมั่นหาความรู้ใส่ตัว และกล้าลงมือปฏิบัติในสิ่งที่ควรทำ จะทำให้มีการลงมือทำสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตได้เรื่อยๆ และปรากฏเป็นผลงานที่ชัดเจน

2. ครอบครัว จะต้องยึดหลักที่เป็นมงคลต่อกันคือ ไม่อิจฉา ไม่ระแวง ไม่แข่งขัน ไม่นอกใจ รู้จักการให้ และการให้อภัย มีน้ำใจ และรู้จักเกรงใจกัน

3. สังคม หมั่นสร้างมิตรเสมอ มีการให้ความสำคัญต่อกัน ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และ พูดจากันแบบ “ปิยะวาจา”

4. ตนเอง….. ต้องมีการพัฒนาตนเองเสมอ มีความภูมิใจตนเองตามความเป็นจริง สามารถให้กำลังใจตัวเองได้ และมีกำลังใจพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่ดีขึ้น…

ตำรวจสาวๆเสียมเรียบ เขมรน่ารักๆ

ถ้าได้ไปเที่ยวเสียมเรียบแล้วนั่งรถไปตามถนนต่างๆ โดยเฉพาะตามสี่แยก ท่านจะได้เจอตำรวจสาวๆเอ๊าะๆน่ารักๆประจำการอยู่ ถามไมต้องเป็นตำรวจสาวๆ ผมคิดว่าเขาน่าจะมีไว้เพื่อ អានត-อ่านต่อ

ក្មេងប្រុសនិងដើមផ្លែប៉ោម

image

អស់កាលជាយូរលង់ណាស់មកហើយមានដើមផ្លែប៉ោមមួយយ៉ាងធំ និងក្មេងតូចជាទីស្រឡាញ់ម្នាក់តែងតែមកលេងនៅជុំវិញវាជារៀងរាល់ថ្ងៃ។ ក្មេងតូចឡេីងលើដេីមប៉ោម ញុាុំផ្លែប៉ោម សំរាកនៅក្រោមម្លប់ដើមប៉ោម … ក្មេងតូចស្រឡាញ់ដើមឈើនោះហើយដើមឈើក៏ចូលចិត្តលេងជាមួយគេ។ ពេលវេលាកន្លងទៅ … ក្មេងប្រុសតូចនោះបានធំឡើងហើយគាត់មិនបានលេងនៅជុំវិញដើមឈើជារៀងរាល់ថ្ងៃទៀតទេ។
ថ្ងៃមួយក្មេងប្រុសនេះបានត្រលប់ទៅដើមឈើនោះហើយគេមើលទៅដូចជាមិនសប្បាយចិត្ត។ ចូរមកនិងលេងជាមួយខ្ញុំ “ដើមឈើបានសួរក្មេងនេះ” ខ្ញុំមិនមែនក្មេងទៀតទេខ្ញុំមិនចង់រត់លេងនៅជុំវិញដើមឈើទៀតឡើយ” ក្មេងប្រុសម្នាក់នេះបានឆ្លើយតប។ “ខ្ញុំចង់បានប្រដាប់ក្មេងលេង ខ្ញុំត្រូវការលុយដើម្បីទិញវា ” សូមទោសប៉ុន្តែខ្ញុំមិនមានលុយ .. ប៉ុន្តែអ្នកអាចយកផ្លែប៉ោមទាំងអស់របស់ខ្ញុំទៅលក់ ដូច្នេះអ្នកនឹងមានលុយ ” ដើមប៉ោមនិយាយ។ ក្មេងប្រុសនោះរំភើបចិត្តខ្លាំងណាស់ គាត់បានចាប់បេះផ្លែប៉ោមទាំងអស់ដែលនៅលើដើមឈើនិងបានចាកចេញយ៉ាងសប្បាយរីករាយ។ ក្មេងប្រុសម្នាក់នេះមិនដែលបានត្រឡប់មកវិញបន្ទាប់ពីគេបានបេះយកផ្លែប៉ោមនោះអស់ពីដើម។ ដើមប៉ោមមានការនឹករលឹកក្មេងនេាះជាខ្លាំង។
អស់រយៈកាលដ៏យូរកន្លងទៅ នៅថ្ងៃមួយក្មេងប្រុសម្នាក់ដែលឥឡូវនេះបានប្រែក្លាយទៅជាបុរសម្នាក់ត្រឡប់មកវិញហើយដើមឈើរំភើបជាខ្លាំង “សូមអញ្ជើញមកលេងជាមួយខ្ញុំ” ដើមប៉ោមនិយាយ ។ “ខ្ញុំមិនមានពេលវេលាដើម្បីលេង ខ្ញុំត្រូវតែធ្វើការសម្រាប់ក្រុមគ្រួសារខ្ញុំ យើងត្រូវការផ្ទះសម្រាប់ជាទីជំរកមួយ តើអ្នកអាចជួយខ្ញុំបានទេ? » សូមអភ័យទោសប៉ុន្តែ ខ្ញុំមិនមានផ្ទះណាមួយឡើយ ប៉ុន្តែអ្នកអាច កាត់មែកសាខារបស់ខ្ញុំក្នុងការសាងសង់ផ្ទះរបស់អ្នកបាន “។ បុរសនោះបានកាត់មែកទាំងអស់នៃដើមឈើនោះហើយបានចាកចេញទៅទាំងសប្បាយរីករាយម្តងទៀត។ ដើមប៉ោមមានអំណរសប្បាយដោយឃើញគាត់សប្បាយចិត្ត ប៉ុន្តែបុរសម្នាក់នេះមិនដែលបានត្រឡប់មកវិញចាប់តាំងពីពេលនោះមក។ ដើមឈើ ជាថ្មីម្តងទៀតរងភាពឯកកោនិងទុក្ខព្រួយ។
ថ្ងៃមួយនៅរដូវក្តៅមួយ បុរសនោះបានត្រឡប់មកវិញហើយដើមឈើនោះសប្បាយរីករាយណាស់។ ដើមឈើនេះបាននិយាយថា “សូមអញ្ជើញមកលេងជាមួយខ្ញុំ!” ។ “ខ្ញុំចាស់ហើយ ខ្ញុំចង់ធ្វើដំណើរកំសាន្តដើម្បីបន្ធូរអារម្មណ៍ខ្លួនឯង អ្នកអាចផ្តល់ទូកអោយខ្ញុំមួយបានទេ? ” បុរសម្នាក់នេះនិយាយ។ “ប្រើដើមរបស់ខ្ញុំដើម្បីកសាងទូករបស់អ្នក អ្នកអាចបើកទូកទៅឆ្ងាយនិងមានសុភមង្គល “។ បុរសនោះបានកាត់គល់ឈើដើម្បីធ្វើទូកមួយ គាត់បានធ្វើដំណើរកំសាន្ត និងមិនបានបង្ហាញខ្លួនអស់រយៈពេលជាយូរ។
នៅទីបំផុតបុរសនោះបានត្រឡប់មកវិញជាច្រើនឆ្នាំមក។ “សូមទោសក្មេងប្រុសរបស់ខ្ញុំ ប៉ុន្តែខ្ញុំមិនមានអ្វីសំរាប់អ្នកទៀតទេ ខ្ញុំមិនមានផ្លែប៉ោមទៀតសម្រាប់អ្នក”ដើមឈើនិយាយ។ “គ្មានបញ្ហាទេ ខ្ញុំមិនមានធ្មេញដើម្បីខាំ “បុរសម្នាក់នេះឆ្លើយតប។ “គ្មានដើមសម្រាប់អ្នកឡើងទៅលើ” ដើមឈើនិយាយ។ “ខ្ញុំចាស់ណាស់ហើយនៅពេលនេះឡើងដើមឈើមិនរួចទេ” បុរសម្នាក់នេះបាននិយាយ។ “ខ្ញុំពិតជាមិនអាចផ្ដល់ឱ្យអ្នកនូវអ្វីនោះទេ .. ខ្ញុំនៅសល់តែឬសឈើចាស់ជិតស្លាប់របស់ខ្ញុំ” ដើមឈើនេះបាននិយាយដោយទឹកភ្នែក។ “ខ្ញុំមិនត្រូវការអ្វីច្រើនឥឡូវនេះ គ្រាន់តែជាកន្លែងមួយដើម្បីសម្រាក ខ្ញុំពិតជាធុញទ្រាន់នឹងនឿយហត់រយៈពេលប៉ុន្មានឆ្នាំនេះ»បុរសនោះបានឆ្លើយតប។ “ល្អណាស់! ឫសឈើចាស់គឺជាកន្លែងល្អបំផុតសំរាប់លោកអង្គុយលេង សូមអញ្ជើញមក មកអង្គុយជាមួយខ្ញុំហើយអ្នកនឹងបានសម្រាក “។ បុរសនោះបានអង្គុយចុះហើយដើមប៉ោមក៏មានចិត្តរីករាយញញឹមជាមួយទឹកភ្នែក …..
ដំបូន្មាន: ដើមឈើនេះគឺដូចជាឪពុកម្ដាយរបស់យើង។ នៅពេលដែលយើងនៅក្មេងយើងចូលចិត្តលេងជាមួយម្តាយនិងឪពុករបស់យើង .. ពេលធំឡើងយើងក៏ចាកចេញពីគាត់.. ហើយត្រលប់មករកគាត់នៅពេលដែលយើងត្រូវការអ្វីមួយឬពេលយើងមានបញ្ហា។ គ្មានបញ្ហាអ្វីដែលឪពុកម្តាយមិនអាចធ្វើបាន គាត់ផ្ដល់ឱ្យអ្វីគ្រប់យ៉ាងដែលពួកគេអាចគ្រាន់តែដើម្បីធ្វើឱ្យអ្នកសប្បាយចិត្ត។ អ្នកអាចគិតថាក្មេងប្រុសម្នាក់នោះ មានចិត្តឃោរឃៅដល់ដើមឈើ ប៉ុន្តែេនះជារបៀបដែលយើងទាំងអស់គ្នាប្រព្រឹត្ដនឹងឪពុកម្តាយរបស់យើង។ យើងមិនបានយកចិត្តទុកដាក់ មិនឱ្យតម្លៃចំពោះអ្វីទាំងអស់ដែលពួកគាត់បានធ្វើចំពោះយើងរហូតដល់ពេលនេះវាជាការយឺតពេល។

តៅហ៊ូ เต้าหู้อาหารมากคุณค่า และวิธีเลือกซื้อเต้าหู้

image

เต้าหู้  กำเนิดมากว่า 2,000 ปี ในจีนแผ่นดินใหญ่ คนจีนบางกลุ่มถือว่าเต้าหู้เป็นอาหารที่มีคุณค่าสูงที่อยู่ในความธรรมดาสามัญ คนไทยเรียกเต้าหู้เพี้ยนมาจากภาษาจีนว่า โตวฟู คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า โทฟุ (tofu) คนอังกฤษเรียก bean curd หรือบางครั้งก็เรียกทับศัพท์ว่า tofu เช่นกัน ส่วนชาวฝรั่งเศสเรียกว่า fromage de soja (ชีสถั่วเหลือง)

เต้าหู้เป็นผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง มีคุณค่าทางโภชนาการสูงโดยเฉพาะโปรตีน ซึ่งให้โปรตีนมากกว่าเนื้อสัตว์บางชนิดถึง 2 เท่าของปริมาณที่เท่ากันและมีราคาถูกอีกด้วย

ถั่วเหลืองที่นำมาผลิตเป็นเต้าหู้ยังมีเลซิทิน ซึ่งมีผลในการลดไขมันและช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทที่เกี่ยวกับความทรงจำ รวมทั้งฮอร์โมนจากพืชที่เรียกว่า ไฟโทเอสโทรเจน ที่มีการวิจัยพบว่ามีผลในการป้องกันมะเร็งและมีผลดีต่อผู้หญิงวัยทอง คือ ช่วยชะลอภาวะหมดประจำเดือนและลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม

เต้าหู้แต่ละชนิดมีวิธีการทำที่แตกต่างกันออกไป เช่น
เต้าหู้ชนิดขาวแข็ง ทำจากน้ำเต้าหู้ผสมกับดีเกลือ (แมกนีเซียมซัลเฟต) ซึ่งช่วยทำให้เกิดการตกตะกอน เมื่อตกตะกอนแล้วจึงนำไปใส่ในผ้าขาวที่ปูอยู่ในบล็อก เมื่อสะเด็ดน้ำแล้วจึงห่อให้เป็นก้อนแล้วทำให้สะเด็ดน้ำอีกครั้ง ก็จะได้เป็นเต้าหู้ขาวแข็ง

เต้าหู้ชนิดเหลืองแข็ง วิธีการทำนำเต้าหู้ขาวแข็งไปหมักในเกลือแล้วจึงนำไปต้ม พร้อมทั้งใส่ขมิ้นให้เป็นสีเหลืองเคลือบบริเวณผิวของเต้าหู้ทำให้เนื้อเต้าหู้ชนิดนี้แข็ง และมีความยืดหยุ่นกว่าชนิดขาวแข็ง ส่วนใหญ่นำไปทำผัดไทย หมี่กะทิ ผัดถั่วงอก ผัดขลุกขลิกน้ำพริกเผาหรือนำไปผสมเป็นเครื่องก๋วยเตี๋ยวหลอด

วิธีเลือกซื้อเต้าหู้
1. ทดสอบว่าเต้าหู้ยี่ห้อนั้นใส่สารกันบูดหรือไม่ โดยการนำมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้อง 1 วัน ถ้าเสีย แสดงว่าไม่ใส่สารกันบูด

2. ต้องไม่มีเหงื่อหรือน้ำขุ่นขาวซึมออกมาจากเต้าหู้

3. เมื่อดมดูแล้วต้องไม่มีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นเปรี้ยว

4. สีใกล้เคียงกันทั้งก้อนไม่คล้ำและไม่มีจุดด่างดำ

เต้าหู้เหมาะกับทุกคนในครอบครัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่วัย 40 ปีขึ้นไป เพราะเต้าหู้จะช่วยให้ระบบการย่อยทำงานได้ดีขึ้น

ភ្លៅកង្កែប-ผักชีล้อม ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

image

ภาษาเขมร : ភ្លៅកង្កែប
อ่านว่า : เภลิว ก็องแกบ (ภาษาพูด อ็องแกบ)
แปลว่า :< --more--> ผักชีล้อม (แปลตรงๆว่า น่องหรือขากบ)
អានថា : ផាក់ឈីឡម
ภาษาอังกฤษ : Water dropwort

ตัวอย่าง : ម៉ាក់ខ្ញុំចូលចិត្តញ៉ាំនំបញ្ចុកដាក់ភ្លៅកង្កែប។
อ่านว่า : มะ คญม โจลเจิด ญำ นม บังจก ดะ เภลิว ก็องแกบ
แปลว่า : แม่ผมชอบกินขนมจีนใส่ผักชีล้อม
អានថា : មែ់ ភ៎ម់ ឆប គីន់ ខះនំជីន សៃ ផាក់ឈីឡម
ฟังเสียง :

Admin: Ny Rithy

คุณปู่อายุ 179ปี ท่านว่า ความตายคงลืมปู่ไปแล้วแหละ

image

ชายชราชาวอินเดียคนนี้กล่าวว่าตนอายุ 179 ปีแล้ว คือท่านเกิเมื่อปี คศ 1835 ซึ่งเรื่องนี้ได้กลายเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลกไปแล้ว

เจ้าหน้าที่อินเดียได้ยืนยันว่า ชายชราคนดังกล่าวมีชื่อว่ามหมชตะ มุราสิ เกิดเมื่อวีนที่  6 มกราคม 1835 ในเมืองแบงกาลอร์ ภาคเหนือของประเทศอินเดีย ได้ทำลายสถิติคนแก่ที่สุดในโลกซึ่งมีอายุเพียง 122 ปี

คุณปู่เล่าให้ฟังว่า ปู่มีอายุยืนมากถึงขนาดได้เห็นเหลนของท่านบางคนถึงกับแก่ตายไปก่อนท่านเสียอีก

ที่น่าทึ่งกว่านี้คือคุณปู่บอกว่า ความตายคงลืมปู่ไปแล้วแหละไอ้หลานเอ้ย “Death has forgotten me ” เพราะคนทั่วไปในยุคปัจจุบันหาคนที่จะอยู่ได้ถึงหลัก 100 ยากมาก

លោក​តាជនជាតិ​ឥណ្ឌា​​ម្នាក់​បាន​​​អះអាង​ថា ខ្លួន​គាត់​បាន​កើត​ក្នុង​ឆ្នាំ​១៨៣៥ បើ​គិត​មក​ដល់​ពេល​នេះ​ គឺ​គាត់​មាន​អាយុ​១៧៩​ឆ្នាំហើយ​​។រឿង​បាន​នាំ​ឲ្យ​ភ្ញាក់​ផ្អើល​ដល់ប្រជាជន​​ឥណ្ឌា​ទាំងមូល នាំ​គ្នា​ចាប់​អារម្មណ៍​ជាមួយ​លោក​តា​យ៉ាង​ខ្លាំង​ ។ 

យោង​តាម​​មន្ត្រី​ឥណ្ឌា បុរស​ចំណាស់​ម្នាក់​​នេះ​មាន​ឈ្មោះ Mahashta Mûrasi បាន​កើត​នៅ​ថ្ងៃ ទី ០៦ ខែ​មករា ឆ្នាំ​១៨៣៥ ​ក្នុង​ទីក្រុង Bangalore ខាង​ជើង​ប្រទេស​ឥណ្ឌា​ និង​​បាន​បំបែក​កំណត់ត្រា​​ពិភពលោក​ជា​​មនុស្ស​ចាស់​ជាង​គេ​ក្នុង​លោក​​នៅ​ពេល​ដែល​លោក​​​តា​បាន​ចូលនិវត្តន៍​​កាល​ពី​​ឆ្នាំ​១៩៥៧​ ​ពេល​ដែល​គាត់​មាន​​អាយុ​១២២​។

លោក​តា​ធ្លាប់​បាន​និយាយ​ថា « ខ្ញុំ​មាន​ជីវិត​​រស់​នៅ​​ដូចនេះ ក្នុង​រយៈពេល​​យូរណាស់​​ ពោល​គឺ​យូរ​ជាង​ចៅ​ទួត​របស់​ខ្ញុំ​ទៅ​ទៀត​ ​ដែល​ពួកគេ​​ខ្លះ​បាន​ស្លាប់​ទៅ​អស់​រយៈពេល​ជា​ច្រើន​ឆ្នាំ​ទៅ​ហើយ​» ។ លោក​បន្ត​ថា “Death has forgotten me” « ការ​ស្លាប់​បាន​ភ្លេច​ខ្ញុំ​ហើយ​មើល​ទៅ​» “ព្រោះ​មក​ដល់​​ពេល​នេះ ​ស្ទើរតែ​មាន​​ទេ​អ្នក​ដែល​​សង្ឃឹម​រស់​ដល់​អាយុ​ជាង​១០០​ឆ្នាំ​នោះ​ ឬ​មួយ​ក៏​ខ្ញុំ​មាន​ជីវិត​អមត​? ” 

ระมัดระวังด้วยน่ะครับ

เกิดขึ้นแล้วที่ต่างประเทศ ไม่แน่ใจว่าประเทศไหน แต่กำลังแชร์กันกระหน่ำในสื่อสังคมของชาวเขมร

មាសគីឡូក្លែងក្លាយដែលកំពុងនឹងចរាចរក្នុងទីផ្សារនៃប្រទេសនានា មិនដឹងថាមាសប្រភេទនេះបានមកដល់ស្រុកខ្មែរយើងឬនៅទេ តែសូមបងប្អូនបង្កើនការប្រុុងប្រយ័ត្នទាំងអស់គ្នានៅពេលដែលមានការទិញដូរមាសគីឡូ។

image

image

image

ភូមិអ្នកណាមានឫសីច្រើន សាកយកមកប្រកធ្វើដំបូលមើល

ធានាថាឡូយបែប classic ធន់ ត្រជាក់ ងាយធ្វើ ហើយចំណាយតិចទៀត។ សូមយកទៅកែឆ្នៃបន្ថែមតាមការយល់ឃើញ ហើយអាចធ្វើជាអាជីពរកចំណូលបាបសមរម្យទៀតផង។

image

image

image

ម៉ត់-ละเอียด ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

image

ภาษาเขมร : ម៉ត់
อ่านว่า : ม็อด
แปลว่า : แหลก, ละเอียด
អានថា : លែក, ឡៈអៀត
ภาษาอังกฤษ : be fine as powder
Listen :

ตัวอย่าง : បុកគ្រឿងឲ្យម៉ត់ណា។
อ่านว่า : บกเกรือง ออย ม็อด น่า
แปลว่า : ตำเครื่องให้แหลกนะ
អានថា : តាំឃ្រឿងហៃ់លែកកន់ណះ

By Admin: Ny Rithy

31 ประเทศ ที่คนไทยสามารถไปได้ โดยไม่ต้องขอวีซ่า

image

1. Cambodia 14 days
2. Brunei 14 days
3. Bahrain 14 days
4. Japan 15 days
5. Philippines 30 days
6. Laos 30 days
7. Vietnam 30 days
8. Malaysia 30 days
9. Singapore 30 days
10. Hong Kong 30 days
11. Macau 30 days
12. Maldives 30 days
13. Seychelles 30 days
14. South Africa 30 days
15. Mongolia 30 days
16. Turkey 30 days
17. Russia 30 days (ทางรัสเซียเขามีกฏว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่ต้องวีซ่าเข้ารัสเซ๊ย ถ้าพำนักอยู่ภายในเมืองเดิมเกิน 3 วัน จำเป็นต้องลงทะเบียนในเว็บไซต์กงสุลของรัสเซียนะครับ มิฉะนั้นตอนขาออกประเทศจะโดนปรับเงิน !! แต่ส่วนมากถ้านอนตามโรงแรมเขาจะลงทะเบียนให้เลย แต่ถ้าไปบ้านเพื่อนหรืออย่างไร รบกวนศึกษาตรงนี้ด้วยนะครับ)
18. Vanuatu (ประเทศวานูอาตู เป็นประเทศเกาะเล็กแถบ Pacific ค่อนไปทาง Australia) 30 days
19. Indonesia 30 days
20. South Korea 90 days
21. Argentina 90 days
22. Brazil 90 days
23. Chile 90 days
24. Ecuador 90 days
25. Fiji 4 months อันนี้เขานับเป็นเดือนครับ ไม่ใช่แบบวัน
26. Panama 180 days
27. Peru 183 days หลายคนอาจจะเข้าใจว่าแค่ 90 วัน แต่จริงๆนานกว่านั้นเยอะครับ
28. Georgia 90 days ประเทศนี้เป็นหนึ่งในอดีตโซเวียตเก่าครับ หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าคนไทยไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเช่นกัน (อ้างอิงความเห็นที่ 24)
29. Haiti 90 days (อ้างอิงความเห็นที่ 4)
30. Dominican Republic 3 Months
31. Cook Island 31 Days

4 เทคนิคง่ายๆ ป้องกันภาวะสมองเสื่อม

image

  1.บริหารสมอง โดยฝึกทักษะการใช้มือ เท้า และประสาทสัมผัสทั้ง 5 ให้สามารถรับรู้และเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ให้ระบบกล้ามเนื้อ ระบบประสาทและสมองส่วนต่างๆ ทำงานประสานสัมพันธ์กันอย่างเป็นระบบ เช่น เต้นรำ เล่นหมากรุก หมากล้อม โยคะ รำมวยจีน ต่อจิ๊กซอว์ อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ทำงานบ้านหรืองานอดิเรกที่ชอบ เป็นต้น

       2.บริโภคอาหาร โดยรับประทานอาหารครบหมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูง รักษาน้ำหนักตัวไม่ให้เกินเกณฑ์ หลีกเลี่ยงยาหรือสารที่จะทำให้เกิดอันตรายแก่สมอง เช่น การดื่มเหล้าจัดหรือการรับประทานยาโดยไม่จำเป็น เลือกรับประทานอาหารที่บำรุงสมอง เช่น ธัญพืชหรือถั่ว ผักใบเขียวทุกชนิด ถั่วเหลือง อัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง ผลไม้รสเปรี้ยว ปลาทะเลน้ำลึก ปลาทูน่า เป็นต้น
      
       3.รักษาร่างกาย โดยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ตรวจสุขภาพประจำปี หรือถ้ามีโรคประจำตัวอยู่เดิมก็ต้องติดตามการรักษาเป็นระยะ หากมีอาการเจ็บป่วยควรปรึกษาแพทย์แต่เนิ่น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เพื่อลดโอกาสเกิดอาการสับสนเฉียบพลัน ที่สำคัญ ระมัดระวังเรื่องอุบัติเหตุต่อสมอง ระวังการหกล้ม เป็นต้น
      
4.ผ่อนคลายความเครียด โดยการหารูปแบบที่เหมาะสมกับตนเองให้มากที่สุดและสามารถนำมาใช้ได้กับชีวิตจริง เช่น การฝึกหายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ การฝึกสมาธิ การพูดคุย หรือพบปะผู้อื่นบ่อยๆ เช่น ไปวัด ไปงานเลี้ยงต่างๆ หรือเข้าชมรมผู้สูงอายุ เป็นต้น

จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของคุณ หากทานกล้วยที่มีจุดสีดำบนเปลือก!!

image

คนจำนวนมากนั้นชอบที่จะทานกล้วย แต่พวกเขาคงต้องการที่จะทราบบางสิ่งเกี่ยวกับมันก่อนที่จะทำการซื้อในครั้งต่อไป ลองอ่านข้อความด้านล่างนี้และระมัดระวังการทานผลไม้ชนิดนี้ในครั้งต่อไปกันให้ดี

กล้วยสุกงอมนั้นเต็มไปด้วยสาร TNF (ทิวเมอร์ เนคโครซิส แฟคเตอร์ – Tumor Necrosis Factor) มันเป็นสารที่สามารถต่อสู้กับเซลล์ที่มีความผิดปกติได้ ยิ่งมีจุดดำบนเปลือกกล้วยมากขึ้นเท่าไหร่นั้น ก็ยิ่งทำให้กล้วยสุกนั้นมีประโยชน์มากขึ้นในการปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นได้ยืนยันออกมาว่า สาร TNF ที่ถูกพบในกล้วยนั้น จะช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่ให้เกิดเป็นโรคมะเร็งขึ้นได้ ดังนั้นการบริโภคกล้วยก็จะสามารถป้องกันเนื้องอกให้กับคุณได้เช่นกัน

นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นได้ทำการทดลองจนค้นพบว่า นอกจากกล้วยจะมีสาร TNF (สารต้านมะเร็ง) แล้วนั้น มันยังช่วยเพิ่มปริมาณของเซลล์เม็ดเลือดขาว และช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย คำแนะนำก็คือให้ทานกล้วย 1 – 2 ลูกต่อวัน เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของคุณ

กล้วยที่มีจุดที่ดำได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มันดีต่อสุขภาพมากกว่ากล้วยเปลือกสีเขียว หรือในกล้วยที่สดใหม่ซึ่งไม่มีจุดให้พบเห็นบนเปลือกของมันเลย 

คุณสามารถเอาชนะเซลล์มะเร็งได้โดยได้รับความช่วยเหลือจากสาร TNF ผลกระทบที่กล้วยมีต่อร่างกายนั้นมันจะเชื่อมโยงยังเลนติแนน (Lentinan) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นในการสร้างภูมิคุ้มกัน และเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นตัวต่อต้านเซลล์มะเร็ง สรุปคือกล้วยสุกนั้นมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง เพราะมันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของเซลล์เม็ดเลือดขาว และป้องกันไม่ให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ขึ้นมาได้ 

หมายเหตุ : ในการป้องกันไม่ให้สูญเสียการได้รับวิตามินจากการทานกล้วยนั้น คุณควรนำกล้วยสุกไปแช่ไว้ในตู้เย็น หรือทานกล้วยเมื่อพบจุดดำบนเปลือกในทันที

เห็ด 10 ชนิด ช่วยลดน้ำหนัก สลายไขมัน

image

เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักและเคยรับประทานเห็ดเป็นแน่ เห็ด…จัดเป็นพืชชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาประกอบอาหาร มีหลากหลายชนิด มีทั้งชนิดที่รับประทานได้และรับประทานไม่ได้ ซึ่งในเห็ดที่นำมารับประทานได้นั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด อีกทั้งยังมีประโยชน์กับร่างกายอย่างมาก และเห็ดที่เรานำมาเป็นตัวอย่างให้ดูนั้นล้วนแล้วแต่สามารถนำมาประกอบอาหารเพื่อเป็นเมนูสุขภาพใช้ในการลดน้ำหนัก แถมยังลดไขมัน ลดคลอเลสเตอรอลได้ดีทีเดียว ตามมาดูดีกว่าว่ามีเห็ดชนิดไหนบ้างคะ

1. เห็ดฟาง
เห็ดฟางสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด และอีกสารพัดวิธี ซึ่งในเห็ดฟาง 100 กรัมนั้นจะมีเพียง 35 กิโลแคลอรี่เท่านั้น อีกทั้งยังประกอบไปด้วย โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ไนอะซิน และวิตามินซี ซึ่งเห็ดฟางนั้นมีสรรพคุณช่วยลดปัญหาเรื่องไขมันในเส้นเลือดได้ หากรับประทานเป็นประจำก็จะทำให้กรดไขมันในเส้นเลือดไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป เหมาะที่จะนำมารับประทานเพื่อลดน้ำหนักและคุมน้ำหนักได้ดีทีเดียว

2. เห็ดหลินจือ
เป็นเห็ดที่มีคุณค่าทางโภชนาการหลากหลายจัดเป็นยาอายุวัฒนะ นิยมนำมาทำเป็นยาบำรุงร่างกาย ซึ่งเห็ดหลินจือมีสรรพคุณมากมาย อาทิ มีส่วนช่วยต่อต้านมะเร็ง, ช่วยลดความดันโลหิต, ลดไขมันในเลือด, ลดน้ำตาลในเลือด, ควบคุมเบาหวาน และอื่นๆ

3. เห็ดหอม
เห็ดที่หลายคนโปรดปราน นอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้วนั้นยังจัดได้ว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ซึ่งในเห็ดหอมมีกรดอะมิโนชื่อ eritadenine ที่สามารถช่วยให้ไตย่อยคลอเลสเตอรอลได้ดี มีสารเลนติแนน (Lentinan) ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ นอกจากนี้แล้วยังช่วยป้องกันและต่อต้านมะเร็งได้อีกด้วยคะ

4. เห็ดนางฟ้า
เห็ดนางฟ้า 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 35 กิโลแคลอรี ในเห็ดนางฟ้าประกอบไปด้วย โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต แถมยังมีไขมันต่ำมาก ๆ จึงไม่ทำให้อ้วนอย่างแน่นอน

5. เห็ดนางรม
จัดเป็นเห็ดตระกูลเดียวกันกับเห็ดนางฟ้าและเห็ดเป่าฮื้อ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ อย่างเช่น โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, โปแทสเซียม, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2 ฯลฯ มีสรรพคุณช่วยลดน้ำหนักได้ดีทีเดียว

6. เห็ดเป่าฮื้อ
เห็ดเป่าฮื้อประกอบไปด้วย โปรตีน, ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, ไนอะซิน, ธาตุเหล็ก และวิตามินต่างๆ สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือด, ป้องกันท้องผูก รวมไปถึงช่วยป้องกันมะเร็ง

7. เห็ดกระดุม หรือ เห็ดแชมปิญอง
เห็ดที่มีแคลอรี่ต่ำมาก 100 กรัมให้พลังงานเพียง 16 กิโลแคลอรี่เท่านั้นเอง ในเห็ดดังกล่าวนี้ประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน, ใยอาหาร, โปรตีน, แคลเซียม ฯลฯ ซึ่งเห็ดกระดุมหรือเห็ดแชมปิญองก็มีสรรพคุณลดไขมันในเส้นเลือดได้ไม่ต่างจากเห็ดชนิดอื่น ๆ อีกทั้งยังเป็นเห็ดที่เหมาะกับผู้หญิงอย่างมากเพราะสามารถช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านม แถมยังมีสารเลนติแนน Lentinan ที่สามารถต่อต้าน เนื้องอกและมะเร็งได้อีกหลายชนิดเลยทีเดียว

8. เห็ดหูหนู
เห็ดที่สามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดนิยมนำมาประกอบอาหารหลากหลาย ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดไขมันในเลือด ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูงเหมาะอย่างยิ่งกับเห็ดชนิดนี้

9. เห็ดยานางิ หรือ เห็ดโคนญี่ปุ่น
เป็นเห็ดอีกหนึ่งชนิดที่มีรสชาติอร่อย มีสรรพคุณเด่นคือลดไขมันและคลอเลสเตอรอลในเลือด แถมยังสามารถล้างพิษในตับและป้องกันมะเร็งได้อีกด้วย

10. เห็ดเข็มทอง
สุดยอดเห็ดที่มีเส้นใยอาหารสูงและเป็นที่นิยมของคนรักสุขภาพ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดไขมัน, ลดอาการท้องผูก, ลดน้ำหนัก ฯลฯ

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

អញ-กู ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

image

ภาษาเขมร : អញ
อ่านว่า : อังญ์
แปลว่า : กู
អានថា : គូ
ภาษาอังกฤษ : I, me (impolite)
Listen :

ตัวอย่าง : ឃើញអញស្ងាត់កុំគិតថាអញល្ងង់
อ่านว่า : เคิงญ์ อังญ์ สงัด กม ทา อังญ์ ละงง
แปลว่า : เห็นกูเงียบใช่ว่ากูโง่
អានថា : ហ៊េន់ គូ ងៀប់ ឆៃ់ វ៉ា កូ ង៉ូ

By Admin: Ny Rithy

ล้างพิษด้วยถั่วเขียว

image

ล้างพิษด้วยถั่วเขียว สรรพคุณ ดับร้อน ถอนพิษไข้
ขับปัสสาวะ แก้อาการอาหารเป็นพิษ หรือตัดพิษจากสมุนไพร ป้องกันโรคความดันโลหิตสูง มีประโชน์ต่อตับ (ธาตไม้) แก้ร้อนใน ถอนพิษจากพืชและสารหนู บำรุงสายตา ลดความดันโลหิต รักษาอาการกระหายน้ำ ลำไส้อักเสบ เบาหวาน ช่วยกระตุ้นประสาท โดยมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และแคโรทีนเป็นส่วนประกอบ

กรณีใช้ถอนพิษจากพืช และสารหนู ให้นำถั่วเขียวล้างให้สะอาด นำไปต้มกับน้ำประมาณ ๕-๑๐ นาที แล้วเทเอาน้ำถั่วเขียวให้ผู้ที่ได้รับพิษดื่มเข้าไปมากๆ จนอาเจียนออกมายิ่งดี จะช่วยขับพิษที่เข้าไปในร่างกายได้ดีมาก

ส่วนสารพิษจากยาฆ่าแมลง สารพิษจากโรงงาน สารพิษกลุ่มนี้มันแพ้ถั่วเขียว การกินถั่วเขียวสามารถล้างสารพิษของยาฆ่าแมลงได้ แล้วก็ค้นพบอีกว่า ถั่วเขียวต้มธรรมดามันไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ วิธีที่จะทำให้ถั่วเขียวแรงกว่าเดิมและขจัดสารพิษจากยาฆ่าแมลงได้คือ เอาไปต้มกับข้าวหรือ เอาไปหุงพร้อมกันกับข้าวแค่นี้ง่ายมาก

ใช้ถั่วเขียว 1 ส่วน ข้าว 1 ส่วน ต้มด้วยกันให้เป็นข้าวต้ม หรือไปหุงกับข้าวโดยเอาถั่วเขียวไปแช่น้ำก่อน ๑ คืนแล้วน้ำไปหุงพร้อมกับข้าวสาร ข้าวต้มถั่วเขียวและข้าวสวยใส่ถั่วเขียว กินล้างสารพิษของยาฆ่าแมลงได้

ข้าวต้มถั่วเขียวใช้ ข้าวเจ้า 1 ส่วน + ถั่วเขียว 1 ส่วน ต้มด้วยกัน กลายเป็นข้าวต้มอร่อย แทบไม่ต้องกินกับข้าวเลยนะสูตรนี้ ส่วนจะกินกับข้าวอะไรก็ได้ ก็ทำเป็นข้าวต้มธรรมดา ใครจะกินเป็นประจำก็จะล้าง สารพิษจากยาฆ่าแมลง และสารพิษจากโรงงาน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : สมาคมเภสัชและอายุรเวชโบราณแห่งประเทศไทย

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ประโยชน์ของถั่วเขียว
1.โพแทสเซียมช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อในร่างกายให้แข็งแรง
2.ถั่วเขียวมีสารต้านเอนไซม์โปรตีเอสในปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ในการต่อต้านมะเร็ง
3.ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันและรักษาไข้หวัด
4.ถั่วเขียวอุดมไปด้วยแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยในการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ช่วยผลิตโปรตีน และกาดหดตัวข้องกล้ามเนื้อ
5.ช่วยลดความดันโลหิต
6.ช่วยทำให้เจริญอาหาร
7.ช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอล ช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด ควบคุมน้ำหนักได้ เพราะถั่วเขียวมีส่วนประกอบของไขมันที่ต่ำมาก ไม่มีคอเลสเตอรอล และยังอุดมไปด้วยโปรตีนกับเส้นใยอาหาร
8.ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
9.ถั่วเขียวมีฤทธิ์เย็น ออกฤทธิ์ตามเส้นลมปราณของหัวใจและม้าม
10.ถั่วเขียวอุดมไปด้วยธาตุเหล็กซึ่งจำเป็นสำหรับการสร้างเม็ดเลือดแดงในร่างกาย
11.ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและเบาหวานได้
12.ถั่วเขียวอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง และยังช่วยป้องกันและรักษาโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย
13.ช่วยขับร้อน แก้อาการร้อนใน และช่วยแก้พิษในฤดูร้อน
14.ถั่วเขียวมีประโยชน์ต่อลำคอและผิวหนัง และยังช่วยแก้อาการกระหายน้ำได้อีกด้วย
15.เมล็ดถั่วเขียวนำมาต้มกับเกลือ ใช้อมเพื่อรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้
16.ช่วยถอนพิษในร่างกาย
17.ช่วยกระตุ้นประสาท ถั่วเขียวเป็นแหล่งสำคัญของธาตุโบรอน (Boron) ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการส่งกระแสประสาทของสมอง ทำให้ช่วยสมองทำงานได้ฉับไวมากขึ้น และยังอุดมไปด้วยฟอสฟอสรัส ที่ช่วยบำรุงเซลล์ประสาทและสมอง[4]
18.ช่วยบำรุงสายตา ทำให้ตาสว่าง และรักษาตาอักเสบ (เปลือกสีเขียว)[9] ช่วยแก้อาการตาพร่า ตาอักเสบ ด้วยการรับประทานถั่วเขียวต้มครั้งละ 15-20 กรัมเป็นประจำ
19.ช่วยรักษาคางทูมที่เป็นใหม่ๆ ด้วยการต้มถั่วเขียว 70 กรัมจนใกล้สุก แล้วใส่แกนกะหล่ำปลีลงไป / หัวต้มอีก 15 นาที กินเฉพาะน้ำวันละ 2 ครั้ง
20.ช่วยแก้อาการอาเจียนจากการดื่มเหล้า ด้วยการดื่มน้ำถั่วเขียวพอประมาณ
21.ช่วยขับของเหลวในร่างกาย
22.ในถั่วเขียวอุดมไปด้วยเส้นใยที่สามารถละลายน้ำได้ดี จึงช่วยในขบวนการทำความสะอาดของร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ
23.ถั่วเขียวอุดมไปด้วยวิตามินบี2 ที่ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอกได้
24.ถั่วเขียวมีเส้นใยอาหารสูงจึงช่วยในการขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และยังส่งผลดีต่อระบบลำไส้โดยรวมอีกด้วย
25.เมล็ดถั่วเขียวนำมาต้มแล้วกินใช้เป็นยาขับปัสสาวะ
26.ช่วยแก้ลำไส้อักเสบ
27.ช่วยบำรุงตับ
28.ช่วยแก้อาการไตอักเสบ
29.ช่วยแก้ผดผื่นคัน
30.ช่วยลดบวม
31.ช่วยรักษาโรคข้อต่างๆ แก้ขัดข้อ
32.ช่วยรักษาฝี ด้วยการใช้ถั่วเขียวดิบหรือต้มสุก นำมาใช้ตำแล้วพอกเป็นยารักษาภายนอกช่วยในการบ่มหนองให้ฝีกสุก และยังใช้รักษาอาการอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น แก้ท้องร่วง การคลอดบุตรยาก และโรคท้องมาน[8],[9]
33.นำมาใช้ตำพอกแผล
34.ช่วยแก้พิษจากพืช พิษจากสารหนู และพิษอื่นๆ
35.ถั่วเขียวอุดมไปด้วยวิตามินบี1 ที่ช่วยในการป้องกันโรคเหน็บชาได้เป็นอย่างดี
36.ถั่วเขียวอุดมไปด้วยโฟเลทสูง ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพราะช่วยป้องกันการพิการแต่กำเนิดของทารกได้

ขอบคุณข้อมูลจาก : นานาสาระเพื่อสุขภาพที่ดี