គណិតវិទ្យា-คณิตศาสตร์ ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

cover-lesson-plan-1211ภาษาเขมร : គណិតវិទ្យា
อ่านว่า : เกียะเน็ดวิทะเยีย
แปลว่า : คณิตศาตร์
អានថា : ខៈណីត់សាត
English : Mathmatics

ตัวอย่าง : គណិតវិទ្យាជាមុខវិជ្ជាដែលខ្ញុំចូលចិត្តលំដាប់ទី ២ បន្ទាប់ពីភាសាខ្មែរ។
อ่านว่า : អានត-อ่านต่อ

ផ្លែសង្ឃ័រ-ลูกเล็บแมว ภาษาเขมร วันละคำ រៀនភាសាថៃ


ภาษาเขมร: ផ្លែសង្ឃ័រ
อ่านว่า: พแล ซ็องคอร์
แปลว่า: ลูกเล็บแมว
អានថា: លូកឡេប់មែវ

ตัวอย่าง: អ្នកណាធ្លាប់ហូបផ្លែសង្ឃ័រលើកដៃ។
อ่านว่า: : អានត-อ่านต่อ

ประโยคไว้พูดเวลาไม่เข้าใจฝรั่ง อย่าตอบ yes หรือ no

ประโยคไว้พูดเวลาไม่เข้าใจฝรั่ง อย่าตอบ yes หรือ no ทั้งๆที่ไม่รู้ความหมาย และอย่า again please ถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งๆ ที่แปลไม่ออก ให้ใช้ประโยคพวกนี้ถามเอานะคร้าบ
​อาจเริ่มพูดประโยคนี้ก่อนได้ “Excuse me, I don’t understand. My English isn’t very good.” (ขอโทษนะ ฉันไม่เข้าใจ ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง) แล้วลองใช้ประโยคต่อไปนี้!

1. Can you repeat that please? Can you repeat your question please? (ให้พูดซ้ำ)

2. Can you spell that word please? How do you spell that? (ให้สะกดให้)

3. What do you mean? What does that word mean? (ให้อธิบายเพิ่ม)

4. How do you say that word? (ให้พูดคำนั้นใหม่)

5. Can you explain that again please? (ให้อธิบายอีกที)

6. Can you speak slowly please? Can you slow down please? (ให้พูดช้าๆ)

7. Can you use simple English please? (ให้ใช้ภาษาง่ายๆ)

8. Can you speak louder please? Can you speak up please? (ให้พูดดังๆ)

9. Can you speak Thai? (พูดไทยได้มั้ย)

ចានស្រាក់-ปิ่นโต ภาษาเขมร วันละคำ រៀនភាសាថៃ

ภาษาเขมร: ចានស្រាក់
อ่านว่า: จานสระ
แปลว่า: ปิ่นโต
អានថា: ពីន់ តូ
ภาษาอังกฤษ:food carrier

ตัวอย่าง: ខ្ញុំហូបបាយចានស្រាក់រាល់ថ្ងៃ។
อ่านว่า: : អានត-อ่านต่อ

เรื่องนี้สำหรับ “คอกาแฟ”

คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่ชอบดื่มกาแฟ ถ้าใช่ … แล้วรู้ไหมล่ะครับว่า “กาแฟ” ดีหรือไม่ดีกับสุขภาพอย่างไร

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบดื่มกาแฟ ไม่ว่าจะตอนเช้า ๆ ที่บ้าน หรือช่วง “พักเบรก” เวลาที่ไปอบรมสัมมนารายการต่าง ๆ ของที่ทำงาน แต่เชื่อไหม ทั้งที่ชอบดื่ม ผมก็ไม่เคยรู้ว่า “กาแฟ” ดีหรือไม่ดีต่อสุขภาพอย่างไร

จนกระทั่งไปพบข้อมูลที่น่าสนใจหลายประเด็น ที่อดใจไม่ได้ ต้องนำมาเล่าสู่กันฟังกับ “คอกาแฟ” ไว้ ณ ที่นี้

1. การดื่มกาแฟ ทำให้เส้นเลือดใหญ่ในร่างกายของผู้ดื่ม มีความแข็งแรงมากกว่าผู้ไม่ดื่ม

2. การดื่มกาแฟ ช่วยป้องกันความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งสำไส้ใหญ่

3. การดื่มกาแฟ ช่วยให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า 1299 มิลลิกรัม ในขณะที่เครื่องดื่มอย่างเช่น ชา มีสารต้านอนุมูลอิสระเพียง 294 มิลลิกรัม

4. การดื่มกาแฟจำนวน 2-3 แก้วต่อวัน จะลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ

5. การดื่มกาแฟ ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเป็นเบาหวานเพราะในกาแฟมีสารประกอบที่เรียกว่า “ควินิน” ที่ช่วยให้ร่างกายผลิตสารอินซูลินได้ดีขึ้น

6. การดื่มกาแฟ จะช่วยลดอัตราการเกิดภาวะความจำเสื่อม ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่พึงปรารถนา

7. การดื่มกาแฟเป็นประจำ จะช่วยลดการจับตัวของคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ในกาแฟมี “นิโคติน” ซึ่งเป็นวิตามินบีรวมชนิดหนึ่ง (คนละชนิดกับนิโคตินในบุหรี่) กาแฟจึงช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดแข็งตัว

8. การดื่มกาแฟจะช่วยลดความอ้วนได้ เพราะกาแฟช่วยละลายไขมัน การดื่มกาแฟหลังจากอิ่มจากอาหาร จะช่วยให้ไขมันแตกตัว และให้พลังงาน

9. การดื่มกาแฟ 1 แก้วต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็น “ตับแข็ง” ได้ถึง 20% และหากดื่ม 4 แก้วต่อวัน จะช่วยลดอัตราเสี่ยงได้ถึง 80% 

10. การดื่มกาแฟจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นนิ่วในถุงน้ำดี โดยเฉพาะผู้ดื่มกาแฟอย่างน้อย 2 แก้วต่อวัน

11. การดื่มกาแฟจะช่วยปรับสีผิวของเรา ช่วยลดริ้วรอยและทำให้ผิวหนังของผู้ดื่มเรียบเนียนขึ้นด้วย

 แหม….ประโยชน์ข้อนี้ คุณผู้หญิงถึงกับตาลุกเลยใช่ไหมล่ะ

12. การดื่มกาแฟช่วยลดอาการของการเกิดโรคหืด และสามารถกำจัดโรคหืดในผู้ป่วยบางคน

13. การดื่มกาแฟช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อลูกหมาก

14. การดื่มกาแฟช่วยลดอาการปวดศีรษะ โดยเฉพาะโรคไมเกรนโดยคาเฟอีนในกาแฟ จะสามารถช่วยลดอาการปวดหัวได้ถึง 40%

15. การดื่มกาแฟจะช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อภายหลังออกกำลังกายได้ถึง 58% แต่ต้องดื่มอย่างน้อยวันละ 2 แก้ว

16. การดื่มกาแฟจะช่วยคลายความเครียด และทำให้อารมณ์แจ่มใส ซี่งเท่ากับช่วยแก้โรคซึมเศร้าให้ผู้ดื่ม

17. การดื่มกาแฟช่วยป้องกันฟันผุ ทั้งนี้เพราะในกาแฟมีสารประกอบที่ทำให้กาแฟมีกลิ่นหอม และรสขม ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพช่วยในการป้องกันแบคทีเรีย และการก่อตัวของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคฟันผุ

18. การดื่มกาแฟเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมอง และสมรรถภาพสมอง ผู้รู้บอกว่า ความหอมของกาแฟจะช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้เร็วขึ้น มีสมาธิมากขึ้น และมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น

19. การดื่มกาแฟจะช่วยให้ไม่ง่วง และเกิดความรู้สึกตื่นตัว กระฉับกระเฉง และช่วยลดความรู้สึกหนาว เนื่องจากในกาแฟมีสารคาเฟอีน

20. การดื่มกาแฟเป็นประจำ จะช่วยไล่ความชรา กาแฟที่เข้มข้นจะทำให้ออกไซด์แตกตัวกระตุ้นการเผาผลาญในร่างกายของผู้ดื่ม คุณสมบัติข้อนี้ของกาแฟ จึงเหมาะกับคนที่กลัวความแก่

 อ่านมาถึงตรงนี้ หลายท่านคงสังเกตเห็นแล้วว่า จำนวนการดื่มหรือปริมาณการดื่ม มีผลต่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของแต่ละคน ตั้งแต่ 1 แก้ว 2 แก้ว หรือ 4  แก้ว ซึ่งผู้รู้บอกว่า สารประกอบที่อยู่ในกาแฟ จะส่งผลกับแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ ความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายของแต่ละคน

 แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงอย่างยิ่งที่ผู้รู้เตือนไว้ก็คือ พฤติกรรมในการดื่มกาแฟของคุณ เช่น คุณได้มีการปรุงรสกาแฟโดยการเติมน้ำตาล ครีม นมข้นหวาน ลงใปในปริมาณที่มากเกินไปหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ ต้องมี “ความพอดี” การดื่มกาแฟของคุณจึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง

 ระวังอย่าให้ “เครื่องปรุงรส” กาแฟของคุณมาทำให้การดื่มกาแฟได้รับประโยชน์น้อยลงหรือเสียไป โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

 อ่านข้อเขียนเช่นนี้ หลายคนคงเลิกตะขิดตะขวงใจกันแล้วใช่ไหมว่า ทำไม “คอกาแฟ” จึงดื่มกาแฟกันแบบดื่มได้ดื่มดี 

 ประเภทว่างไม่ได้ เรียกหา “กาแฟ” ทันที จบนะ…ไปหา “กาแฟ” มาดื่มสักถ้วยดีกว่า

โดย มานพ    แก้วสนิท   (บทความในหนังสือ ต่วย ตูน)

អាជ្ញាកណ្ដាលខ្សែបន្ទាត់-ไลน์แมน ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

ภาษาเขมร : អាជ្ញាកណ្ដាលខ្សែបន្ទាត់
อ่านว่า: อาจ ญา ก็อนดาล คฺแซ บ็อนต็อด
แปลว่า: ไลน์แมน
អានថា: ឡាយមែន
ภาษาอังกฤษ: Lineman

ตัวอย่าง: អាជ្ញាកណ្ដាលខ្សែបន្ទាត់វ័យក្មេង
อ่านว่า: : អានត-อ่านต่อ

វិកាយប័ត្រ-ใบเสร็จ ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

ภาษาเขมร: វិកាយប័ត្រ
อ่านว่า: วิกายะบัตร
แปลว่า: ใบเสร็จ
អានថា: បៃ សេត់
ภาษาอังกฤษ:  receipt,  invoice

ตัวอย่าง: ម្សិលម្ង៉ៃបង់ថ្លៃវិកាយប័ត្រអស់ច្រើនណាស់។
อ่านว่า: :

អានត-อ่านต่อ

រូបវិទ្យា-ฟิสิกส์ ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

រូបវិទ្យា

រូបវិទ្យា

ภาษาเขมร : រូបវិទ្យា
อ่านว่า : รูปวิดทะเยีย
แปลว่า : ฟิสิกส์
អានថា : ហ្វិស៊ីក់
English : Phisics

ตัวอย่าง : ខ្ញុំមិនសូវចូលចិត្តរូបវិទ្យាទេ។
อ่านว่า : អានត-อ่านต่อ

អេក្រង់់-จอภาพ ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

ภาษาเขมร : អេក្រង់
อ่านว่า : เอ กร็อง
แปลว่า : จอภาพ
អានថា : ចផាប
English : screen

ตัวอย่าง : ចងបានទូរទស្សន៍អេក្រង់ធំមួយ។
อ่านว่า :

អានត-อ่านต่อ

ក្រ-จน ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

ภาษาเขมร: ក្រ
อ่านว่า: กรอ
แปลว่า: จน
អានថា: ចុន, ជន់
ภาษาอังกฤษ: Poor

ตัวอย่าง: យើងក្រគេមិនសូវមើលឃើញទេ
อ่านว่า: :

អានត-อ่านต่อ

អបអរព្រះរាជពិធីគ្រងរាជសម្បត្តិព្រះមហាក្សត្រ ព្រះករុណព្រះបាទសម្តេច​ ព្រះបរមនាថ នរោត្តម សីហមុនី

​អបអរព្រះរាជពិធីគ្រងរាជសម្បត្តិព្រះមហាក្សត្រ ព្រះករុណព្រះបាទសម្តេច​ ព្រះបរមនាថ នរោត្តម សីហមុនី

60 คำสอนของพ่อ

1. ลูกจงจำไว้ว่า… การไม่ต่อสู้ในบางกรณี กลับเป็นวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ กว่าการต่อสู้ อย่างเอาเป็นเอาตาย
2. ลูกจงอย่าเลือกของที่ชอบ ด้วยความอยากของลูก แต่จงเลือกด้วยสติปัญญา และพิจารณาถึงประโยชน์ และโทษของมันเสียก่อน

3. ลูกจงอย่าโกรธคนไม่ดี ที่จริงเขาก็อยากดีเหมือนกัน แต่เขาไม่เข้าใจว่า อะไรเป็นความดี…อะไรคือไม่ดี

4. ลูกจะตำหนิ ติเตียนใคร ก็จงดูตนเองเสียก่อน อย่าให้เขาย้อนว่าเราได้

5. ลูกจะเห็นว่า ผู้มีสัมมาคาระวะ จะพบแต่ความเจริญ การอ่อนน้อม เป็นคุณสมบัติของสุภาพบุรุษ การยกมือไหว้ผู้อื่นได้ คือการทำลาย ตัวกู-ของกู

6. ลูกพ่อต้องเป็นคนแข็งแรง…ไม่แข็งกระด้าง ลูกพ่อต้องเป็นคนเรียบง่าย…ไม่มักง่าย ลูกพ่อต้องเป็นคนอ่อนโยน..ไม่อ่อนแอ

7. ลูกของพ่อ..คล่องแคล่วว่องไว เป็นปัจจัยแห่งความก้าวหน้าของครอบครัว

8. เงินทองที่ลูกมี ยิ่งใช้ยิ่งหมดไป ปัญญาที่ลูกหาได้ยิ่งใช้ยิ่งเพิ่มพูน

9. ถ้าลูกทำเด่น จะถูกคนเขาเขม่นและสมน้ำหน้า ลูกจะพลาดท่าลงมา..เพราะความอยากเด่นอยากดัง

10. ลูกจงจำไว้ว่า เงินทองเป็นของนอกกาย พ่อ แม่ สุขใจ เมื่อพี่น้องรักกัน

11. ลูกจงโอนอ่อนผ่อนตามอย่างฉลาดและสุขุม การพ่ายแพ้ด้วยศิลปะ ดีกว่าการชนะด้วยอารมณ์

12. ความกล้าหาญต้องประกอบด้วยสติปัญญา ถ้าลูกกล้าโดยไม่มีสติปัญญา เขาเรียกว่าคนบ้าบิ่น

13. ลูกต้องทำทุกอย่างด้วยความสุจริต เมื่อสุจริต จิตผ่องใส เมื่อทุจริต จิตหมองไหม้

14. ทรัพย์สมบัติ ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่พ่อแม่จะให้แก่ลูก ความรู้และความประพฤติดีเท่านั้นที่พ่อแม่ควรมอบให้แก่ลูก…อันเป็นที่รัก

15. ลูกหลีกทางให้เขา ก็คือหลีกทางให้เราหลุดพ้นจากอันตราย ในที่สุดก็จะได้รับผลดีด้วยกัน ทั้งเขาและเรา

16. ปลายทางสุดท้ายของความไม่พอ คือ…ความทุกข์

17. ลูกจงจำไว้ว่า…ผู้ที่ไม่มีใครให้อภัยผู้อื่น คือผู้อ่อนแอทางจิตใจ การให้อภัยศัตรู คือการ สร้างมิตร

18. ถ้าผู้อื่นหลอกเรา เรารู้ง่ายและแก้ไขได้ง่าย แต่ถ้าเราหลอกตัวลูกเอง รู้ยาก แก้ไขได้ยาก

19. ลูกควรจำสิ่งที่ควรจำ ลืมสิ่งที่ควรลืม ทำสิ่งที่ควรทำ และต้องรู้ว่า สิ่งใดควรทำก่อน สิ่งใดควรทำทีหลัง

20. เมื่อลูกสังเกตดู จะพบว่าภายหลังเสียงหัวเราะ จะมีน้ำตา ภายหลังเสียน้ำตา จะเห็นแสงธรรม คือความจริงของชีวิต

learn2

21. หกล้มเพราะก้าวเดินไปข้างหน้า ยังดีกว่าลูกยืนเต๊ะท่าอยู่กับที่ เพราะถ้าลูกยืนไม่ดี…ก็จักมีคนมาถีบให้ล้มอยู่ดี

22. ลูกจงหาความสุขกับปัจจุบัน อย่าใฝ่ฝันถึงอนาคต อย่าหมกอยู่กับอดีต จะทุกข์

23. โชค…เข้าข้างผู้ที่มีความอ่อนน้อมเสมอ ถ้าลูกเป็นผู้น้อยที่นอบน้อมผู้ใหญ่ ใคร ๆ ก็รัก ถ้าลูกเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจผู้น้อย ผู้น้อยก็มีความภักดี

24. ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยากำลัง ขอให้ลูกคิดอยู่เสมอว่า ถ้ามีสิ่งใดในโลก ที่ผู้อื่นทำได้ ไม่มีเหตุผลอะไร ที่เราจะทำไม่ได้

25. ความโศกเศร้าเสียใจ มิได้ทำให้ใครได้รับประโยชน์อะไร นอกจากทำให้ศัตรูของเราดีใจและสมน้ำหน้า

26. เมื่อพบภัยที่อยู่ข้างหน้า จงหนีเข้าหาพระดีกว่าหนีเข้าหาโจร ซึ่งโจรจักฉกฉวยโอกาสเอาจากเราเสมอ…อย่างคาดไม่ถึง

27. คนเรามีความโลภทุกคน ถ้าโลภมาก…ก็จะทุกข์มาก ถ้าโลภน้อย…ก็จะทุกข์น้อย ถ้าไม่โลภ…ก็จะไม่ทุกข์

28. ถ้าลูกประพฤติดี ลูกก็จะพบกับคนประพฤติดี ถ้าลูกประพฤติชั่ว ลูกก็จะพบกับคนประพฤติชั่ว ขอให้ลูกเลือกคบให้ถูกต้องเถิด ลูกจักเป็นคนที่โชคดี

29. ลูกอย่ากลัวไปเลยว่า จะได้แต่งงานกับคนไม่ดี ถ้าลูกไม่สูบ ไม่ดื่ม ไม่เล่น ไม่เที่ยว ลูกก็จะพบคู่ครองที่ไม่สูบ ไม่ดื่ม ไม่เล่น ไม่เที่ยวเช่นกัน

30. ไม่ว่าคนหรือสัตว์ ต้องการคำอ่อนหวาน ลูกก็เช่นกัน ควรพูดคำอ่อนหวานแก่ผู้อื่น เมื่อลูกอ่อนหวานแก่ผู้อื่น ผู้อื่นก็จะอ่อนหวานกับลูก

31. ลืมอะไรก็ลืมได้ แต่อย่าลืมตัว เสียอะไรก็เสียได้ แต่อย่าเสียคน ผิดอะไรก็ผิดได้ แต่อย่าผิดศีลธรรม

32. ลูกจงจำไว้ว่า… ศัตรูวันนี้ อาจเป็นมิตรในวันหน้า เพราะฉะนั้น อย่าทำอะไรเขารุนแรงและเกินเลย

33. ลูกจงสนุกกับการใช้เงิน และพร้อมกันนั้น ลูกต้องสนุกกับการเก็บรักษาเงินด้วย และยิ่งกว่านั้น ต้องสนุกกับการหาเงินอย่างไม่เป็นทุกข์ คือหาด้วยความถูกต้อง

34. การกระทำของลูก บางครั้งยังไม่ถูกใจตนเอง แล้วจะให้คนอื่นทำถูกใจเราเสมอไป ได้อย่างไร คิดแค่นี้ลูกก็จะไม่โกรธคนอื่น

35. ถ้าลูกกล้าอย่างถูกต้อง ก็จะเป็นผู้ฉลาด ถ้าลูกกล้าอย่างบ้าบิ่น ก็จะเป็นคนโง่ ขอให้ลูกจงกล้าหาญ อย่างชาญฉลาด

36. บาปและบุญทั้งปวงที่ลูกกำลังทำในขณะนี้ สักวันหนึ่งจักรวมตัวกันมาสนองแก่ลูก สิ่งที่ลูกได้รับอยู่ทุกวันนี้ เป็นผลจากการกระทำของลูกทั้งสิ้น

37. ลูกจงจำไว้ว่า… ธรรมชาติไม่เคยให้อภัยใคร ใครทำอย่างใด ต้องได้รับอย่างนั้น แต่ธรรมชาติก็ให้โอกาสทุกคนเสมอ แต่คนเรา…โดยส่วนมาก ไม่ค่อยยอมรับโอกาสนั้น

38. เมื่อมีปัญหา แก้ให้ถูกจุด จักพ้นทุกข์เร็ว

อย่าเป็นเช่นคุณยายแก่ ๆ มองหาเข็มที่เสาไฟ เพราะมีแสงสว่าง

แต่หาเท่าใดก็ไม่พบ เพราะเหตุว่าแก้ปัญหาไม่ถูกจุด

เข็มหายในบ้าน แล้วมาหานอกบ้าน เพียงเพราะในบ้านไม่มีแสงไฟฟ้า…

น่าขันไหมล่ะ

39. ลูกจงจำไว้ว่า คนเห็นแก่เงิน คบยาก

คนเห็นแก่งาน คบง่าย

คนเห็นแก่ผู้อื่น คบสบาย

40. ถ้าลูกปรารถนาให้ผู้อื่นรัก ลูกต้องทำตัวให้น่ารัก ลูกจึงจะเป็นที่รักของผู้อื่น

41. ไม้ล้มข้ามได้ คนล้มอย่าข้าม สำคัญที่สุด…ลูกอย่าข้ามตัวเอง

42. ผู้กล้าหาญ คือผู้ที่สามารถบังคับตัวเองได้ ถ้าลูกจักปลูกต้นไม้ ต้องบำรุงรากแต่ถ้าจะปลูกจิตใจ ต้องบำรุงด้วยศีล ด้วยธรรม

43. ลูกเกิดเป็นคนแล้ว ต้องพยายามทำดีที่สุด เมื่อทำดีที่สุดแล้ว นอกนั้นแล้วแต่ฟ้าลิขิต โบราณว่า ลิขิตเป็นของฟ้า ( ผลของการกระทำ ) ชะตาเป็นของคน ( การกระทำของตัวเอง )

44. ลูกควรจะยอมผิดใจกับคนสุภาพชน แต่อย่าผิดใจกับคนพาล จะเดือดร้อนอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง

45. การไม่ระวังการใช้จ่าย เล็ก ๆ น้อย ๆ อาจทำให้ล่มจมได้ ดังเช่นเรือมีรูรั่วเล็กๆ อาจทำให้เรือใหญ่จมได้

46. โรคภัยทางร่างกาย จะเข้ามาทางปาก ภัยพิบัติ ก็จะออกจากปากของเราเช่นกัน เมื่อลูกจะพูดสิ่งใด จงพิจารณาให้ดีๆ

47. การโกรธ เป็นวิสัยของปุถุชน การให้อภัย เป็นวิสัยของบัณฑิต ลูกพ่อจะเป็นบัณฑิต จึงต้องฝึกการให้อภัย ด้วยความมีเมตตา เพราะเมตตาแก้ความโกรธได้

48. การเดินทางหมื่นลี้ต้องมีก้าวแรก ยามลูกมีอำนาจ จงอย่าเหลิงอำนาจ ยามลูกมีความสุขก็อย่างหลงระเริง ระวังความทุกข์จักตามมา

49. ถ้าลูกให้เงินเพื่อนยืม…ระวังจะเสียเงิน…จะเสียเพื่อน…จะเสียใจ เพราะฉะนั้นลูกอย่าให้เงินใครยืม ถ้ามีก็ให้เขาไปเลย

50. ถ้าลูกระแวงสงสัยใครแล้ว ลูกอย่าทำธุรกิจร่วมกัน เพราะจะมีแต่ระแวงกัน การงานไม่ราบรื่น ความทุกข์จะเข้ามาในจิตใจลูก

51. เรือที่ออกทะเล ปฏิเสธคลื่นลมไม่ได้ ฉันใด ชีวิตของลูก ปฏิเสธอุปสรรคไม่ได้ ฉันนั้น

52. ลูกสังเกตดูจักรู้ว่า ผู้เป็นคนดี มักอ่อนน้อมถ่อมตน

ผู้โง่เขลามักหยิ่งยโส ทะนงตน

คนโง่มักอวดตัวว่าฉลาด หรือยากให้คนอื่นรู้ว่าฉลาด จึงโอ้อวด คุยเบ่ง ทับถมคนอื่น

ส่วนคนฉลาดมักไม่อวดตัว จักเป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตน ไม่หยิ่งยโส ไม่โอหัง และชอบประกาศความดีของผู้อื่น

53. แมลงผึ้ง ชอบของหอมของหวาน แมลงวัน ชอบของเหม็นของเน่าเสีย

ถ้าลูกชอบสิ่งที่ไม่ดี คบคนไม่ดี คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี ไปสู่สถานที่ไม่ดีแล้ว

ลูกก็จะเปรียบเช่นแมลงวัน ซึ่งไม่มีใครชอบหรืออยากจะให้ความรัก

แต่ถ้าลูกคิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี และไปแต่เฉพาะที่ดี

ลูกก็เป็นเช่นแมลงผึ้ง คนดีใคร ๆ ก็อยากคบด้วย

ถ้าลูกเป็นแมลงผึ้ง ลูกก็จะได้พบกับดอกไม้

ถ้าลูกเป็นแมลงวัน ลูกก็จะได้พบกับของเน่าเหม็น

คำโบราณว่าไว้

ขี้เกียจ เป็นแมลงวัน

ขยัน เป็นแมงผึ้ง

54. ผู้ที่รู้จักประมาณตน เป็นคนฉลาด ลูกควรใช้จ่ายตามฐานะ ลูกจักไม่ขัดสนตลอดไป

55. ถ้าลูกมีความพากเพียรและถ่อมตนแล้ว ภายใต้ท้องฟ้า…ลูกของพ่อจักทำได้ทุกสิ่ง ธรรมะสอนไว้ว่า คนล่วงทุกข์ได้ เพราะความเพียร

56. ถ้าลูกทำงานด้วยความรีบร้อน ร้อนรน มักทำความผิดพลาด มาให้ลูกเสมอ ลูกต้องทำด้วยความรวดเร็ว แบบมีสติ จึงจะประสบความสำเร็จได้อย่างถูกต้องและราบรื่น

57. การนินทาและว่าร้ายต่อผู้อื่น… มันเจ็บปวดมากว่ามีดที่กรีดเนื้อเขา มากมายหลายเท่านัก เมื่อลูกเข้าใจอย่างนี้แล้ว อย่านินทา อย่าว่าร้ายผู้อื่นเลย เพราะเมื่อเขาเจ็บปวดเพราะคำพูดของเราแล้ว เขาก็สามารถทำความผิดกับเราได้ เราก็เดือดร้อน

58. คนขี้เกียจ มักอ้างว่า ยังไม่ต้องทำ

เพราะเช้าไป เพราะเย็นไป

เพราะร้อนไป เพราะหนาวไป

เพราะฝนตก เพราะแดดออก

ถ้าลูกอ้างอย่างนี้ จะทำอะไรก็จะไม่สำเร็จ

59. ในสมัยนี้ ใครก็ชอบแต่ของดี ๆ แต่ไม่รู้ว่า อย่างไรถึงจะดี จึงขอเตือนว่า

ลูกของพ่อ…อย่าดีแต่จะคิด ลูกต้องคิดแต่ดีดี

ลูกของพ่อ…อย่าดีแต่พูด ลูกต้องพูดดีดี

ลูกของพ่อ…อย่าดีแต่ทำ ลูกต้องทำดีดี

ลูกของพ่อ…อย่าดีแต่จะคบคน ลูกต้องคบคบดีดี

ลูกของพ่อ…ดีแต่จะไป ลูกต้องไปดีดี

ลูกจง คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี ไปสู่สถานที่ดีดี

60. ถ้าลูกละเลยเรื่องเล็กน้อย กระทำผิดเพียงเล็กน้อยในปัจจุบัน ลูกอาจต้องเสียใจอย่างใหญ่หลวง ในภายหน้า

60 เรื่องราวประทับใจของ”พ่อ”

“เข็มแข็งเข้าไว้ชาวไทยทั้งหลาย”

1. ทรง พระราช สมภพ เวลา 08.45 น.

2. นายแพทย์ ผู้ ทำคลอด ชื่อ ดับลิว สจ๊วต วิตมอร์ ทรงมี น้ำหนัก แรก ประสูติ 6 ปอนด์

3. พระนาม ‘ภูมิพล‘ ได้รับ พระ ราชทาน จาก พระบาท สมเด็จ พระ ปกเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาล ที่ 7

4. พระยศ เมื่อแรก ประสูติ คือ พระ วรวงศ์เธอ พระ องค์เจ้า ภูมิพล อดุลยเดช

5. ทรง มีชื่อ เล่น ว่า เล็ก หรือ พระองค์ เล็ก

6. ทรง เคยเป็น ศิษย์เก่า โรงเรียน มาแตร์ เดอี เพราะ ช่วง พระชน มายุ 5 พรรษา ทรงเคย เข้าเรียน ที่ โรงเรียน แห่ง นี้ 1 ปี มี พระนาม ในใบ ลง ทะเบียน ว่า ‘H.H Bhummibol Mahidol’ หมายเลข ประจำตัว 449

7. ทรง เรียก สมเด็จ พระ ราช ชนนี หรือ สมเด็จย่า อย่าง ธรรมดา ว่า ‘แม่‘

8. สมัย ทรง พระเยาว์ ทรงได้ ค่าขนม อาทิตย์ ละครั้ง

9. แม้ จะได้เงิน ค่าขนม ทุก อาทิตย์ แต่ ยังทรง รับจ้าง เก็บ ผัก ผลไม้ ไปขาย เมื่อ ได้เงิน มา ก็นำ ไปซื้อ เมล็ดผัก มาปลูก เพิ่ม

10. สมัย พระเยาว์ ทรง เลี้ยง สัตว์ หลายชนิด ทั้ง สุนัข กระต่าย ไก่ นก ขุนทอง ลิง แม้แต่ งู ก็เคย เลี้ยง ครั้งหนึ่ง งู ตายไป ก็มี พิธี ฝังศพ อย่าง ใหญ่โต

11. สุนัข ตัวแรก ที่ ทรงเลี้ยง สมัย ทรง พระเยาว์ เป็นสุนัข ไทย ทรง ตั้งชื่อ ให้ว่า ‘บ๊อบบี้ ‘

12. ทรง ฉลอง พระเนตร (แว่น สายตา) ตั้งแต่ พระ ชันษา ยัง ไม่เต็ม 10 ขวบ เพราะ ครู ประจำชั้น สังเกต เห็นว่า เวลา จะทรง จดอะไร จาก กระดาน ดำ พระองค์ ต้อง ลุกขึ้น บ่อย ๆ

13. สมัย พระเยาว์ ทรงซน บ้าง หาก สมเด็จย่า จะ ลงโทษ จะ เจรจา กันก่อน ว่า โทษนี้ ควรตี กี่ที ในหลวง จะทรง ต่อ รอง ว่า 3 ที มาก เกินไป 2 ที พอแล้ว

14. ระหว่าง ประทับ อยู่ สวิต เซอร์แลนด์ นั้น ระหว่าง พี่น้อง จะทรง ใช้ภาษา ฝรั่งเศส แต่ จะใช้ ภาษาไทย กับ สมเด็จย่า เสมอ

15. ทรง ได้รับ การอบรม ให้ รู้จัก ‘ การให้ ‘ โดย สมเด็จย่า จะทรง ตั้ง กระป๋อง ออมสิน เรียกว่า ‘กระป๋อง คนจน ‘ เอาไว้ หาก ทรง นำเงิน ไปทำ กิจกรรม แล้ว มีกำไร จะต้อง ถูก ‘เก็บภาษี ‘ หยอดใส่ กระปุก นี้ 10 % ทุก สิ้นเดือน สมเด็จย่า จะเรียก ประชุม เพื่อ ถามว่า จะ เอาเงิน ใน กระป๋อง นี้ ไปทำ อะไร เช่น มอบให้ โรงเรียน สอนคน ตาบอด มอบ ให้ เด็ก กำพร้า หรือ ทำ กิจกรรม เพื่อ คน ยากจน

16. ครั้งหนึ่ง ในหลวง กราบ ทูล สมเด็จย่า ว่า อยากได้ รถ จักรยาน เพราะ เพื่อน คนอื่น ๆ เขามี จักรยาน กัน สมเด็จย่า ก็ ตอบว่า ‘ลูก อยากได้ จักรยาน ลูก ก็ต้อง เก็บ ค่าขนม ไว้สิ หยอด กระป๋อง วันละ เหรียญ ได้มาก ค่อย เอาไป ซื้อ จักรยาน‘

17. กล้อง ถ่ายรูป กล้องแรก ของ ในหลวง คือ Coconet Midget ทรงซื้อ ด้วยเงิน สะสม ส่วน พระองค์ เมื่อ พระชนม์ เพียง 8 พรรษา

18. ช่วงเกิด สงคราม โลก ครั้ง ที่ 2 ทรงปั่น จักรยาน ไป โรงเรียน แทนรถ พระที่นั่ง

19. พระ อัจฉริยภาพ ของ ในหลวง มี พื้นฐาน มาจาก ‘การเล่น ‘ สมัย ทรง พระเยาว์ เพราะ หาก อยากได้ ของเล่น อะไร ต้องทรง เก็บ สตางค์ ซื้อเอง หรือ ประดิษฐ์ เอง ทรง เคยหุ้น ค่าขนม กับ พระเชษฐา ซื้อ ชิ้นส่วน วิทยุ ทีละชิ้น ๆ แล้ว เอามา ประกอบ เอง เป็น วิทยุ แล้วแบ่ง กันฟัง

20. สมเด็จย่า ทรงสอน ให้ ในหลวง รู้จัก การใช้ แผนที่ และ ภูมิ ประเทศ ของไทย โดย โปรดเกล้า ฯ ให้ โรงเรียน เพาะช่าง ทำ แผนที่ ประเทศ ไทย เป็นรูป ตัวต่อ เลื่อย เป็น ชิ้น สี่เหลี่ยม เล็ก ๆ เพื่อให้ ทรงเล่น เป็น จิ๊กซอว์

21.ในหลวง ทรงเครื่อง ดนตรี ได้หลาย ชนิด เช่น เปียโน กีตาร์ แซกโซโฟน แต่ รู้ หรือ ไม่ว่า เครื่อง ดนตรี ชิ้นแรก ที่ทรง หัดเล่น คือ หีบเพลง ( แอกื คอร์เดียน)

22. ทรง สน พระทัย ดนตรี อย่าง จริงจัง ราว พระชนม์ 14 – 15 พรรษา ทรงซื้อ แซก โซโฟน มือสอง ราคา 300 ฟรังก์ มาหัดเล่น โดยใช้ เงินสะสม ส่วน พระองค์ ครึ่งหนึ่ง และอีก ครึ่งหนึ่ง สมเด็จย่า ออกให้

23. ครูสอน ดนตรี ให้ ในหลวง ชื่อ เวย์เบรชท์ เป็นชาว อัลซาส

24.ทรง พระ ราชนิพนธ์ เพลง ครั้งแรก เมื่อ พระชนม พรรษา 18 พรรษา เพลง พระราช นิพนธ์ แรก คือ ‘แสงเทียน ‘ จนถึง ปัจจุบัน พระราช นิพนธ์ เพลงไว้ ทั้งหมด 48 เพลง

25.ทรง พระราช นิพนธ์ เพลง ได้ ทุกแห่ง บางครั้ง ไม่ จำเป็น ต้องใช้ เครื่อง ดนตรี ช่วย อย่าง ครั้งหนึ่ง ทรง เกิดแรง บันดาล พระทัย ทรง ฉวยซอง จดหมาย ตีเส้น 5 เส้น แล้ว เขียนโน้ต ทำนอง เพลง ขึ้น เดี๋ยวนั้น กลายเป็น เพลง ‘เราสู้‘

26. รู้ไหม…? ทรงมี พระ อุปนิสัย สนใจ การ ถ่ายภาพ เหมือนใคร : เหมือน สมเด็จย่า และ รัชกาล ที่ 5

27. นอกจาก ทรงโปรด การ ถ่ายภาพ แล้ว ยังสน พระทัย การถ่าย ภาพยนตร์ ด้วย ทรง เคยนำ ภาพยนตร์ ส่วน พระองค์ ออกฉาย แล้วนำเงิน รายได้ มาสร้าง อาคาร สภา กาชาด ไทย ที่ รพ.จุฬา ฯ รพ. ภูมิพล รวมทั้ง ใช้ ใน โครงการ โรค โปลิโอ และ โรคเรื้อน ด้วย

28. ทรง พระราช นิพนธ์ เรื่อง ‘นายอินทร์ ‘ และ ‘ติโต ‘ ทรง เขียน ด้วยลาย พระหัตถ์ แล้วให้ เสมียนพิมพ์ แต่ ‘พระ มหาชนก‘ ทรงพิมพ์ ลงใน เครื่อง คอม พิวเตอร์

29. ทรงเล่น กีฬา ได้หลาย ชนิด แต่ กีฬา ที่ ทรงโปรด เป็น พิเศษ ได้แก่ แบดมินตัน สกี และ เรือใบ ทรงเคย ได้ เหรียญทอง จากการ แข่งขัน เรือใบ ประเภท โอเค ใน กีฬา แหลมทอง (ต่อมา เปลี่ยนชื่อ เป็น ‘กีฬา ซีเกมส์‘) ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ. 2510

30. ครั้งหนึ่ง ทรง เรือใบ ออก จากฝั่ง ไปได้ ไม่นาน ก็ทรง แล่นกลับ ฝั่ง และตรัส กับ ผู้ที่ คอยมา เฝ้า ฯ ว่า เสด็จ ฯ กลับ เข้าฝั่ง เพราะ เรือแล่น ไปโดน ทุ่นเข้า ซึ่ง ในกติกา การแข่ง เรือใบ ถือว่า ฟาวส์ ทั้ง ๆ ที่ ไม่มี ใครเห็น แสดง ให้เห็น ว่า ทรงยึด กติกา มากแค่ไหน

31. ทรงเป็น พระ มหากษัตริย์ พระองค์ แรก ของโลก ที่ได้รับ สิทธิบัตร ผลงาน ประดิษฐ์ คิดค้น เครื่องกล เติมอากาศ ที่ผิวน้ำ หมุนช้า แบบ ทุ่มลอย หรือ ‘กังหัน ชัยพัฒนา ‘ เมื่อปี 2536

33. ทรงเป็น ผู้ ริเริ่ม การ พัฒนา เชื้อเพลิง น้ำมัน จาก วัสดุ การเกษตร เพื่อใช้ เป็น พลังงาน ทดแทน เช่น แก๊ส โซฮอล์, ดีโซฮอลล์ และ น้ำมัน ปาล์ม บริสุทธิ์ ต่อเนื่อง เป็น เวลา กว่า 20 ปีแล้ว

34. องค์การ สห ประชาชาติ ได้ถวาย รางวัล ความสำเร็จ สูงสุด ด้านการ พัฒนา มนุษย์ แด่ ในหลวง เมื่อ วันที่ 26 พฤษภาคม 2549 เพื่อ สดุดี พระ เกียรติคุณ พระราช กรณีย กิจ ด้านการ พัฒนา ชีวิต ความ เป็นอยู่ ของ ประชาชน ชาวไทย โดยมี นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางมาถวายรางวัลด้วยตนเอง

35. พระนาม เต็ม ของในหลวง : พระบาท สมเด็จ พระ ปรมิน ทรา มหา ภูมิพล อดุลยเดช มหิตลา ธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤ บดินทร สยามิน ทราธิราช บรมนาถ บพิตร

36. รัก แรกพบ ของ ในหลวง และ หม่อมสิริกิติ์ เกิดขึ้น ที่ สวิส เซอร์แลนด์ แต่ เหตุการณ์ ครั้งนั้น สมเด็จ พระบรม ราชินีนาถ ฯ ทรงให้ สัมภาษณ์ ว่า ‘น่าจะเป็น เกลียด แรกพบ มากกว่า รักแรกพบ เนื่อง เพราะ รับสั่งว่า จะเสด็จ ถึง เวลา บ่าย 4 โมง แต่ จริง ๆ แล้ว เสด็จ มาถึง หนึ่งทุ่ม ช้ากว่า เวลา นัดหมาย ตั้ง สาม ชั่วโมง

37. ทรงหมั้น กับ ม.ร.ว. สิริกิติ์ กิติยากร เมื่อ วันที่ 19 กรกฎาคม 2492 และ จัด พระราช พิธี ราชา ภิเษก สมรส ที่วัง สระปทุม เมื่อ วันที่ 28 เมษายน 2493 โดยทรง จด ทะเบียน สมรส เหมือนคน ทั่วไป ข้อความ ในสมุด ทะเบียน ก็เหมือน คน ทั่วไป ทุกอย่าง ปิด อากร แสตมป์ 10 สตางค์ เสียค่า ธรรมเนียม 10 บาท

37. หลัง อภิเษก สมรส ทรง ‘ฮันนีมูน ‘ที่ หัวหิน

38. ทรง ผนวช ณ พระ อุโบสถ วัด พระศรี รัตน ศาสดาราม ใน พระบรม มหา ราชวัง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2499 และ ประทับ จำพรรษา ณ วัดบวร นิเวศ วิหาร เป็น เวลา 15 วัน

39. ระหว่าง ทรงผนวช พระ อุปัชฌาย์ และ พระ พี่เลี้ยง คือ สมเด็จ พระญาณ สังวร สมเด็จ พระ สังฆราช

40. ของใช้ ส่วน พระองค์ นั้น ไม่จำเป็น ต้องแพง หรือ ต้อง แบรนด์เนม ดังนั้น การถวาย ของ ให้ ในหลวง จึง ไม่จำเป็น จะต้อง เป็น ของแพง อะไร ที่ มาจาก น้ำใจ จะทรง ใช้ทั้งนั้น

41. เครื่อง ประดับ : ในหลวง ไม่ทรง โปรด สวม เครื่อง ประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ ของ มีค่า ต่าง ๆ ยกเว้น นาฬิกา

42. พระเกศา ที่ทรง ตัดแล้ว : ส่วนหนึ่ง เก็บไว้ ที่ธงชัย เฉลิมพล เพื่อมอบ แก่ทหาร อีก ส่วนหนึ่ง เก็บไว้ สร้าง วัตถุ มงคล เพื่อมอบ แก่ ราษฎร ที่ทำ คุณงาม ความดี แก่ ประเทศชาติ

43. หลอด ยาสี พระทนต์ ทรง ใช้จน แบนราบ เรียบ คล้าย แผ่น กระดาษ โดยเฉพาะ บริเวณ คอหลอด ยังปรากฏ รอยบุ๋ม ลึก ลงไป จนถึง เกลียว คอหลอด ซึ่ง เป็นผล จาก การใช้ ด้ามแปรง สีพระทนต์ ช่วยรีด และ กด เป็นรอย บุ๋ม

44. วันที่ ในหลวง เสียใจ ที่สุด คือ วันที่ สมเด็จย่า เสด็จ สวรรคต มี หนังสือเล่า ไว้ว่า วันนั้น ในหลวง ไป เฝ้าแม่ ถึง ตีสี่ ตีห้า พอ แม่หลับ จึง เสด็จ ฯ กลับ เมื่อถึง วัง ทาง โรงพยาบาล ก็ โทรศัพท์ มาแจ้ง ว่า สมเด็จย่า สิ้น พระชนม์ แล้ว ในหลวง รีบ กลับไป ที่ โรงพยาบาล เห็น แม่ นอน หลับตา อยุ่ บนเตียง ในหลวง คุกเข่า เข้าไป กราบ ที่อกแม่ ซบหน้านิ่ง อยู่นาน ค่อย ๆ เงย พระพักตร์ ขึ้นมา น้ำพระเนตร ไหลนอง

45. โครงการ อันเนื่อง มาจาก พระราช ดำริ จนถึง ปัจจุบัน มี จำนวน กว่า 3,000 โครงการ

46. ทุกครั้ง ที่เสด็จ ฯ ไปยัง สถานที่ ต่าง ๆ จะทรง มี สิ่ง ของ ประจำ พระองค์ อยู่ 3 สิ่ง คือ แผนที่ ซึ่งทรง ทำ ขึ้นเอง (ตัดต่อ เอง ปะกาว เอง) กล้อง ถ่ายรูป และ ดินสอ ที่มี ยางลบ

47. ในหลวง ทรงงาน ด้วย พระองค์ เอง ทุกอย่าง แม้ กระทั่ง การ โรเนียว กระดาษ ที่จะ นำมาให้ ข้า ราชการ ที่ เข้าเฝ้า ฯ ถวายงาน

48. เก็บร่ม : ครั้งหนึ่ง เมื่อ ในหลวง เสด็จ ฯ เยี่ยม โครง การ ห้วย สัตว์ใหญ่ เมื่อ เฮลิ คอปเตอร์ พระที่นั่ง มาถึง ปรากฏว่า ฝนตก ลงมา อย่าง หนัก ข้า ราชการ และ ราษฎร ที่ เข้าแถว รอรับ เปียกฝน กัน ทุกคน เมื่อทรง เห็น ดังนั้น จึง มี รับสั่ง ให้ องครักษ์ เก็บร่ม แล้วทรง เยี่ยม ข้า ราชการ และ ราษฎร ทั้งกลาง สายฝน

49. ทรง ศึกษา ลักษณะ อากาศ ทุกวัน โดยใช้ ข้อมูล ที่กรม อุตุนิยม วิทยา นำขึ้น ทูลเกล้า ฯ ร่วมกับ ข้อมูล จาก ต่าง ประเทศ ที่หา มาเอง เพื่อ ป้องกัน ภัย ธรรมชาติ ที่อาจ ก่อความ เสียหาย แก่ ประชาชน

50. โครงการ ส่วน พระองค์ สวน จิตรลดา เริ่มต้น ขึ้นจาก เงิน ส่วน พระองค์ จำนวน 32,866.73 บาท ซึ่ง ได้จาก การขาย หนังสือ ดนตรี ที่พระ เจน ดุริยางค์ จากการ ขาย นมวัว ก็ค่อย ๆ เติบโต เป็น โครงการ พัฒนา มาจน เป็นอย่าง ที่เรา เห็นกัน ทุกวันนี้

51. เวลามี พระราช อาคันตุกะ เสด็จ มาเยี่ยมชม โครงการ ฯ สวน จิตรลดา ในหลวง จะ เสด็จ ฯ ลงมา อธิบาย ด้วย พระองค์ เอง เนื่องจาก ทรงรู้ ทุก ราย ละเอียด

52. ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบ บังคม ทูลถาม ว่า เคย ทรงเหนื่อย ทรงท้อ บ้าง หรือ ไม่ ในหลวง ตอบว่า ‘ความจริง มันน่า ท้อถอย อยู่หรอก ! บางเรื่อง มันน่า ท้อถอย แต่ว่า ฉันท้อ ไม่ได้ เพราะ เดิมพัน ของเรา นั้น สูง เหลือเกิน เดิมพัน ของเรานั้น คือ บ้านเมือง คือ ความสุข ของ คนไทย ทั่วประเทศ’

53. ทรง นึกถึง แต่ประชาชน แม้กระทั่ง วันที่ พระองค์ ทรง กำลัง จะเข้าห้อง ผ่าตัด กระดูก สันหลัง ในอีก 5 ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยังทรง รับสั่ง ให้ ข้าราช บริพาร ไปติดตั้ง คอม พิวเตอร์ เดินสาย ออนไลน์ ไว้ เพราะ กำลัง มีพายุ เข้าประเทศ พระองค์ จะได้ มอนิเตอร์ เผื่อ น้ำท่วม จะได้ ช่วยเหลือ ทัน

54. อาหาร ทรงโปรด : ผัดผัก ทุกชนิด เช่น ผัดคะน้า ผัด ถั่วงอก ผัดถั่ว ลันเตา

55. ผักที่ ไม่โปรด : ผักชี ต้นหอม และตังฉ่าย

56. ทรงเสวย ข้าวกล้อง เป็น พระ กระยา หารหลัก

57. ไม่เสวย ปลานิล เพราะ ทรงเป็น ผู้เลี้ยง ปลานิล คนแรก ใน ประเทศ ไทย โดย ใช้ สระ ว่ายน้ำ ใน พระตำหนัก สวน จิตรลดา เป็น บ่อเลี้ยง แล้ว แจกจ่าย พันธุ์ ไปให้ กรม ประมง

58. เครื่องดื่ม ทรงโปรด : โอวัลติน เป็นพิเศษ เคยเสวย วันหนึ่ง หลายครั้ง

59. ทีวี ช่องโปรด ทรงโปรด ข่าว ช่อง ฝรั่งเศส ของ ยูบีซี เพื่อทรง รับฟัง ข่าวสาร จาก ทั่วโลก

60. ทรงฟัง จส.100 และเคย โทรศัพท์ ไปรายงาน สถาน การณ์ ต่าง ๆ ใน กทม.ไปที จส.100 ด้วย โดยใช้ พระนาม แฝง !
ทรงพระเจริญ

Cr.สมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย

សោយទីវង្គត-สวรรคต ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

ภาษาเขมร: សោយទីវង្គត
อ่านว่า: ซอย ตี วง กด
แปลว่า: สวรรคต
អានថា: សៈវ៉ាន់ណៈឃត់
ภาษาอังกฤษ: to pass away, to die (for kings)

ตัวอย่าง: ព្រះរាជានៃព្រះរាជាណាចក្រថៃបានសោយទីវង្គតនៅថ្ងៃទី ១៣ ខែតុលា ឆ្នាំ២០១៦។
อ่านว่า: : អានត-อ่านต่อ

កម្មវិធីសិក្សាថៃ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาไทย

ตัวชี้วัดต้องรู้และควรรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

ภาษาไทย http://academic.obec.go.th/web/govdoc/d/1979

คณิตศาสตร์ http://academic.obec.go.th/web/govdoc/d/1980

วิทยาศาสตร์ http://academic.obec.go.th/web/govdoc/d/1981

สังคมศึกษา http://academic.obec.go.th/web/govdoc/d/1982

สุขศึกษา http://academic.obec.go.th/web/govdoc/d/1983

ศิลปะ http://academic.obec.go.th/web/govdoc/d/1984

การงานอาชีพ http://academic.obec.go.th/web/govdoc/d/1985

ภาษาต่างประเทศ http://academic.obec.go.th/web/govdoc/d/1986

ក្ងោក-นกยูง ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

ภาษาเขมร : ក្ងោក
อ่านว่า : กฺงาวก์
แปลว่า : นกยูง
អានថា : ណុកយូង
English : Peacock

ขอเน้นนิดนึงครับ สระ ោ นี้ถ้าสะกดกับพยัญชนะเสียง ออ มันเป็นเสียงที่ภาษาไทยไม่มี
ซึ่งเสียงมันได้มาจากการผสมของสองเสียงสระไทย อา+ออ ลองออกเสียง อา ออ แบบเร็วๆ จนได้เสียงพยางค์เดียว
นั่นแหละ คือเสียงของสระ ោ ซึ่งสระเสียงนี้ถ้าสำเนียงสุรินทร์จะเป็นสระ ออ ไปเลย เช่นคำว่า

អានត-อ่านต่อ

“เปลือกมะนาว” ที่เหลือใช้มีประโยชน์ขนาดนี้…ได้โปรดอย่าทิ้ง!

       มะนาวเป็นผลไม้สารพัดประโยชน์ หลายคนคงไม่เคยรู้ว่าไม่ใช่แค่น้ำมะนาวเท่านั้นที่มีประโยชน์ แต่เปลือกของมะนาวก็มีประโยชน์ด้วยเหมือนกัน คนส่วนใหญ่มักจะทิ้งเปลือกมะนาวหลังจากบีบน้ำของมันหมดแล้ว แต่ถ้าหากคุณรู้ว่าเปลือกมะนาวมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน คุณอาจจะเปลี่ยนใจไม่ทิ้งก็ได้นะครับ
       ประโยชน์ของเปลือกมะนาว
       1.ทำความสะอาดไมโครเวฟ 
       เตรียมน้ำใส่ถ้วยที่ใช้กับไมโครเวฟได้ จากนั้นหั่นมะนาวครึ่งลูกบีบน้ำลงไปพร้อมกับเปลือกมะนาวด้วย แล้วนำไปอุ่นในไมโครเวฟสัก 2 นาที ปล่อยให้อุณหภูมิลดลงสักหน่อย
       2.ไล่มด
       บ้านไหนที่มีมดขึ้นบ้าน ก็ให้นำเปลือกมะนาวไปว่างตันทางเดินของมด ทำให้หมดไม่ขึ้นบ้าน
       3.ทำเครื่องหอมประดับบ้าน
       นำเปลือกมะนาวผสมกับเครื่องหอมอื่นๆ ใส่ในขวดปิดฝาทิ้งไว้สักพักก็จะได้เครื่องหอมแล้ว นำไปว่างตามจุดต่างๆของบ้านได้
       4.กำจัดคราบชา กาแฟ
       นำเปลือกมะนาว ใส่ลงไปในแก้ว เทน้ำร้อน ทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง จากนั้นก็ล้างแก้วตามปกติ
       5.ป้องกันความซนของน้องแมว
       นำเปลือกมะนาวไปว่างไว้บริเวณที่ไม่อยากให้น้องแมวเหมียวเข้าไปวุ่นวาย
       6.เพิ่มกลิ่นอโรมาในบ้าน 
       ถ้าหากอยากจะมีกลิ่นหอมอบอวลเหมือนสปาหรูๆ ให้นำเปลือกมะนาว ผสมกับเครื่องหอมชนิดอื่นๆ นำหม้อตั้งเตาไฟ แล้วนำแก้วอีกใบใส่ลงไปในหม้อ เติมน้ำลงไป จากนั้นนำเครื่องหอมที่ผสมไว้ลงไปต้ม แค่นี้บ้านก็จะมีกลิ่นหอมเหมือนอยู่ในสปาแล้ว
       7.ขัดเงาสเตนเลส
       หากมีเครื่องใช้ เครื่องครัวที่เป็นสเตนเลสเริ่มหมองคล้ำ ให้ใช้เกลือป่นโรยบนเครื่องใช้ แล้วนำเปลือกมะนาวขัดถูให้ทั่ว
       8.ลดกลิ่นเหม็นในขยะ 
       ถ้าถังขยะที่บ้านเริ่มส่งกลิ่นเหม็นให้นำเปลือกมะนาว ทิ้งลงไปในถังขยะ ช่วยดับกลิ่นเหม็นได้
       9.ดับกลิ่นน้ำส้มสายชู
       หากกลิ่นเหม็นฉุนของน้ำส้มสายชูทำให้แสบจมูก ก็นำเปลือกมะนาวใส่ลงไปช่วยลดกลิ่นฉุนได้
       10.กำจัดกลิ่นท่อระบายของเสีย
       ถ้าหากท่อระบายน้ำ หรือท่อระบายของเสียส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว กำจัดกลิ่นด้วยเปลือกมะนาวได้
       สุดยอดเลยใช่ไหมคะ จากนี้ไปก็อย่าทิ้งเปลือกมะนาวเด็ดขาดเลย เพราะมันมีประโยชน์อย่างมาก แต่ถ้าหากเปลือกมะนาวไม่ค่อยมีก็สามารถใช้เปลือกส้ม เปลือกเลมอน แทนก็ได้ค่ะ ใช้ได้ผลเหมือนกันนะครับ
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com
แชร์ต่ออีกทีจากไลน์ #healthycare

​ซุปไก่มันฝรั่งเมนูสุขภาพ

วันนี้เอาสูตรดีๆที่แสนอร่อยมาฝากแม่บ้านทุกคนนะครับ เห็นจากภาพแล้วอยากกินมากเลย แต่คงไม่มีโอกาสหรอกมั้ง เพราะแม่บ้านผมเป็นคนที่มีความสามารถในการทำกับข้าวและความขยันที่ค่อนข้างมากเกินไป อิอิอิ
อย่าได้รอช้า ลุยเลยงั้น

– ไก่ วันนี้ผมใช้ ปีกบน เหมือนเดิม(ตอนทำไก่ตุ๋นใช้ไม่หมดหัวเราะ)
– มันฝรั่ง เลือกใช้หัวที่แข็ง และไม่มีตำหนิ
– มะเขือเทศ เลือกลูกที่ดูแล้วสวยๆ ตรงหัวมีใบสีเขียวๆ อยู่
– หอมใหญ่ เลือกที่หัวยังแน่นๆ ไม่มีราดำ
– ขึ้นฉ่าย
– ข่า
– กระเทียม
– อบเชย
– พริกไทยดำ
– เกลือ
– ผงปรุงรสไก่ บางคนไม่ใส่ก็ได้นะครับ ใส่เพื่อให้ซุปกลมกล่อมขึ้น

เตรียมของเสร็จก็มาเริ่มทำกัน
– ตั้งน้ำให้เดือด(หม้อคู่ใจ ใบเดิม ขอยืมภาพจากตอนทำไก่ตุ๋นนะครับ พอดีลืมถ่ายมา
– พอน้ำเดือดก็ใส่ ข่า อบเชย พริกไทยดำ กระเทียม แล้วตามด้วยไก่ ต้มไว้สัก 20 นาที(ระหว่างต้มกลิ่นจะออกมาหอมมาก
บางคนก็ใช้รากผักชี บางคนก็ใส่แต่มันฝรั่งกับไก่ ลงไปเลย แล้วแต่สูตรเลยครับ ***

*** อย่าลืมช้อนฟองนะครับ เดี๋ยวน้ำจะขุ่นเอา ***
– 20 นาทีผ่านไปก็เอามันฝรั่งลงได้เลยครับ แล้วก็ต้มไว้อีก 10 นาที
– ผ่านไป 10 นาทีก็เอาหอมใหญ่ลงเลยครับ(ทำสบายๆ ชิวไปเรื่อยเปื่อย
– 10 นาทีต่อมาหอมใหญ่เริ่มใส ก็เอามะเขือเทศลงหม้อตามไปเลยครับ จากนั้นก็ต้มไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาที
– ใส่ขึ้นฉ่าย แล้วปรุงรสด้วยเกลือกับผงปรุงรสไก่ครับ(ถ้าไม่มีรสไก่ ใช้รสหมูแทนก็ได้ครับ ที่ใส่ผงปรุงรสเพราะทำให้น้ำกลมกล่อมขึ้น)

*** สำหรับบางคนตอนปรุงรส มีทั้งน้ำปลา น้ำตาล เกลือ พริกไทยป่น ฯลฯ อันนี้แล้วแต่ความชอบเลยนะครับ ***
ตักมาชิมสักถ้วยนึง ไก่เปื่อย มันฝรั่งนุ่ม หอมใหญ่กับมะเขือเทศเปื่อยพอดี

ขอขอบคุณเจ้าของสูตรและภาพจากสมาชิกหมายเลข873861เว็บพันทิป http://pantip.com/topic/31100664