ลูกเดือย บำรุงกระดูก-สายตารักษาโรคเบาหวาน

image

ลูกเดือยจัดเป็นพืชตระกูลข้าว ในปัจจุบันนิยมนำมาเป็นส่วนผสมหนึ่งของน้ำ RC น้ำเพื่อสุขภาพคนที่ชอบกินอาหารเจ คงรู้จักลูกเดือยดี ในตำรายาจีนกล่าวว่า ลูกเดือย รสชุ่มจืด เย็น แก้ร้อนใน บำรุงไต บำรุงม้าม ปอด กระเพาะอาหาร ม้าม ขับปัสสาวะ รวมทั้งบำรุงเลือดลมในสตรีหลังคลอด รักษาอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย แก้ไข้ เหน็บชา ชักกระตุก สตรีตกขาวมากกว่าปกติ
ในตำรายาจีนจึงมักใช้ลูกเดือยบดผสมข้าว ต้มเป็นข้าวต้มกินทุกวันเพื่อบำรุงกำลัง หล่อลื่นกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้บวมน้ำ ปวดข้อไขข้ออักเสบ ปวดเข่าเรื้อรัง บำรุงม้าม ตับ ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไข้ แก้ท้องเสีย แก้ทางเดินหายใจ เหน็บชา แก้ชักกระตุก ปอดอ่อนแอไอเป็นเลือด แก้อาการ ตกขาวผิดปกติ ช่วยย่อยอาหาร บำรุงเส้นผมและผิวหนัง แก้ร้อนในกระหายน้ำ ลดการเกิดกระ รักษาโรคหูด นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการรับประทานลูกเดือยต้มน้ำตาลสามารถที่จะแก้ร้อนในได้
เมื่อพิจารณาส่วนประกอบทางเคมีของลูกเดือยมี คาร์โบไฮเดรต ๕๘-๖๒ % – ไขมัน ๕ % – โปรตีน ๑๒ % – น้ำ ๑๐.๘ % – ใยอาหาร ๘.๔ %
นอกจากนี้ในลูกเดือยยังมีวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม วิตามินเอ วิตามินบีหนึ่ง เป็นต้น ดังนั้นลูกเดือยเป็นอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายสูง จึงมีสรรพคุณในการบำรุงกำลัง และการที่มีวิตามินบีหนึ่งสูงจึงช่วยแก้เหน็บชาตามความเชื่อของชาวจีน
มีข้อมูลการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ว่าสาร coxenolide ในเมล็ดเดือยมีสรรพคุณในการยับยั้งการเจริญของเนื้องอก และพบว่าสารสกัดด้วยน้ำหรือตัวทำละลายอินทรีย์ จากรากหรือเมล็ดเดือยมีฤทธิ์ทำให้การหมุนเวียนของเลือดที่ผิวหนังดีขึ้น ทำให้เส้นผมเจริญดีขึ้น ลูกเดือยยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคหูดที่มักจะเป็นเรื้อรัง ซึ่งอาจเป็นเพราะสารจากลูกเดือยมีฤทธิ์ทำให้เลือดมาเลี้ยงที่ผิวหนังดีขึ้น หรือจากฤทธิ์ยังยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก
สำหรับน้ำลูกเดือยให้ฟอสฟอรัสสูงมากช่วยบำรุงกระดูก รองลงมามีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา บำรุงธาตุ เป็นอาหารสำหรับคนไข้พักฟื้น ช่วยเจริญอาหาร ลูกเดือย มีกรดอะมิโนที่กระตุ้นให้เซลล์สมองหลั่งสารที่ทำให้นอนหลับ สมองที่ทำงานอยู่ตลอดเวลา จะได้หยุดพักชั่วคราว จึงแนะนำให้ผู้ที่นอนไม่หลับ ดื่มน้ำอุ่นผสมลูกเดือยจะช่วยให้นอนหลับได้
คุณค่าลูกเดือยยังมีอีกมากเพราะลูกเดือยมีกรดอะมิโนทุกชนิดที่สูงกว่าความต้องการตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ยกเว้นเมทไธโอนีนและไลซีน เช่น มีกรดกลูตามิกในปริมาณมากตามด้วยลูซีน, อลานีน,โปรลีน วาลีน, ฟินิลอลานีน, ไอโซลูซีน และอาร์จีนีนลดหลั่นลงมา แถมลูกเดือยยังมีกรดไขมันจำเป็นชนิดที่ไม่อิ่มตัวด้วย เช่น กรดโอเลอิค และกรดลิโนเลอิก รวมแล้วถึง ๘๔ % และเป็นกรดไขมันชนิดอิ่มตัว คือ ปาล์มิติ และสเตียริก เพียง ๑๖ % เท่านั้น
ลูกเดือยเป็นอาหารที่มีคุณภาพคับเมล็ดจริงๆ เพราะให้ทั้งพลังงาน ไขมัน แร่ธาตุ และกรดที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างยอดเยี่ยม รู้อย่างนี้แล้วบรรดา ส. (สูงวัย) ทั้งหลายรีบหามากินกันนะครับ
วิธีทำน้ำลูกเดือย นำลูกเดือยดิบมาประมาณ ๔ ถ้วยตวง ล้างน้ำให้สะอาด ใส่หม้อเติมน้ำประมาณ ๑๐ ถ้วยตวง ตั้งไฟเคี่ยวจนลูกเดือยสุกเปื่อย ใส่น้ำตาลทราย ๒ ถ้วยตวง เกลือป่นเสริมไอโอดีน ๑ ช้อนชา พักไว้ให้เย็น แล้วใส่ในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด ก็จะได้น้ำลูกเดือยกินเพื่อสุขภาพ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก จำรัส เพชรนิล
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

ประโยชน์ของลูกเดือย

ลูกเดือยมีคุณค่าทางอาหารสูง เพราะมีปริมาณโปรตีน 13.84% คาร์โบไฮเดรต 70.65% ใยอาหาร 0.23% ไขมัน 5.03% แร่ธาตุต่างๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะฟอสฟอรัสมีอยู่ในปริมาณสูงมากเมื่อเทียบกับธัญพืชชนิดอื่นๆ ซึ่งช่วยบำรุงกระดูก ฟัน เหมาะสำหรับผู้มีภาวะกระดูกพรุน วัยทอง เป็นอย่างมาก รวมทั้งมีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา วิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 โดยเฉพาะวิมามินบี 1 มีในปริมาณมาก (มีมากกว่าข้าวกล้อง) ซึ่งช่วยแก้โรคเหน็บชาด้วย

ลูกเดือยมีโปรตีนสูงเทียบเท่าโปรตีนที่ได้จากข้าวโอ๊ต มีกรดอะมิโนทุกชนิดในลูกเดือยสูงกว่าความต้องการตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก และกรดอะมิโน เป็นตัวสำคัญที่ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น เพราะกรดอะมิโนจะไปกระตุ้นให้เซลล์สมองหลั่งสารที่ทำให้นอนหลับ สมองก็จะพักการทำงานชั่วคราว ยิ่งกว่านั้นลูกเดือยยังมีกรดไขมันจำเป็นชนิดที่ไม่อิ่มตัวด้วย เช่นกรดโอเลอิค

จากงานวิจัยพบว่า ลุกเดือย-ธัญพืชมหัศจรรย์ชนิดนี้ มีสารโคอิกซีโนไลด์ (Coixenolide) ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ช่วยย่อยอาหาร ช่วยลดน้ำตาลและไขมันในเลือด ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน ป้องกันหวัด บำรุงไต ลดความดันเลือดได้อีกด้วย

เคล็ดลับการหุงลูกเดือยให้อร่อย

หุงลูกเดือยผสมกับข้าวกล้อง มีวิธีทำดังนี้

1. แช่ลูกเดือย (เลือกพันธุ์ตามชอบ) ในน้ำทิ้งไว้ 6 ชั่วโมงถึง 1 คืน เพื่อให้เมล็ดดูดซับน้ำไว้จนอิ่มตัว (ถ้าไม่แช่น้ำเวลาต้มเมล็ดจะสุกยากหรือแข็งเป็นไต)

2. เทน้ำที่แช่ทิ้ง เติมน้ำสะอาดลงไป นำไปต้มจนลูกเดือยสุก โดยสังเกตว่าเมล็ดจะใส หรือตักเมล็ดขึ้นมาบี้ดู เนื้อจะนิ่ม

3. หากต้องการลดระยะเวลาในการต้ม สามารถใส่เบกกิ้งโซดาเล็กน้อยลงไปในน้ำต้ม จะช่วยทำให้เมล็ดสุกเร็วขึ้น

4. ปิดไฟ ใช้กระชอนตักเมล็ดขึ้น แล้วแช่ลงในน้ำธรรมดาหรือน้ำเย็น เพื่อให้เมล็ดกระจายตัว ไม่เกาะกันเป็นก้อน จากนั้นยกกระชอนขึ้น สะเด็ดน้ำ ตักลูกเดือยใส่ถุงพลาสติคในปริมาณที่จะกินแต่ละวัน มัดปากถุงให้แน่น แล้วนำไปแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็ง

5. เมื่อจะหุงข้าว นำลูกเดือยออกจากตู้เย็น หลังซาวข้าวกล้องเรียบร้อยแล้ว ใส่ลูกเดือยแช่แข็งลงไป ปิดฝาหม้อ กดปุ่มหุงข้าวได้ทันที ลูกเดือยจะกระจายตัวผสมรวมกับข้าวกล้อง และไม่ทำให้ข้าวกล้องแฉะ

ซุปลูกเดือย

ส่วนผสมซุปลูกเดือย

ลูกเดือย 1 ถ้วย

อกไก่ 1 ชิ้น

แครอทสับ 1/2 ถ้วย

หอมหัวใหญ่สับ 3 ช้อนโต๊ะ

เห็ดหอมหั่นบาง 1/4 ถ้วย

โรสแมรี่ 1/2 ช้อนชา

นมสด 1/2 ถ้วย

พริกไทย 1 ช้อนชา

เกลือ 1 ช้อนชา

น้ำตาล 1 ช้อนชา

พาเมซานชีสนิดหน่อย

วิธีทำซุปลูกเดือย

1. ต้มลูกเดือยให้สุกก่อน นำอกไก่มาหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋า

2. นำหม้อตั้งน้ำให้ร้อน ใส่อกไก่ลงไป พอเดือดก็ใส่ส่วนผสมลูกเดือยที่เราต้มแล้ว ใส่แครอทสับ ใส่หอมหัวใหญ่สับ ใส่เห็ดหอมหั่นบาง ใส่นมสด แล้วต้มให้สุก

3. พอสุกก็ใส่ โรสแมรี่ พริกไทย เกลือ น้ำตาล ชิมรสอีกครั้ง แล้วตักใส่ถ้วยโรยหน้าด้วยพาแมซานชีส ก็พร้อมเสิร์ฟ

หากไม่ชอบทานเนื้อไก่ สามารถเปลี่ยนเป็น หอยนางรม หอยเชลล์ ก็ได้ หากชอบรสจัดก็เติมเกลือและน้ำตาลเพิ่มได้ตามชอบ

กินลูกเดือยสลับกับกินธัญพืชชนิดอื่นๆ รับรองว่า ความฉลาด หุ่นดี อ่อนเยาว์ และอายุยืน

Leave a Reply