พระพุทธเจ้าสอนให้แบ่งเงินเป็น 4 ส่วน

พระพุทธเจ้าสอนให้แบ่งเงินเป็น 4 ส่วนคือ
1. ใช้หนี้เก่า
2. ให้เขากู้
3. ฝังไว้ใช้
4. ทิ้งใส่เหว
– ใช้หนี้เก่า คือ ให้พ่อแม่ ท่านให้กำเนิดและเลี้ยงเรามา เราเป็นหนี้บุญคุณท่าน ต้องตอบแทน

– ให้เขากู้ คือ ให้ลูกหลาน ลูกหลานได้รับอุปการะ ต่อมาภายหลัง ก็จะกลับมาใช้หนี้เราคือเลี้ยงดูเราในยามชรา

– ฝังไว้ใช้ คือ ทำบุญ เพื่อฝังไว้เป็นอริยะทรัพย์ สำหรับใช้ในการเดินทางไปใน สังสารวัฏ

– ทิ้งใส่เหว คือ เที่ยวกินใช้ไป พระองค์ทรงเปรียบท้องคนเราเป็นเหวลึก กินเข้าไปเท่าไหร่ก็ไม่เคยเต็ม

คัมภีร์กฎแห่งกรรม 3 ชาติ ได้บันทึกไว้ว่า “สามีภรรยา ” มีกรรมร่วมกันมา ไม่ว่าจะกรรมดี หรือกรรมชั่ว ถ้าไม่มีกรรม ร่วมกันมา ก็ไม่อาจอยู่ร่วมบ้านหลังเดียวกันได้ ” บุตรธิดา ” คือ หนี้ ไม่ว่าจะเป็นทวงหนี้ หรือชดใช้หนี้ ไม่มีหนี้ ไม่มาเกิดเป็น พ่อ แม่ ลูกกัน”

ดังนั้น สามีภรรยา ที่มีกรรมดีร่วมกันมา ย่อมสมานสามัคคี รักใคร่กลมเกลียว ถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร ส่วนสามีภรรยา ที่มีกรรมชั่ว ร่วมกัน มาแต่อดีตชาติ ย่อม ทะเลาะเบาะแว้ง บ้านแตกสาแหรกขาด ไม่อาจอยู่ร่วมกัน จนวันตาย
ส่วน ” บุตรธิดา ” ที่มาทวงหนี้ เป็นลูกที่ไม่เอาไหน เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจไม่ วายเว้น ” บุตรธิดา ” ที่มาใช้หนี้ จะสำรวมระวัง รู้คุณทดแทนคุณ ไม่กล้า ทำให้พ่อแม่ ชอกช้ำใจ ชาวโลก ทุกคน เกิดมาต่างหนีไม่พ้น พบ พราก สุข ทุกข์ เศร้า อภัย แค้น รัก ชัง นี่คือผลแห่งของกรรม ปลูกเหตุเช่นไร ย่อมได้ลิ้มผลเช่นนั้น ไม่ว่าจะเหตุใด หรือ ผลใด ล้วนหนีไม่พ้น กฏแห่งกรรมทั้งสิ้น

1. มาแทนคุณ ด้วยบุญในอดีต ที่ได้สั่งสมร่วมกันมา ด้วยพระคุณที่มีต่อกัน จึงได้มาเกิดเป็นพ่อแม่ลูกหลานกัน เราเรียกบุตรธิดาเหล่านี้ว่า “ลูกกตัญญู” เขามาเพื่อที่จะทดแทนคุณ เป็นเด็กดี ฉลาด เชื่อฟัง เขาเหล่านี้ไม่มีทาง จะทำอะไรเสียหาย ให้พ่อแม่ต้อง กลัดกลุ้มกังวลใจ

2. มาล้างแค้น ด้วยกรรมในอดีต ที่ได้สร้างร่วมกันมา จึงได้มาเกิดเป็นพ่อแม่ลูกหลานกัน เมื่อเติบใหญ่ก็จะกลายเป็นลูกล้างผลาญ ทำให้ครอบครัวล่มสลาย เราเรียกบุตรธิดาเหล่านี้ว่า “ลูกทรพี” เขามาล้างแค้น ดังนั้น อย่าได้ผูกเวรไว้กับเขา เจ้ากรรมนายเวรที่อยู่ภายนอก ยังพอป้องกันได้ แต่นี่เกิดมาเป็นลูกหลานในบ้านใน ตระกูลแล้ว จะทำอย่างไรดี ดังนั้น อย่าทำร้ายใคร อย่าฆ่าแกงกัน เพราะต่างคนต่างก็รักตัวกลัวตายเช่นกัน

3. มาทวงหนี้ ชาติก่อนหนหลัง พ่อแม่เป็นหนี้ไว้ ไม่ได้ชดใช้คืน หนี้ที่ว่าคือ หนี้เงิน ไม่ใช่หนี้ชีวิต เขาจึงเกิดมาเพื่อทวงหนี้คืน หากเป็นหนี้กันน้อย เกิดมาให้ดูแลปีสองปีเขาก็ตาย เราเป็นหนี้เขาเท่าไหร่ เมื่อใช้หมด เขาก็ไป ต่อให้คุณรักเขามากแค่ไหน เขาก็ไม่เคยใส่ใจคุณ หากเป็นหนี้เขาเยอะ เลี้ยงจนเติบใหญ่ จบมหาวิทยาลัย เรียนจบวันนั้น ก็ตายวันนั้น เขาไม่อยู่รับใช้เรา เพราะมาทวงหนี้ หนี้หมดก็จากไป

4. มาใช้หนี้ชาติก่อนหนหลัง เขาเป็นหนี้พ่อแม่ไว้ ไม่ได้ชดใช้คืน เมื่อเขาเกิดมาในชาตินี้ จึงต้องทำงาน หาเงิน เหน็ดเหนื่อย เพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ แต่ก็อยู่ที่ว่า เป็นหนี้พ่อแม่มาก น้อยเพียงใด หากเป็นหนี้มาก ก็ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ เป็นอย่างดี หากเป็นหนี้พ่อแม่น้อย ก็เลี้ยงดูตามอัตภาพเหมือนที่เราเคยพบเห็น เลี้ยงพ่อแม่ประหนึ่งคนรับใช้ในบ้าน เพราะอะไร เพราะมาใช้หนี้กรรม ลูกประเภทนี้ แม้จะเลี้ยงดูพ่อแม่ แต่ก็หล่อเลี้ยงแค่กาย ไม่หล่อเลี้ยงจิตใจ เลี้ยงดูโดยปราศจากความเคารพ และความกตัญญู ซึ่งต่างจากบุตรที่เกิดมา เพื่อทดแทนคุณ ประเภทนี้ไม่เพียงแต่หล่อเลี้ยงกาย ยังหล่อเลี้ยง จิตใจบุพการี ด้วย

หลักธรรมในข้อนี้ มิใช่เพียงแค่ลูกหลาน ยังรวมทั้งญาติพี่น้อง และคนรอบข้าง ทั้งหลาย ที่เราได้รู้จัก และเคยได้อยู่ร่วมกันมา หากแต่เป็นเพราะ กรรมที่ก่อกันมา หนักหนา หรือ เบาบาง หากบุญคุณ ความแค้นหนักหนา ก็เกิดมาเป็นสามีภรรยา และลูกหลานพี่น้อง หากบุญคุณ และความแค้นเบาบาง ก็เกิดมาเป็นญาติสนิทมิตรสหาย คุณเดินซื้อของในตลาด อยู่ๆคนแปลกหน้า ก็มายิ้มให้คุณและ คุณก็ยิ้มตอบ ล้วนเป็นบุญกรรม แต่ชาติปางก่อน แต่ถ้าคุณรู้สึก ขัดหูขัดตา แถมไม่พอใจ ยังถ?ตา ใส่ฝ่ายตรงข้ามอีก นี่ก็ล้วนเป็นบุญกรรม แต่ชาติปางก่อนเมื่อเข้าใจในกฏแห่งกรรม เหล่านี้ เราจะได้ไม่ผูกกรรมด้านดำเพิ่ม แต่จงผูกกรรมด้านขาวซึ่งเป็นกรรมดีจะดีกว่า

แล้วจะแก้ไขอย่างไร หากเราและลูกหลานผูกกรรมที่ ไม่ดีต่อกันมา แต่ปางก่อนแล้ว คำตอบก็คือ นำพาลูกหลานเข้าวัด หมั่นบำเพ็ญปฏิบัติธรรม ศึกษาพระธรรม เมื่อต่างฝ่ายต่างศึกษาธรรม ย่อมแปรกรรมร้าย ให้กลายเป็นกรรมดีได้ ย่อมคลายความจองจำ คับแค้นให้สลายคลายลงได้ เช่นนี้ที่เราเรียกว่า “เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิต เปลี่ยนร้าย กลายเป็นดี”
สาธุ?

อ่านจบแล้วแชร์ไปได้บุญ