ไม้ดอกชนิดหนึ่งบนพื้นโลกได้รับการเรียกขาน เป็นชื่อของดวงดาวที่อยู่ไกลโพ้นขอบฟ้า ไม้ดอกที่กล่าวถึงนั้นคือ ดาวกระจาย
ดาวกระจาย : ความงามจากอีกฟากโลก
ดาวกระจายมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cosmos lipin-natas Cav. อยู่ในวงศ์ Compositae เป็นไม้ล้มลุกเนื้ออ่อน ลำต้นสูงราว 1 เมตร
ใบ ออกตามลำต้น โดยจะออกตรงข้ามกันไป ลักษณะใบเป็นเส้นเล็กๆ ตามเส้นใบ
ดอก เป็นดอกเดี่ยว อยู่บนก้านยาว ออกเป็น กลุ่มๆ กระจายออกไปเป็นทรงพุ่ม แต่ละดอกมีกลีบดอก 8 กลีบ ส่วนใหญ่เป็นกลีบชั้นเดียว ปลายกลีบดอกเป็นซี่หยัก ดอกมีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 5 เซนติเมตร
กลีบดอกดาวกระจายปกติมีสีเหลือง แต่ปัจจุบันดาวกระจายพันธุ์ใหม่ๆ มีกลีบดอกสีต่างๆ มากมาย เช่น ขาว ชมพู แดง ม่วง แสด และสีเหลือง ขนาดของลำต้นก็มีขนาดต่างๆ กัน ทั้งเล็กลงและใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ดาวกระจายมีถิ่นดั้งเดิมอยู่ในเขตร้อนของทวีปอเมริกา โดยเฉพาะประเทศเม็กซิโก แล้วจึงกระจายไปทั่วโลก สำหรับประเทศไทยไม่มีบันทึกว่าเริ่มปลูกดาวกระจายครั้งแรกเมื่อใด แต่คงหลังปี พ.ศ.2416 เพราะไม่มีชื่อในหนังสืออักขราภิธานศรับท์ ปีพ.ศ. 2416
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับดาวกระจายก็คือ ชื่อทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย มีความหมายคล้ายคลึงกัน และแสดงถึงจินตนาการอันกว้างไกล กล่าวคือ ชื่อสกุลของดาวกระจาย (COSMOS) นั้น หมายถึงจักรวาล และดวงดาวทั้งหมดบนฟากฟ้า ส่วนในภาษาไทย ดาวกระจายนั้น หนังสืออักขราภิธานศรับท์ให้ความหมายไว้ว่า “คือดวงดาวทั้งปวง ที่ขึ้นรายเรียงกันเกลื่อนกลาด กระจายไปนั้น”
จากความหมายทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย จะมองเห็นจินตนาการของมนุษย์ เมื่อมองเห็นดอก ดาวกระจายบานไสวอยู่เต็มต้น เป็นเอกลักษณ์ที่ต่างจากไม้ดอกชนิดอื่นๆ อย่างชัดเจน
ดาวกระจายเป็นไม้ดอกที่ชอบกลางแจ้ง แดดจัด ปลูกง่าย โตเร็ว ขยายพันธุ์โดยเมล็ด เป็นไม้ดอกที่ปรับตัวเข้ากับสภาพดินฟ้าอากาศของเมืองไทยได้ดียิ่งขึ้นชนิดหนึ่ง จนอาจนำเมล็ดไปหว่านลงบนพื้นดินได้ โดยไม่ต้องไถพรวนใดๆ เลยก็ได้
เมื่อมีความชื้นพอเหมาะเมล็ดก็จะงอกงามแข่งกับวัชพืชต่างๆ ได้เองโดยไม่ต้องเข้าไปดูแลช่วยเหลือ และเมื่อดาวกระจายออกดอกติดเมล็ดและร่วงลงบนพื้นดิน ก็จะสามารถงอกขึ้นใหม่ได้เองอีกในปีต่อไป
ที่มา : หมอชาวบ้าน