งาดำ ผลวิจัยว่า กินวันละ 4 ช้อนชา ไม่อ้วน ไม่แก่ตามวัย ไม่เป็นมะเร็ง มีแคลเซียมมากกว่านมวัว 6 เท่า มีธาตุเหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ทองแดง และมีวิตามินบีหลายชนิด ที่ดีต่อระบบประสาท ช่วยให้นอนหลับ สดชื่นกระฉับกระเฉง มีสารบำรุงประสาทด้วย และมีวิตามินอีเป็นตัวต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ห่างไกลมะเร็ง
งาดำ ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งพืชน้ำมัน ราชันแห่งธัญพืช” ในงาดำมีสารสำคัญคือ “เซซามิน” รศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบัณฑิตศึกษาและอาจารย์ประจำภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับ สารสกัดงาดำ “เซซามิน” พบว่ามนุษย์มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากงามากว่า 4,000 ปีแล้ว “เซซามิน” ในงาดำมีคุณประโยชน์ 8 ประการ คือ
1. ช่วยเผาผลาญ สลายไขมัน ลดความอ้วน เสริมสร้างกล้ามเนื้อ
2. ลดการดูดซึม และการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล
3. ทำให้ระดับไขมันอยู่ในสัดส่วนพอดี
4. เสริมการทำงานของวิตามินอี
5. ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในระบบประสาท
6. ลดปฏิกิริยาความเครียด
7. ต้านอนุมูลอิสระ
8. ต้านการอักเสบ
สรรพคุณลดการอักเสบ มีการทดลองกับกระดูกอ่อนของหมู พบว่าสารเซซามินที่สกัดจากงาดำสามารถยับยั้งการเสื่อมสลายของเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนที่ห่อหุ้มข้อต่างๆ ของร่างกายได้ จึงเชื่อว่าจะมีสรรพคุณเช่นเดียวกันเมื่อนำมาใช้กับคน ทั้งนี้กำลังอยู่ระหว่างการเริ่มทดลองขั้นสูงในระดับคลินิกต่อไป
วิธีทำกินเอง
นำงาดำมาคั่วแล้วบด กินวันละไม่เกิน 4 ช้อนชา
* ต้องควบคุมคุณภาพให้ได้ควรทำกินใหม่ๆ เพราะคั่วไว้นานๆ อาจทำให้เกิดสารพิษก่อมะเร็งได้
* ไม่มีข้อห้ามว่าใครไม่ควรกินงาดำ แต่ก็อาจมีบางคนที่แพ้งาดำ ดังนั้นต้องทดลองกินน้อยๆ ก่อน
นพ.ไพศิษฐ์ ตระกูลก้องสมุท ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท บอกว่า การดูแลตัวเองให้อ่อนเยาว์อยู่เสมอ ให้หลีกเลี่ยง แสงแดด อาหาร การเผาผลาญในร่างกาย ความเครียด มลพิษต่างๆ ฯลฯ เพราะจะเร่งการทำลายเซลล์ต่างๆ ในร่างกายให้เสื่อมเร็วขึ้น ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ
ที่สำคัญสุดๆ คือกินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ อาทิ กลุ่มของธัญพืชอย่าง งาดำ เพราะงาดำนอกจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูงแล้ว ยังมีสารเซซามินสารต้านอนุมูลอิสระชั้นสูง ที่สามารถดักจับอนุมูลอิสระ สาเหตุของริ้วรอยและปัญหาผิวเหี่ยวย่น ด้วยการช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ ยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระ และการดูดซึมไขมัน รวมถึงเพิ่มออกซิเจนให้ผิว
แนะนำเทคนิคสำคัญในการกินงาดำให้ได้ประโยชน์นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบดให้ป่น หรือเคี้ยวให้ละเอียด ซึ่งจะได้ทั้งกากใย และสารอาหารที่มีประโยชน์ในเมล็ดงาอย่างครบถ้วน
******* *******
ชีวอโรคยา แบ่งปันความรู้ทั่วไป เพื่อเป็นวิทยาทาน เพื่อความพอเพียง เพื่อสุขภาพที่ดี โปรดใช้วิจารณญาณ และใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานไปต่อยอดศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตนเอง ไม่ตอบคำถามเพิ่มเติม ไม่รับปรึกษาปัญหาสุขภาพ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ประจำหน้าเพจ
เรียบเรียงโดย ชีวอโรคยา อ้างอิงข้อมูลจาก dailynews.co.th/article/251540 / น้ำมันงาดำดอทคอม
ภาพโดย ชีวอโรคยา สงวนลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2558
ชีวอโรคยา อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีไม่พึ่งสารเคมี ไม่ต้องรอให้ป่วยไปเสียค่ารักษาพยาบาลแพงๆ
ติดตามข้อมูลข่าวสาร การดูแลตัวเองวิถีธรรมชาติ ไม่พึ่งสารเคมีได้ที่ Facebook ชีวอโรคยา
www.facebook.com/pages/ชีวอโรคยา/135957369811772