សេវាកម្មប្រែភាសា ថៃ ខ្មែរ អង់គ្លេស รับแปลภาษา เขมร ไทย อังกฤษ

Featured


ไทย เขมร

មានសេវាកម្មប្រែភាសា รับแปลภาษา

    • ខ្មែរ ថៃ – ថៃ ខ្មែរ เขมรเป็นไทย ไทยเป็นเขมร
    • អង់គ្លេស ថៃ – ថៃ អង់គ្លេស อังกฤษเป็นไทย ไทยเป็นอังกฤษ
    • អង់គ្លេស ខ្មែរ – ខ្មែរ អង់គ្លេស อังกฤษเขมร เขมรเป็นอังกฤษ

អានត-อ่านต่อ

คุณชื่ออะไร ภาษาเขมรพูดว่าอะไร

ชมคลิปในติ๊กตอกไปด้วย อ่านไปด้วยก็ได้ครับ
https://vt.tiktok.com/ZS8Ebvu1d/

ชื่ออะไร ภาษาเขมร
คุณชื่ออะไร

ภาษาเขมรพูดว่า តើអ្នកឈ្មោះអ្វី?

อ่านว่า ตาว เนียะ ชะมั้วะ อะเว็ย

คำว่า តើ จริงๆ สระ ើ ไม่มีเสียงสระไหนตรงในภาษาไทย

หลายคนก็จะเขียนเป็น เตอ แต่ ผมเขียนเป็น ตาว ก็แล้วกัน รู้สึกว่า มันดูใกล้เคียงกว่า

คำนี้เป็นคำสร้อยที่ใช้ในการขึ้นต้นประโยคคำถามครับ ไม่มีความหมายใดๆ

ส่วนจบประโยคจะต้องลงท้ายด้วยด้วย ? ด้วยนะ

អ្នក เนียะ แปลว่า คุณ เธอ คำนี้เปลี่ยนไปได้ตามสถานการณ์เลยครับเช่น

លោក โหลก ท่าน
បង บอง พี่
ប្អូន ปโอน หรือ អូន โอน แปลว่า น้อง
ឯង แอง แก
ហែង แฮง มึง(ผช) ង៉ែង แงง มึง(ผญ) สองคำนี้ข้ามไปได้เลยครับ
តា ตา ตา/ปู่
យាយ เยียย ยาย/ย่า (เยียย ย.ยักษ์ สามตัว ไม่ได้พิมพ์ตกน่ะ)
ពូ ปู แปลว่า น้า/อา ผช
មីង มีง น้า/อา ผญ
អ៊ំ อม ลุง/ป้า

ส่วน ឈ្មោះ แปลว่าชื่อ จริงๆต้องออกเสียงว่า ชโม้ะฮ์ (พยางค์เดียวนะ) แต่เวลาพูด หลายคนชอบออกเสียงว่า ชมั๊วะฮ์

ส่วนคำว่า អ្វី อะเว็ย เวลาพูดชอบตัดสั้นๆเป็น អី เอ็ย แปลว่า อะไร

 

ได้อะไรกินข้าว ภาษาเขมรพูดว่าอะไร

ได้อะไรกินข้าว ภาษาเขมร

ได้อะไรกินข้าว

มาถึงประโยคทักทายภาษาเขมรที่ขาดไม่ได้เลย

ได้อะไรกินข้าว ภาษาเขมรพูดว่า បានអីញ៉ាំបាយ?

อ่านออกเสียงว่า អានត-อ่านต่อ

มีเมียยัง ภาษาเขมรพูดว่าอะไร

เมีย

เมีย

ถึงคำเสนอของแฟนๆที่เป็นสาวไทย อยากจีบหนุ่มกัมพูชาบ้างแล้วครับ

คำว่า มีเมียยัง ภาษาเขมรใช้คำว่า មានប្រពន្ធនៅ?

อ่านว่า អានត-อ่านต่อ

มีผัวยัง มีสามียัง ภาษาเขมรพูดว่า

นี่ผัวนะ

นี่ผัวน่ะ

คำว่า มีผัวยัง มีหลัวยัง มีสามียัง ภาษาเขมรใช้คำว่าอะไร

ง่ายๆเลยครับ មានប្ដីហើយនៅ?

อ่านว่า អានត-อ่านต่อ

มีแฟนยัง ภาษาเขมรพูดว่าอะไร

มีแฟนยัง

ภาษาเขมรพูดว่า មានសង្សារហើយនៅ?

อ่านว่า เมียน ซ็อง ซา เฮย เนิ้ว?

ซ็องซา แปลว่า แฟน ใช้ได้ทั้ง ชายและหญิง

สบายดีไหม ภาษาเขมรพูดว่าอะไร

สบายดีไหม ภาษาเขมรพูดว่า សុខសប្បាយជាទេ?

อ่านออกเสียงว่า สก สับบาย เจีย เต๊

สบายาดีไหม

อย่าเอาคำพูดไร้สมองมาคิด

កុំយកសំដីគេមកគិតច្រើនពេកព្រោះអ្នកខ្លះនិយាយដោយមិនប្រើខួរទេ។ กม โยก ซ็อม แด็ย เก โหมก กึด เจริน เปก โประ เนียะ คล้ะ นิเยียย ดอย เมิน เปริ แปลว่าอย่าเอาคำพูดของเขามาคิดมากเพราะบางคนเขาพูดโดยไม่ได้ใช้สมองเลย

สุขสันต์วันแห่งความรัก

วันแห่งความรัก ภาษาเขมรใช้คำว่า ថ្ងៃក្ដីស្រឡាញ់ อ่านออกเสียงว่า ทฺไง กแด็ย ซฺรอ ลัญ

ส่วนภาษาไม่เป็นทางการเขาเรียกว่า បុណ្យសង្សារ ออกเสียงว่า บน ซ็อง ซา

ชาร์จมือถือ ภาษาเขมรพูดว่าอะไร ว่าด้วยเรื่องเสียง Ch&Sh

ชาร์จแบตเตอรี่ ภาษาเขมร พูดว่าอะไร

ภาษาเขมร : សាក
อ่านว่า : ซ้ะก์
แปลว่า : ชาร์จ

จริงๆแล้วคำว่า សាក มาจากคำว่า Charge นั่นแหละ แต่เขมรออกเสียงตามฝรั่งเศสครับ

ภาษาอังกฤษออกเสียงว่า ชาร์จ ซึ่ง Ch ในภาษาอังกฤษ เป็นเสียง(tʃ) ช.ช้าง แต่ก็ไม่ใช่ช.ช้างตรงๆครับ เป็นเสียงชัดกว่าช.ช้าง หรืออาจจะพูดได้ว่า ท.ทหาร ผสมกับ ช.ช้าง (tʃ) นั่นเอง

ส่วนอีกเสียงหนึ่งในภาษาอังกฤษคือ sh เป็นเสียง ช.ช้างที่คล้ายกับการผิวปากเบาๆ (ʃ) แต่แน่นอน ไม่ใช่ช.ช้างชัดๆนะครับ แต่ในภาษาไทย sh กับ ch เป็น ช.ช้างหมดเลย

แต่ในฝรั่งเศส ch กลายเป็นเสียง sh ในภาษาอังกฤษ หรือเสียง ʃ แต่ก็ไม่ใช่ ช.ช้าง เช่นกัน

ส่วนในภาษาเขมร มีแค่ช.ช้าง เหมือนไทยครับ คนที่เรียนภาษาฝรั่งเศสยุคก่อน ไม่รู้เอาตัวไหนมาแทนเสียง ʃ ก็เลยเขียน ស្ស แต่คนอ่านตาม ស្ស ก็ยังออกเสียง ซ.โซ่ อยู่ดี ซึ่งคำว่า Charge (ชาร์กฺ) เขมรสมัยก่อนก็เขียนเป็น ស្សាក ซ้าก ซึ่งอ่านแล้วเสียงก็ไม่ได้ออกต่างจาก សាក-ซ้าก เลย คนรุ่นหลังก็เลยตัดปัญหาด้วยการตัดเชิงไปซ่ะเลย เหลือแค่ សាក ซ้าก นี่เองครับ

แต่ถ้าฟังดีๆ การออกเสียงในภาษาเขมรเวลาสะกดกับก.ไก่ ก็ไม่ใช่ สาก หรือ ซ้าก หรือ ซาก แต่อย่างใด มันจะออกประมาณว่า ซ้าก์ คือ ก.ไก่ แค่ทำให้เสียงสระอา ค้างเท่านั้นครับ ไม่รู้ที่เขียนมาสื่อให้เพื่อนๆ อ่านแล้วรู้เรื่องไหม

คำว่าชาร์จไฟ ถ้าเอาภาษาเขมรล้วนเลยก็มีครับ แต่จะยาวหน่อยครับ បញ្ចូលថ្ម บ็อญโจล ทะมอ (เติมถ่าน(หิน)) หรือ បញ្ចូលភ្លើង อ่านว่า บ็อญโจลเพลิง (เติมไฟ) ครับผม

โอเค มาดูตัวอย่างกัน

ตัวอย่าง : សុំសាកទូរស័ព្ទបន្តិចសិនណា។
อ่านว่า : ซม ซ้าก์ ตูระสับ บ็อนเต๊ก เสิน น่า
แปลว่า : ขอชาร์จโทรศัทพ์ก่อนน่ะ

เพิ่มเติม

ឆ្នាំងសាក ชนังซ้าก์ (หม้อชาร์จ หมายถึงหัวชาร์จ)
ខ្សែសាក คะแซซ้าก์ (สายชาร์จ)
ថ្ម ทะมอ (ถ่านหิน หมายถึง แบตขนาดเล็กหรือถ่านก็ได้ครับ)
អាគុយ อากุย (แบตตะกั่วกรดครับ)

เมื่อถึงที่สุดแล้ว
ทุกอย่างก็เป็นเรื่องธรรมดา

ทั้งปัญหาที่เคยมี
ความทุกข์ที่เคยเกิด
ความสุขที่เคยผ่าน
ความเศร้าที่เคยจม
ความท้อแท้ที่เคยบั่นทอน
ความเสียใจที่มองไม่เห็นทางออก
โรคภัย ไข้เจ็บที่เบียดเบียน

นี่แหละ! สัจธรรมแห่งชีวิต
มีเกิด ดับ หมุนวนเวียนสับเปลี่ยนกันไป

เมื่ออยู่กับความธรรมดาอย่างเข้าใจ
ก็จะเห็นความจริงว่า
จะทุกข์หนักแค่ไหน มันก็จะผ่านไป
จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปในวันหนึ่ง

เครดิตเพจ ยิ้มสู้

อ่านแล้วจะเข้าใจว่าทำไมไทยมันถึงไม่เจริญ

ไทยตั้งอยู่ในพื้นที่ๆดีที่สุดในทุกๆ ด้าน คือ

1.ที่ตั้ง:
จะว่าอยู่ใจกลางโลกก็ว่าได้
เพราะรอบข้างมีแต่ประเทศ
ที่มีประชากรมาก เช่น
อินเดีย 1,200 ล้านคน
จีน 1,400 ล้านคน
ญี่ปุ่น 100 ล้าน
อินโดนีเซีย 400 ล้านคน
ฟิลปปินส์ เวียดนาม เกาหลี
ล้วนแต่ 100 ล้านคน >>
ซึ่งหมายถึงตลาดการค้า
ตลาดอาหารและยาสมุนไพร
ที่ใหญ่มหาศาลยิ่ง

2.มีสภาพพื้นที่เป็นแหลม
ยื่นลงไปในทะเลระหว่าง
สองมหาสมุทร
คือมหาสมุทรอินเดีย
และมหาสมุทรแปซิฟิก
เป็นทั้งแหล่งอาหาร
ออกเรือหาปลาได้
ถึงสองมหาสมุทร
ทั้งจะติดต่อค้าขาย
กับทุกประเทศ
ก็สะดวกยิ่งนัก

3.บนผืนแผ่นดิน
ก็อุดมสมบูรณ์ด้วย
พืชพันธ์ุธัญญาหาร
มีทรัพยากรธรรมชาติ
ที่หลากหลาย มีป่าไม้
แหล่งน้ำ กุ้งหอย
ปู ปลา ทั้งในน้ำจืด
และในทะเล
ทุกพื้นที่ในป่า ในบ้าน
ในสวน เต็มไปด้วย
พืชอาหาร และพืชสมุนไพร
มากมายเหลือเกิน
เป็นทั้งครัว และคลังยาสมุนไพร
ของโลกไปพร้อมกันได้เลยทีเดียว

4.ใต้ผืนดินก็มี
แร่ธาตุนานาชนิด
มีแหล่งน้ำมันดิบ
และแก๊สธรรมชาติ
มากมายมหาศาลยิ่งนัก
มากกว่าประเทศกลุ่มโอเป็ก
หลายประเทศเสียด้วยซ้ำไป

5.เรามีภูมิปัญญา
ในการใช้สมุนไพร
ที่สืบทอดจากบรรพชน
มากมายเหลือเกิน
ที่สามารถนำมา
วิจัยพัฒนาต่อยอด
ให้มีประสิทธิภาพ
เป็นยาสมุนไพร
ที่มีมาตรฐาน
ในการรักษาโรค
ได้ไม่แพ้ยาเคมีจากต่างประเทศ สามารถส่งเป็นสินค้า
ออกไปขายทั่วโลกได้
สร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ
เสริมความมั่นคงของชาติได้อย่างดี

6.เรามีธรรมชาติที่สวยงาม
มีหาดทรายยาวสองฝั่งทะเล
มีน้ำตก มีถ้ำ เพิงผา ป่าไม้
ภูเขา อ่าว แหลม
ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว
ที่ดีมากมาย

7.ตั้งอยู่ในเขตร้อนที่แดดจัด
สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้า
จากแสงอาทิตย์ใช้
อย่างไม่ต้องกลัวหมด
มีลมบก ลมทะเล
ที่สามารถแปลงเป็น
พลังงานไฟฟ้าได้ไม่รู้สิ้น

8.ตั้งอยู่ในเขตที่ไม่เสี่ยง
ต่อภัยธรรมชาติที่รุนแรง
ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว
ไม่มีภูเขาไฟที่คุกรุ่น
ไม่มีลมพายุที่รุนแรง
เช่น ทอร์นาโด หรือใต้ฝุ่น

9.เท่านั้นยังไม่พอ
เรายังมีพุทธศาสนา
ซึ่งเป็นศาสนาที่มี
คำสอนที่สมบูรณ์
ที่เป็นวิทยาศาสตร์
มากที่สุดอีกด้วย

10.เรามีคนไทยที่จิตใจดี
ยิ้มแย้ม มีน้ำใจ มีความฉลาด
เรียนรู้เร็ว สามารถพัฒนาได้ง่าย

👉ด้วยจุดแข็งทั้ง 10 ข้อ
ดังที่กล่าวมา
ดินแดนไทยถือเป็น
ดินแดนสวรรค์บนดินก็ว่าได้
ใครก็ตามที่ได้เกิดในประเทศนี้
ถือได้ว่าโชคดี
ไม่ต่างจากได้เกิดบนสววรค์

👉คนไทยส่วนใหญ่
ควรจะมีความสุขที่สุดในโลก
มีสุขภาพดี ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
มีฐานะมั่งคั่ง ร่ำรวย กันถ้วนหน้า

⚠️แต่ในความเป็นจริง
กลับตรงกันข้าม

❌จุดอ่อน ของประเทศไทย

❎มีคนไทยเพียงไม่กี่ตระกูล
ที่เป็น

🎠1.ขุนทหาร

🚔2.ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

🎭3.นักการเมืองใหญ่

💰4.นายทุนระดับชาติเท่านั้น
ที่ร่ำรวย ที่เสพสุขอยู่บน
กองทุกข์ของประชาชน
อย่างล้นเหลือ ราวกับ
เทพยดาเดินดินก็ไม่ปาน

😢แต่คนส่วนใหญ่
กลับตกอยู่ในขุมนรก
ของความยากจน
ที่นับวันพวกเขายิ่งจน
ยิ่งเป็นหนี้พอกพูนรุนแรง

🌳ทรัพยากรธรรมชาติ
ถูกทำลาย ป่าไม้กลายเป็น
ป่าเสื่อมโทรม
พื้นที่ทำเกษตร
ในแม่น้ำลำธาร
เต็มไปด้วยสารพิษ
ทางการเกษตรตกค้าง
สัตว์น้ำลดลง
แทบไม่เหลือ
เนื่องจากสารพิษ
ปนเปื้อนในน้ำ
ทำให้การขยายพันธ์ุ
สัตว์น้ำลดลงมาก
ส่งผลให้แหล่งอาหาร
ตามธรรมชาติ
ของคนไทยลดลง
อย่างน่าใจหาย
คนต้องซื้ออาหาร
จากตลาดในราคาแพง
แทบทั้งหมด

🏥มีคนเจ็บไข้ได้ป่วย
เป็นโรคมะเร็งมาก
เป็นอันดับ 1 ของโลก
เนื่องจากรับสารเคมี
ที่ปนเปื้อนในพืชผัก
ในอาหารและน้ำ
เข้าสู่ร่างกายทุกวัน
เป็นเวลานาน
นอกจากนี้ยังมีโรคไต
โรคเบาหวาน โรคหัวใจ
โรคความดันโลหิต
โรคอ้วน ฯลฯ
เนื่องจากขาดสภาพแวดล้อม
และการดำเนินชีวิตที่เหมาะสม
จนคนป่วยล้นทุกโรงพยาบาล
ทำให้คนไทยจำนวนมาก
ทุกขเวทนาจากการเจ็บไข้ได้ป่วย

⚰ทั้งไม่ปลอดภัย
ในชีวิตและทรัพย์สิน
คนชั่วไม่เกรงกลัวกฏหมาย
มียาเสพติด มีอาชญากรรม
เต็มบ้านเต็มเมือง
คนธรรมดาอยู่ที่ไหน
ก็ไม่ปลอดภัย

💲การทุจริตคอรัปชั่น
ยิ่งเพิ่มทวีทุกระดับ
ยักษ์ใหญ่โกงใหญ่
ยักษ์เล็กโกงเล็กๆ
โกงตามที่มีแรงจะโกง
บ้านเมืองเข้าสู่ยุค
“มือใครยาว สาวได้ สาวเอา”
อย่างแท้จริง

คือ ชนชั้นนำของไทย
ตั้งแต่ปี 2500
ได้ใช้หลัก “รัฐศาสตร์มาร”
ในการปกครองบ้านเมือง
คือ การปกครองประเทศ
แบบ ฉ้อฉล หลอกลวง
“คดในข้อ งอในกระดูก”
“มุ่งทำให้ประชาชนอ่อนแอ”
ทำให้ประชาชน
ตกอยู่ในวงจรอุบาทว์
“โง่-เลว-จน-เจ็บ”
เพื่อให้ปกครอง
อย่างเอารัด เอาเปรียบ
คดโกง ได้สะดวกง่ายดาย

**ข้อคิดที่น่าวิเคราะห์
ของสังคมไทย **

ปัญหาความเหลื่อมล้ำ
ในทุกๆ ด้าน ,
ปัญหาความยากจน, หนี้สิน,
แม้แต่ปัญหาโรคภัยไข้เจ็บ
แม้จะดูว่าเกิดตามธรรมชาติ
แต่แท้จริงปัญหาพวกนี้
ล้วนแล้วแต่เติบโต
และขยายใหญ่ ลุกลาม
ทวีความรุนแรงขึ้น
เนื่องจากโครงสร้าง
การปกครองที่ชั่วร้าย
ที่รวบอำนาจไว้ที่คนไม่กี่คน
ไม่มีระบบถ่วงดุลอำนาจที่ดีพอ
ทำให้ผู้ปกครอง
ทำหรือไม่ทำอะไรก็ได้
ผู้ปกครองกลายเป็น
ตัวขัดขวาง
การแก้ไขปัญหา
ทุกปัญหา
เร่งให้มีปัญหา
และปัญหาขยาย
ใหญ่ขึ้นมากขึ้น ทั้งสิ้น

↗️วิธีการทำให้ประชาชน “โง่”
โดย จัดการที่หลักสูตรการศึกษา
ทำให้เด็กไม่รักการอ่าน
ไม่ชอบการคิดหาเหตุผล
ไม่สอนปรัชญาประชาธิปไตย
ไม่สอนประวัติศาตร์
วีรชนที่เป็นสามัญชน
ไม่สอนให้รู้จักการเอาตัวรอด
ในระบบทุนนิยม
ไม่สอนให้รู้จักการรวมตัวกัน
ต่อสู้ปัญหาเศรษฐกิจ
ในรูปกลุ่ม หรือสหกรณ์ ฯลฯ

↙️วิธีการทำให้ประชาชน “เลว”
เรื่องนี้เน้นที่ปัญญาชน
คนชั้นกลาง
โดยจัดการที่การศึกษา

⬅️จะไม่ฝึกการมีวินัย

⬅️ไม่ปลูกฝังความรู้
ทางศาสนาอย่างจริงจัง
เพื่อให้คนไม่คิด
พัฒนาจิตใจตนเอง
เพื่อความเป็นมนุษย์

⬅️ไม่ปลูกฝังจิตสำนึกรักชาติ
ให้ปัญญาชน-กีดกันการแสดงออก
ทางการเมืองของนักศึกษาปัญญาชน
เพื่อทำให้ปัญญาชน
เห็นแก่ตัวให้มากที่สุด

⬅️เพื่อให้ปัญญาชนคนรุ่นใหม่
คิดแต่ประโยชน์ส่วนตน
ตัวใครตัวมัน
ไม่เห็นใจคนยากคนจน
ไร้จิตสำนึกความเป็นมนุษย์
ที่จะต้องเอื้อเฟื่อเผื่อแผ่
ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ที่ด้อยกว่า

🚸ทำได้ดังนี้ ทางก็สะดวก
ไม่มีใครขัดขวางการทุจริต
การทำลายชาติของชนชั้นบน

⛔แย่ถึงขนาดว่า
ถ้าใครพูดถึงการเมือง
พูดถึงปัญหาชาติบ้านเมือง
ชนชั้นกลาง
ส่วนหนึ่งก็พากันต่อต้าน
ไม่ให้พูด ซึ่งเท่ากับ
“ปกป้องการคอรัปชั่น
ปกป้องคนทำลายชาติ
กันเลยทีเดียว
แล้วจะไม่ให้ประเทศนี้
แย่ที่สุดในโลก ได้อย่างไร ?

🚷วิธีการทำให้ประชาชน “จน”
แค่ออกกฎหมายกีดกัน
สร้างความเหลื่อมล้ำ
ในการประกอบอาชีพ
เช่น กฎหมายการเงินการธนาคาร
การผลิตสุรา และอื่นๆ
ที่ไม่เท่าเทียม
ออกนโยบายส่งเสริมด้านอุตสาหกรรม

🚫เลิกการสนับสนุนด้านเกษตร
งดเงินสนับสนุนวิทยาลัยเกษตร
ในต่างจังหวัด
กลับไปสนับสนุน
วิทยาลัยการกีฬาแทน
ซึ่งไม่ได้พัฒนาอาชีพอะไร
ไม่สนับสนุนการวิจัย
ข้าว ยาง อ้อย พืชสวน ฯลฯ

⬇️ปล่อยให้มีการบุกรุก
ทำลายป่าไม้ แหล่งน้ำ
ซึ่งเป็นแหล่งอาหาร และสมุนไพร

↘️สนับสนุนปุ๋ย เคมีฆ่าหญ้า
ยาฆ่าแมลง
เพื่อทำลายสัตว์น้ำในธรรมชาติ
ทำลายดิน ทำให้น้ำปนเปื้อนสารพิษ

✔แค่นี้ เกษตรกรก็ล้าหลัง
แข่งขันไม่ได้
ตกเป็นเบี้ยล่างนายทุน
ยา ปุ๋ย พันธ์ุพืช-สัตว์
เครื่องจักรกลการเกษตร ฯลฯ

✔แค่นี้เกษตรกร ก็ต้องทิ้ง
ลูก เมีย ไร่ นา ไปหางานทำ
เป็นกรรมกรในกรุงเทพฯ

✔การอ้างส่งเสริมอุตสาหกรรม
และการท่องเที่ยว
จงใจละเลยการเกษตร
ซึ่งเป็นอาชีพของคนส่วนใหญ่ นั้น
ชั่วร้ายเกินที่จะกล่าว

❌อย่าลืมว่าคนสามัญชน
66 ล้านคนของไทย
ไม่มีใครมีศักยภาพพอ
ที่จะครอบครองเทคโนโลยีสูง
หรือเป็นเจ้าของสถานที่ท่องเที่ยว
เป็นเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม
ที่ใช้เทคโนโลยีสูงได้
อย่างดีก็เป็นได้แต่ลูกจ้าง
เป็นทาสนายทุน
ประชาชนจะมีรายได้สูง
ตามที่โม้ว่า
เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
จะเป็นไทยแลนด์ 4.0
ได้อย่างไร?

✖วิธีการทำให้ประชาชน “เจ็บ”
แค่เว้นภาษีนำเข้า
ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า
เพียงอ้างว่า
เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
ให้ซื้อของเหล่านี้ได้ถูก
ทั้งที่จริงถ้านำธรรมชาติ
มาคิดเป็นต้นทุนแล้ว
มันจะแพงแสนแพงก็ตาม

นอกจากจะทำให้
นายทุนยาพิษรวย
จนสะดือปลิ้นแล้ว
ยาเหล่านี้ยังไป
ปนเปื้อนในดิน น้ำ อากาศ
นอกจากทำให้ปลา สัตว์น้ำ
ในธรรมชาติแทบสูญพันธุ์แล้ว
ยังทำให้คนไทยทุกคน
ได้รับยาเหล่านี้ผ่านอาหาร
สัมผัสโดยตรง
ทำให้เจ็บไข้ได้ป่วย
ด้วยโรคมะเร็ง
โรคต่างๆ สารพัด
ทำให้ธุรกิจค้าความตายเหล่านี้
เติบโตสูบเงินคนไทย
ไปไม่ต่ำกว่าปีละ
เก้าแสนล้านบาททีเดียว

🎭หลายคนอาจไม่ทราบว่า
สารพิษ เคมีเกษตรนั้น
ปลอดภาษีมูลค่าเพิ่ม

↗️ แต่ จุลลินทรีย์ชีวภาพ
กำจัดแมลงที่ปลอดภัย
และคนไทยทำได้เอง
กลับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
(นี่คือความคดในข้อฯ
ของกฎหมายที่ออก
โดยคนชั้นสูง ครับ)

🚫เพื่อกีดกันด้านการค้า
และเพื่อชะลอเทคโลโลยีอินทรีย์
ที่ปลอดภัยและผลิตได้เอง
อย่างชะงัดนัก

🔜บทสรุป สั้นๆ <<🔚

ปัจจุบัน ประเทศนี้แย่ที่สุดเพราะ

1.ชนชั้นนำไทย
ที่พยายามทำลายไทย
เพื่อประโยชน์ของตน
และโคตรตระกูลตนฝ่ายเดียว

2.ชนชั้นกลางและชนชั้นล่าง
ที่ไร้ความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง
เห็นแก่ความสุขสงบของตน
มองการต่อต้านความอยุติธรรม
ของการปกครอง
เป็นความวุ่นวาย
และพากันต่อต้าน
การต่อสู้ของประชาชน

Cr: ภาพ

แก้ปัญหาทีกระเด็น ฝึกภาษาเขมรกัน

✈️ នៅព្រលានយន្តហោះ Amsterdam ប្រទេស Netherland, ដើម្បីកាត់បន្ថយចំណាយលើការសំអាត បង្គន់នោមបុរស! គេបានគូររូប រុយ តូចមួយនៅលើចានបង្គន់, ធ្វើដូចនេះ សុភាពបុរសទាំងអស់ រួមទាំងរូប Admin នឹងព្យាយាមតម្រង់ បាញ់អោយចំរុយ ដែលជាការកាត់បន្ថយ នូវការខ្ទាតចេញរបស់ទឹកនោម 💦

อ่านว่า

แปลว่า ที่สนามบิน amsterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์เพื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดห้องน้ำผู้ชายเขาได้วาดรูปแมลงวันตัวเล็กๆ 1 ตัวในโถปัสสาวะที่ทำเช่นนี้เพราะว่าสุภาพบุรุษทั้งหลายรวมทั้ง admin ด้วยจะพยายามเล็งยิงแมงวันซึ่งเป็นการลดการกระเด็นของน้ำปัสสาวะ

ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีครับ

ขอบคุณเพจ AdminRatanak

พนมโบกโก (เขาโหนกวัว)

เดินทางสักสองร้อยโล ออกจากกรุงพนมเปญ มุ่งไปทางใต้ใกล้อ่าวไทย ถึงจังหวัดกำโปตแล้วขึ้นไปยังเขาพนมโบกโก (Phnom Bokor) ไปที่ทุ่งกรอ-ลอม แล้วเด็ดฝักกรอลอมกระดกน้ำในกระบอกฝักเข้าปาก เขาว่าเป็นน้ำอมฤตศักดิ์สิทธิ์ รักษาโรคแถมโป้วกำลัง

Cr: Admin Aj. Viroj

ว่าด้วยเรื่องบอร์เดอร์พาสส์ในฝั่งเขมร

Border Pass Cambodia…ว่าด้วยเรื่องบอร์เดอร์พาสส์ในฝั่งเขมร คือจังหวัดบันเตียเมียนเจ็ย ประชาชนในจังหวัดนี้จะไปทำกันที่ศาลากลางจังหวัดในตัวเมืองศรีโสภณ แต่ถ้ามีทะเบียนบ้านอยู่ที่กรุงปอยเปตก็ทำกันที่สำนักงานกรุงปอยเปต ตลาดพซาร์กัณดาล กม.๔ สนนราคาปกติไม่เกิน 50,000 เรียล (400 บาท) จะได้รับเล่มภายในหนึ่งถึงสองเดือนแต่ถ้าอยากได้เล่มเร็วๆไวๆต้องเพิ่มใต้โต๊ะอีก 1500 บาท-3000 บาท ขึ้นอยู่ที่ว่าจะรับเล่มด่วนเพียงใด….เมื่อได้เล่มแล้วก็ไปขอใบรับรองการฉีดวัคซีนแล้วมายื่นให้ตม.เขมรเพื่อปั๊มออกไปตลาดโรงเกลือหรือสถานที่ใดในจังหวัดสระแก้วกับปราจีนบุรี ไม่เกินสามวันสองคืน….เมื่อชาวเขมรไปปั๊มออกครั้งแรกต้องเสียค่าปั๊มครั้งแรกเป็นเงินไทย 100 บาท แล้วเข้าไปนั่งค้าขายในแผงของตนที่ตลาดโรงเกลือ เมื่อถึงกำหนดกลับและปั๊มออกมาใหม่เสียเงิน 50 บาท และครั้งล่าสุดในการปั๊มออกมาตลาดโรงเกลือ ขึ้นเป็น 70 บาท และครั้งต่อไป…ยังไม่รู้ว่าตม.เขมรจะปรับราคาขึ้นเป็นเท่าไร ? ส่วนตม.ด่านคลองลึกทางฝั่งไทยไม่เก็บจากคนเขมรแม้แต่สลึงเดียว….จึงขอเรียนบอกคนไทยที่ใช้บอร์เดอร์พาสในการเข้าเมืองเขมรว่าต้องทำใจ คิดเสียว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม คนมันอดยากปากแห้งมานานกว่าสองปี ถึงเวลามีกินมันก็ต้องมูมมามไม่คิดหน้าคิดหลัง เรียกว่าฟันไม่เลือกหน้าทั้งคนชาติเดียวกันหรือต่างชาติ (คนไทย) คิดแต่เพียงว่าเอาวันนี้ให้รอดก่อนส่วนเขาจะย้ายไล่ออกปลดออกไปว่ากันทีหลัง แต่ถ้าหัวส่าย หางก็ย่อมกระดิก. ….อยู่กันยาวๆๆๆๆไปเลย

Cr: Aj. Viroj

รับแปลภาษา เขมร<=>ไทย

โดย อ.ฤทธี คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

เป็นชาวกัมพูชา จบปริญญาโททางด้านภาษา

ประสบการณ์แปลและล่าม 7 ปี

ราคากันเอง

Posted in Ads

ស្ងាត់ម្លេះ-เงียบจัง ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

ภาษาเขมรวันละคำวันนี้ขอเสนอคำว่า

ភាសាខ្មែរ : ស្ងាត់ម្លេះ
อ่านว่า : สฺงัด แมล็ะ
แปลว่า : เงียบจัง
អានថា : ងៀបចាំង
English : So quiet

សរសេរដោយ Admin Ken Ny Rithy (อ.เคน)

ឬស-ราก ภาษาเขมรวันละคำ រៀនភាសាថៃ

ภาษาเขมรวันละคำวันนี้ขอเสนอคำว่า

ភាសាខ្មែរ : ឬស
อ่านว่า : รือฮ์ (สะกดกับ ស ไม่ใช่แม่ กด แต่เป็นแม่ โกะฮ มีเสียง ฮ ครับฉ
แปลว่า : ราก
អានថា : រ៉ាក
English : root

ឧទាហរណ៍ : ព្រឹកម៉ិញខ្ញុំកាប់មែកឫសីមានឬស អាចយកទៅដាំបាន
อ่านว่า : អានត-อ่านต่อ

Posted in Uncategorized